Prime Fertility Center

การทำเด็กหลอดแก้วหรือ ICSI เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ที่มีขั้นตอนที่ใกล้เคียงกับการทำ IVF นั่นก็คือขั้นตอนของการกระตุ้นไข่และการเก็บไข่ หากแต่การปฏิสนธิในวิธี ICSI นั้นจะเป็นการปฏิสนธินอกร่างกายโดยการคัดเลือกเชื้ออสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียง 1 ตัว ผสมกับไข่ 1 ใบ หลังจากนั้นไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะถูกนำไปเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการเพื่อให้เป็นตัวอ่อนที่แข็งแรงเพียงพอ แล้วจึงนำตัวอ่อนที่ได้ ย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิงเพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัวเจริญเติบโตเป็นทารกต่อไป 

วิธีนี้เหมาะสมกับ

- คู่สมรสที่ไม่ประสบความสำเร็จจากการทำ IUI หรือ IVF

- คู่สมรสที่ประสงค์ตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อน

- ฝ่ายชายมีเชื้ออสุจิน้อยหรือผิดปกติอย่างรุนแรง

- ฝ่ายชาย หรือ ฝ่ายหญิง หรือทั้งสองฝ่ายผ่านการทำหมันมาแล้ว

- ฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 35 ปี หรือมีไข่น้อย

อัตราความสำเร็จ ประมาณ 30-40% ต่อรอบการรักษา

ขั้นตอนการทำ ICSI

1. ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจร่างกายทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง

2. การกระตุ้นไข่ ฝ่ายหญิงจะได้รับยาฮอร์โมนไปฉีดกระตุ้นรังไข่เป็นเวลาประมาณ 9-14 วัน

3. ฉีดยาให้ไข่สุกก่อนการเก็บไข่ประมาณ 36 ชั่วโมง

4. เก็บไข่-สเปิร์ม

5. อิ๊กซี่

6. เลี้ยงตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการ

7. ย้ายตัวอ่อนกลับสู่โพรงมดลูก 

8. ทดสอบการตั้งครรภ์หลังการย้ายตัวอ่อนประมาณ 2 สัปดาห์

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- ยากระตุ้นไข่ไม่เกิน 3000 IU 

- อัลตราซาวด์ทางช่องคลอดช่วงกระตุ้นไข่ ไม่เกิน 4 ครั้ง

- พบแพทย์เฉพาะทางช่วงกระตุ้นไข่ ไม่เกิน 4 visit

- ตรวจเลือดติดตามฮอร์โมนช่วงกระตุ้นไข่ ไม่เกิน 4 ครั้ง

- ยาป้องกันไข่ตก ไม่เกิน 4 dose

- ยาฉีดกระตุ้นไข่สุก ไม่เกิน 2 dose

- หัตถการเก็บไข่ 1 ครั้ง

- ยาระงับความรู้สึก 1 dose

- ค่านรีแพทย์สำหรับการเก็บไข่ 1 visit

- ค่าวิสัญญีแพทย์สำหรับการเก็บไข่ 1 visit

- ค่าห้องผ่าตัดและห้องพักฟื้น 1 ครั้ง

- ค่าบริการ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์มาตรฐาน

- ยากลับบ้านหลังเก็บไข่

- การเตรียมความพร้อมของไข่และเชื้ออสุจิ 1 ครั้ง

- การทำ HA ICSI 1 ครั้ง

- บริการเจาะเปลือกตัวอ่อนด้วยการยิงเลเซอร์ 1 ครั้ง

- เพาะเลี้ยงตัวอ่อน 1 ครั้ง 

- แช่แข็งตัวอ่อน 5 ตัว ระยะเวลา 1 ปี  

***การพบแพทย์และการใช้ยา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์***

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจร่างกายชาย-หญิงก่อนการกระตุ้นไข่

- ยา Pergoveris หากจำเป็นต้องใช้

- ยา Cetrotide หรือ Orgalutran หลังเก็บไข่และยาลดการเกิดน้ำในช่องท้อง หากจำเป็นต้องใช้

- การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน

- การย้ายตัวอ่อน

การฉีดเชื้อผสมเทียมหรือ IUI เป็นหนึ่งในการรักษาภาวะมีบุตรด้วยการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่มีวิธีการใกล้เคียงกับการปฏิสนธิแบบธรรมชาติ โดยแพทย์จะฉีดน้ำเชื้อของสามีเข้าไปที่โพรงมดลูกของภรรยาในช่วงการตกไข่ เพื่อให้เชื้ออสุจิไปผสมกับเซลล์ไข่ของฝ่ายหญิงตามธรรมชาตินั่นเอง

วิธีนี้เหมาะกับ

- คู่สมรสที่ฝ่ายหญิงอายุไม่เกิน 37 ปี และมีท่อนำไข่ปกติอย่างน้อย 1 ข้าง

- คู่สมรสที่ฝ่ายชายมีเชื้ออสุจิปกติหรือผิดปกติเพียงเล็กน้อย

อัตราความสำเร็จ

ประมาณ 10-20% ต่อรอบการรักษา และ 40-50% ใน 4-6 รอบการรักษา

ขั้นตอนการทำ IUI 

1. ปรึกษาแพทย์ ตรวจร่างกาย วางแผนการทำ IUI

2. กระตุ้นไข่ แพทย์จะให้ยากระตุ้นไข่ และนัดมาตรวจอัลตราซาวด์เพื่อดูขนาดของไข่

3. ฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตกเมื่อไข่มีขนาดพอเหมาะ

4. แพทย์จะนัดฉีดอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) ภายใน 24 ชั่วโมงหลังไข่ตก

5. ทดสอบการตั้งครรภ์หลังฉีดเชื้อประมาณ 2-3 สัปดาห์

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- พบแพทย์เฉพาะทางช่วงกระตุ้นไข่ (ตามการนัดหมายของแพทย์)

- อัลตราซาวด์ทางช่องคลอดช่วงกระตุ้นไข่ (ตามดุลยพินิจของแพทย์)

- ยากระตุ้นไข่ชนิดรับประทาน ไม่เกิน 10 เม็ด

- ยาฉีดกระตุ้นไข่สุก 1 dose

- ค่าบริการ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์มาตรฐานช่วงกระตุ้นไข่

- การฉีดเชื้อผสมเทียม 1 ครั้ง

- ค่าแพทย์ฉีดน้ำเชื้อ 1 ครั้ง

- ค่าห้องผ่าตัดและห้องพักฟื้น 1 ครั้ง

- ค่าอุปกรณ์และเครื่องมือมาตรฐานสำหรับการเตรียมและฉีดน้ำเชื้อn

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจร่างกายชาย-หญิงก่อนการกระตุ้นไข่

- ยากระตุ้นไข่แบบฉีด คิดค่าใช้จ่ายตามจริง หากจำเป็นต้องใช้

- การตรวจเลือดเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์หลังจบแพ็กเกจ

การแช่แข็งไข่เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้ในการเก็บรักษาไข่ โดยแพทย์จะเก็บไข่ออกมาจากรังไข่ของผู้หญิง และทำการเก็บรักษาไว้ด้วยเทคโนโลยีแช่แข็งแบบผลึกแก้วซึ่งสามารถเก็บไข่ไว้ได้นานนับสิบปี ช่วยปกป้องเซลล์ไข่จากการเสื่อมสภาพตามอายุที่เพิ่มขึ้น และพร้อมสำหรับการนำออกมาใช้ในอนาคตเมื่อต้องการ

วีธีนี้เหมาะกับสตรีในกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้:

- อายุไม่เกิน 35 ปี

- ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์

- ผู้ป่วยก่อนการเข้ารับการรักษาบางประเภท เช่น การฉายรังสี การให้เคมีบำบัด ซึ่งอาจส่งผลต่อภาวะการเจริญพันธุ์

ขั้นตอนการกระตุ้นไข่-เก็บไข่

1. ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจร่างกาย และวางแผนการเก็บไข่

2. ฉีดยากระตุ้นไข่ประมาณ 14 วัน โดยแพทย์จะนัดหมายเพื่ออัลตราซาวด์และเจาะเลือดติดตามฮอร์โมนเป็นระยะ ๆ เพื่อดูการเจริญเติบโตของไข่

3. ฉีดยาให้ไข่สุกก่อนการเก็บไข่ประมาณ 36 ชั่วโมง

4. เก็บไข่ทางช่องคลอด ผู้รับบริการต้องงดน้ำงดอาหารเป็นเวลา 8 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการเนื่องจากแพทย์จะมีการใช้ยาสลบระหว่างการเก็บไข่

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- ยากระตุ้นไข่ไม่เกิน 1800 IU  

- อัลตราซาวด์ทางช่องคลอดช่วงกระตุ้นไข่ ไม่เกิน 4 ครั้ง

- พบแพทย์เฉพาะทางช่วงกระตุ้นไข่ ไม่เกิน 4 visit

- ตรวจเลือดติดตามฮอร์โมนช่วงกระตุ้นไข่ ไม่เกิน 4 ครั้ง

- ยาป้องกันไข่ตก ไม่เกิน 4 dose

- ยาฉีดกระตุ้นไข่สุก ไม่เกิน 2 dose

- หัตถการเก็บไข่ 1 ครั้ง

- ยาระงับความรู้สึก 1 dose

- ค่านรีแพทย์สำหรับการเก็บไข่ 1 visit

- ค่าวิสัญญีแพทย์สำหรับการเก็บไข่ 1 visit

- ค่าห้องผ่าตัดและห้องพักฟื้น 1 ครั้ง

- ค่าบริการ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์มาตรฐาน

- ยากลับบ้านหลังเก็บไข่

- แช่แข็งไข่ 1 ปี จำนวนไข่ไม่เกิน 18 ใบ

***การพบแพทย์และการใช้ยา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์***

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจร่างกายก่อนกระตุ้นไข่

- ยา Pergoveris หากจำเป็นต้องใช้

- ยา Cetrotide หรือ Orgalutran หลังเก็บไข่และยาลดการเกิดน้ำในช่องท้อง หากจำเป็นต้องใช้

เป็นการตรวจร่างกายฝ่ายชายก่อนเข้าสู่กระบวนการ IUI หรือ ICSI เพื่อตรวจหาโรคหรือความผิดปกติที่จะส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ อันจะเป็นประโยชน์ในการรักษาปัญหามีบุตรยากต่อไป

คำแนะนำ

- ไม่จำเป็นต้องงดน้ำ งดอาหารก่อนตรวจ

- ฝ่ายชายควรงดการหลั่ง 2-7 วัน เพื่อความแม่นยำของผลตรวจคุณภาพเชื้ออสุจิ

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจเลือดรายการต่าง ๆ ก่อนการกระตุ้นไข่ 1 ครั้ง ได้แก่ ตรวจหมู่เลือด ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ธาลัสซีเมีย HIV ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอับเสบซี ซิฟิลิส 

- การตรวจวิเคราะห์คุณภาพเชื้ออสุจิ ก่อนการกระตุ้นไข่ 1 ครั้ง

- พบแพทย์เฉพาะทาง 1 visit

- เวชภัณฑ์ทางการแพทย์

- ค่าบริการทางการแพทย์

- ค่าบริการพยาบาล

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจเลือดเพิ่มเติมนอกเหนือจากแพ็กเกจตามดุลยพินิจของแพทย์ เพื่อหาความผิดปกติของคู่สมรส ค่าใช้จ่ายคิดตามจริงขึ้นอยู่กับผู้รับบริการแต่ละเคส

เป็นการตรวจร่างกายฝ่ายหญิงก่อนเข้าสู่กระบวนการ ICSI หรือฝากไข่แช่แข็ง เพื่อตรวจหาโรคหรือความผิดปกติที่จะส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ อันจะเป็นประโยชน์ในการรักษาปัญหามีบุตรยากต่อไป

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจเลือดรายการต่าง ๆ ก่อนการกระตุ้นไข่ 1 ครั้ง ได้แก่ ตรวจหมู่เลือด ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ธาลัสซีเมีย HIV ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอับเสบซี ซิฟิลิส ฮอร์โมนรังไข่ ฮอร์โมนไทรอยด์ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (E2)

- อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด 1 ครั้ง

- พบแพทย์เฉพาะทาง 1 visit

- เวชภัณฑ์ทางการแพทย์

- ค่าบริการทางการแพทย์

- ค่าบริการพยาบาล

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจเลือดเพิ่มเติมนอกเหนือจากแพ็กเกจตามดุลยพินิจของแพทย์ เพื่อหาความผิดปกติของคู่สมรส ค่าใช้จ่ายคิดตามจริงขึ้นอยู่กับผู้รับบริการแต่ละเคส

เป็นการตรวจร่างกายฝ่ายหญิงก่อนเข้าสู่กระบวนการ IUI เพื่อตรวจหาโรคหรือความผิดปกติที่จะส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ อันจะเป็นประโยชน์ในการรักษาปัญหามีบุตรยากต่อไป

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจเลือดรายการต่าง ๆ  ก่อนการกระตุ้นไข่ 1 ครั้ง ได้แก่ ตรวจหมู่เลือด ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ธาลัสซีเมีย HIV ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอับเสบซี ซิฟิลิส 

- อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด 1 ครั้ง

- พบแพทย์เฉพาะทาง 1 visit

- เวชภัณฑ์ทางการแพทย์

- ค่าบริการทางการแพทย์

- ค่าบริการพยาบาล

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าตรวจเลือดเพิ่มเติมนอกเหนือจากแพ็กเกจตามดุลยพินิจของแพทย์ เพื่อหาความผิดปกติของผู้รับบริการ ค่าใช้จ่ายคิดตามจริงขึ้นอยู่กับผู้รับบริการแต่ละเคส

แพ็กเกจตรวจสุขภาพคู่รักแบบครบวงจร ด้วยรายการตรวจมากถึง 14 รายการ ช่วยให้คุณและคู่รักทราบถึงประสิทธิภาพของภาวะการเจริญพันธุ์ โรคทางพันธุกรรมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เหมาะกับคู่รักที่วางแผนมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ หรืออยู่ระหว่างการเลือกวิธีรักษาภาวะมีบุตรยาก

การเตรียมตัวก่อนเข้าตรวจ:

- ไม่จำเป็นต้องงดน้ำและอาหาร

- ฝ่ายชายงดหลั่งน้ำเชื้อ 2 - 7 วันก่อนตรวจ

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- พบแพทย์เฉพาะทาง 1 ครั้ง

- การตรวจคุณภาพเชื้ออสุจิ 1 ครั้ง

- อัลตราซาวด์เชิงกราน 1 ครั้ง

- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดและเกล็ดเลือด 1 ครั้ง

- ตรวจกรุ๊ปเลือด RH  1 ครั้ง

- ตรวจหมู่เลือด ABO 1 ครั้ง

- ตรวจหาธาลัสซีเมีย 1 ครั้ง

- ตรวจหาภูมิคุ้มกันบกพร่อง 1 ครั้ง

- ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี 1 ครั้ง

- ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี 1 ครั้ง

- ตรวจหาการติดเชื้อซิฟิลิส 1 ครั้ง

- ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี 1 ครั้ง

- ตรวจหาภูมิคุ้มกันโรคหัดเยอรมัน 1 ครั้ง

- การตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ 1 ครั้ง

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

รายการตรวจอื่น ๆ นอกเหนือจากแพ็กเกจ เพื่อหาความผิดปกติของคู่สมรสที่จำเป็น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ เช่น ในคู่สมรสที่มีโรคประจำตัวหรือโรคทางพันธุกรรม

การส่องกล้องตรวจโพรงมดลูก (Hysteroscopy) เป็นการตรวจเพื่อหาความผิดปกติในโพรงมดลูก โดยใช้กล้องขนาดเล็กสอดเข้าทางปากมดลูก ซึ่งช่วยให้สามารถเห็นความผิดปกติภายในโพรงมดลูกที่การตรวจร่างกายปกติ เช่น การตรวจภายใน อัลตร้าซาวนด์ ฯลฯ ทำไม่ได้ การใช้กล้องส่องโพรงมดลูกสามารถช่วยตรวจวินิจฉัยโรคทางนรีเวชและผ่าตัดรักษาโรคทางนรีเวช ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทำได้รวดเร็ว แม่นยำ ช่วยให้การรักษาได้ผลดี

ประโยชน์ของการส่องกล้องตรวจโพรงมดลูก

* ช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การฝังตัวของตัวอ่อนดีขึ้น เนื่องจากการส่องกล้องจะทำให้เราเห็นถึงปัญหาต่าง ๆ เช่น  ติ่งเนื้อโพรงมดลูก (Polyp) พังผืดโพรงมดลูก (Adhesion) โพรงมดลูกอักเสบ (Endometritis) และสามารถแก้ไขได้ก่อนที่จะมีการย้ายตัวอ่อนในโปรแกรมทำเด็กหลอดแก้ว หรือ การพยายามมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ

เหมาะกับ

* คู่สมรสที่พยายามมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติแต่ไม่สำเร็จ

* คู่สมรสที่เคยผ่านการฉีดเชื้อผสมเทียมแต่ไม่สำเร็จ

* คู่สมรสที่เคยย้ายตัวอ่อนที่ได้จากการทำเด็กหลอดแก้ว แต่ก็ยังไม่สำเร็จ แม้ว่าตัวอ่อนนั้นมีคุณภาพดี เกรดสวย ตรวจคัดกรองโครโมโซมแล้วพบว่าปกติ

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ 1 ครั้ง

- ค่าธรรมเนียมแพทย์เฉพาะทาง 1 visit 

- อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด 1 ครั้ง

- ยาระงับความรู้สึก 1 dose

- ค่าธรรมเนียมวิสัญญีแพทย์ 1 visit

- ค่าทำหัตถการ 1 ครั้ง

- ค่าห้องผ่าตัดและห้องพักฟื้น 1 ครั้ง

- ค่าบริการ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์มาตรฐาน

- ยารับกลับบ้าน

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าส่งตรวจชิ้นเนื้อ (ถ้ามี) และค่าตรวจเนื้อเยื่อทางพยาธิวิทยา  

การส่องกล้องตรวจโพรงมดลูก (Hysteroscopy) เป็นการตรวจเพื่อหาความผิดปกติในโพรงมดลูก โดยใช้กล้องขนาดเล็กสอดเข้าทางปากมดลูก ซึ่งช่วยให้สามารถเห็นความผิดปกติภายในโพรงมดลูกที่การตรวจร่างกายปกติ เช่น การตรวจภายใน อัลตร้าซาวนด์ ฯลฯ ทำไม่ได้ การใช้กล้องส่องโพรงมดลูกสามารถช่วยตรวจวินิจฉัยโรคทางนรีเวชและผ่าตัดรักษาโรคทางนรีเวช ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทำได้รวดเร็ว แม่นยำ ช่วยให้การรักษาได้ผลดี

ประโยชน์ของการส่องกล้องตรวจโพรงมดลูก

* ช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การฝังตัวของตัวอ่อนดีขึ้น เนื่องจากการส่องกล้องจะทำให้เราเห็นถึงปัญหาต่าง ๆ เช่น  ติ่งเนื้อโพรงมดลูก (Polyp) พังผืดโพรงมดลูก (Adhesion) โพรงมดลูกอักเสบ (Endometritis) และสามารถแก้ไขได้ก่อนที่จะมีการย้ายตัวอ่อนในโปรแกรมทำเด็กหลอดแก้ว หรือ การพยายามมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ

เหมาะกับ

* คู่สมรสที่พยายามมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติแต่ไม่สำเร็จ

* คู่สมรสที่เคยผ่านการฉีดเชื้อผสมเทียมแต่ไม่สำเร็จ

* คู่สมรสที่เคยย้ายตัวอ่อนที่ได้จากการทำเด็กหลอดแก้ว แต่ก็ยังไม่สำเร็จ แม้ว่าตัวอ่อนนั้นมีคุณภาพดี เกรดสวย ตรวจคัดกรองโครโมโซมแล้วพบว่าปกติ

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าทำหัตถการ 1 ครั้ง

- ค่าห้องผ่าตัดและห้องพักฟื้น 1 ครั้ง

- ค่าบริการ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์มาตรฐาน

- ยารับกลับบ้าน

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าส่งตรวจชิ้นเนื้อ (ถ้ามี) และค่าตรวจเนื้อเยื่อทางพยาธิวิทยา  

บริการตรวจคุณภาพเชื้ออสุจิที่ไพร์ม เฟอร์ทิลิตี้ คลินิก เป็นการตรวจเพื่อวิเคราะห์ความสมบูรณ์แข็งแรงของเชื้ออสุจิ ซึ่งจะวัดได้จากปริมาณน้ำเชื้อ ค่าpH ความเข้มข้น อัตราการรอดชีวิต คุณภาพการวิ่งของเชื้อ รูปร่างของเชื้อ ปริมาณเม็ดเลือดขาว และหากพบสิ่งผิดปกติ เช่น ยีสต์ รา แบคทีเรีย จากการตรวจภายใต้กล้องจุลทรรศน์ คลินิกก็จะรายงานผลให้เพิ่มเติม สำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับการตรวจเชื้ออสุจิ สามารถทำนัดหมายล่วงหน้า 1 วัน โดยไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร แต่แนะนำให้งดการหลั่งก่อนเข้ารับการตรวจประมาณ 2-7 วัน เมื่อตรวจเชื้อเรียบร้อยแล้ว ผลจะออกภายใน 1.5 ชั่วโมง

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจวิเคราะห์คุณภาพเชื้ออสุจิ 1 ครั้ง 

- พบแพทย์เฉพาะทาง 1 visit

- ค่าบริการและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์

คำแนะนำ

- ไม่จำเป็นต้องงดน้ำ งดอาหารก่อนตรวจ

- ฝ่ายชายควรงดการหลั่ง 2-7 วัน เพื่อความแม่นยำของผลตรวจคุณภาพเชื้ออสุจิn

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าตรวจเลือดตามดุลยพินิจของแพทย์ เพื่อหาความผิดปกติของผู้รับบริการ ค่าใช้จ่ายคิดตามจริงขึ้นอยู่กับผู้รับบริการแต่ละเคส

PESA / TESA / TESE คือวิธีการแก้ไขปัญหาภาวะมีบุตรยากในเพศชายที่มีความรุนแรง เช่น ปัญหาการหลั่งน้ำเชื้อ การไม่มีน้ำเชื้อจากการวิเคราะห์เชื้ออสุจิอาจเนื่องมาจากภาวะไม่มีตัวอสุจิในน้ำเชื้อ ภาวะไม่มีท่อนำเชื้ออสุจิตั้งแต่กำเนิด การทำหมัน หรือไม่พบเชื้ออสุจิที่มีชีวิตหลังจากการหลั่ง หรืออัณฑะมีการอักเสบเนื่องจากไวรัสคางทูมหรือสาเหตุอื่น ๆ

* Percutaneous Epididymal Sperm Aspiration (PESA): การใช้เข็มแทงผ่านผิวหนังบริเวณอัณฑะเข้าไปในหลอดเก็บตัวอสุจิ แล้วดูดตัวอสุจิออกมา

* Testicular Sperm Aspiration (TESA): การใช้เข็มแทงผ่านผิวหนังบริเวณอัณฑะเข้าไปในลูกอัณฑะ แล้วดูดตัวอสุจิออกมา

* Testicular Sperm Extraction (TESE): การผ่าตัดเอาเนื้ออัณฑะออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วแยกตัวอสุจิที่อยู่ในเนื้ออัณฑะออกมา

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ 1 ครั้ง

- ค่าธรรมเนียมแพทย์ทำหัตถการ 1 visit 

- ค่าธรรมเนียมวิสัญญีแพทย์ 1 visit

- ยาระงับความรู้สึก 1 dose

- ค่าใช้จ่ายห้องผ่าตัดและห้องพักฟื้น 1 ครั้ง

- ค่าบริการ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์มาตรฐาน 

- ค่ายารับกลับบ้าน 

***การใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์***

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าแช่แข็งเชื้ออสุจิเพื่อนำเชื้ออสุจิไปใช้กับการทำ ICSI รอบถัดไป กรณีเชื้ออสุจิมีคุณภาพดี

MACS Sperm (Magnetic-Activated Sorting)

การคัดเลือกอสุจิโดยใช้ MACS ซึ่งเป็นวิธีที่ให้ผลดีต่อการคัดเลือกอสุจิ โดยจะสามารถแยกตัวอสุจิที่มีการตายของเซลล์บางส่วน (Apoptotic Spermatozoa) ออกจากตัวอสุจิที่ปกติได้ เพื่อให้ได้อสุจิที่มีคุณภาพดี เช่น motility, viability และ morphology ที่ดีขึ้น ส่งผลให้เพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ที่สูงขึ้น

หลักการคือ น้ำยา MACS GMP Annexin V จะไปจับกับ Apoptotic Spermatozoa เมื่อนำมาผ่าน MACS Column ที่มีสนามแม่เหล็กอยู่ ซึ่ง Apoptotic Spermatozoa จะติดที่ Column ไม่สามารถผ่าน Column ลงมาได้ ส่วน non-apoptotic spermatozoa จะสามารถผ่าน Column ลงมา

จากนั้นจะนำตัวอสุจิที่ผ่าน Column ลงมา ซึ่งเป็นตัวอสุจิที่มีคุณภาพที่ดี สมบูรณ์แข็งแรงเข้าสู่กระบวนการเตรียมน้ำเชื้อต่อไป

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าเก็บเชื้ออสุจิ 1 ครั้ง

- ค่าธรรมเนียมแพทย์เฉพาะทาง 1 ครั้ง

- ค่าตรวจ MACS Sperm 1 ครั้ง

- ค่าห้องปฎิบัติการ

- ค่าบริการ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์มาตรฐานn

P.RP (P.latelet Rich P.lasma) คือ การนำเลือดมาปั่นรูปแบบหนึ่งเพื่อให้เข้มข้นมากกว่าเลือดปกติ 3-5 เท่า และนำมาฉีดเข้าอวัยวะหรือเนื้อเยื่อเพื่อกระตุ้นการเติบโตของเซลล์ ซึ่งเกล็ดเลือดมีคุณสมบัติมากมาย เช่น สารไซโตไคน์ ฮอร์โมน Growth Factor ต่าง ๆ 

การรักษา เริ่มจากเจาะเลือดปริมาณไม่มาก นำมาปั่นด้วยวิธีพิเศษ คัดกรองเกล็ดเลือดในปริมาณเข้มข้น แล้วฉีดกลับสู่ผู้ป่วยที่รังไข่โดยตรง 

การฉีด P.RP รังไข่มีประโยชน์ในแง่ของการรักษาภาวะมีบุตรยาก หลายปีที่ผ่านมาพบว่าในกลุ่มผู้มีไข่สำรองน้อย รังไข่ล้มเหลว รวมถึงหญิงวัยกำลังจะหมดหรือหมดประจำเดือนแล้วอยากจะกระตุ้นไข่แทนที่การใช้ไข่จากผู้บริจาค พบว่าหลังจากรักษาแล้วคนไข้บางคนมีการตอบสนองต่อการรักษาดีขึ้น ได้ไข่มากขึ้น และอาจนำไปสู่การตั้งครรภ์และคลอดบุตรได้ในที่สุด

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ 1 ครั้ง

- พบแพทย์เฉพาะทาง ไม่เกิน 3 visit 

- อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด 1 ครั้ง 

- ยาระงับความรู้สึก 1 dose 

- ค่าธรรมเนียมวิสัญญีแพทย์ 1 visit 

- ค่าบริการ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์มาตรฐาน 

- ค่าทำหัตถการ 1 ครั้ง

- ค่าห้องผ่าตัดและห้องพักฟื้น 1 ครั้ง

- บริการปั่นเลือด 1 ครั้ง

- บริการฉีดเกล็ดเลือดเข้าสู่รังไข่ 1 ครั้ง

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าบริการตรวจฮอร์โมน AMH หลังการฉีด

- ยารับกลับบ้าน

P.RP (P.latelet Rich P.lasma) คือ การนำเลือดมาปั่นรูปแบบหนึ่งเพื่อให้เข้มข้นมากกว่าเลือดปกติ 3-5 เท่า และนำมาฉีดเข้าอวัยวะหรือเนื้อเยื่อเพื่อกระตุ้นการเติบโตของเซลล์ ซึ่งเกล็ดเลือดมีคุณสมบัติมากมาย เช่น สารไซโตไคน์ ฮอร์โมน Growth Factor ต่าง ๆ 

การรักษา เริ่มจากเจาะเลือดปริมาณไม่มาก นำมาปั่นด้วยวิธีพิเศษ คัดกรองเกล็ดเลือดในปริมาณเข้มข้น แล้วฉีดกลับสู่โพรงมดลูกของผู้ป่วย 

การฉีด P.RP โพรงมดลูกมีประโยชน์ในแง่ของการรักษาภาวะมีบุตรยาก หลายปีที่ผ่านมาพบว่าในกลุ่มผู้มีเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวไม่พอ พบว่าหลังจากรักษาแล้วเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้นและสามารถย้ายตัวอ่อนแล้วตั้งครรภ์สำเร็จ

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าธรรมเนียมแพทย์เฉพาะทาง 1 visit 

- อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด 1 ครั้ง 

- ค่าบริการ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์มาตรฐาน 

- ค่าทำหัตถการ 1 ครั้ง 

- ค่าห้องผ่าตัดและห้องพักฟื้น 1 ครั้ง 

- บริการปั่นเลือด 1 ครั้ง

- บริการฉีดเกล็ดเลือดเข้าสู่โพรงมดลูก 1 ครั้ง

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก่อนเริ่มทำ P.RP ได้แก่ ค่าธรรมเนียมแพทย์ ค่าอัลตราซาวด์ ค่าตรวจเลือดตามดุลยพินิจของแพทย์

การตรวจอัลตราซาวด์เชิงกราน เป็นการตรวจทางนรีเวชโดยแพทย์จะใช้เครื่องมือสอดเข้าทางช่องคลอดเพื่อดูความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ ซึ่งโรคที่สามารถวินิจฉัยได้จากการอัลตราชาวด์ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก เช่น ถุงน้ำรังไข่ เนื้องอกรังไข่ เนื้องอกมดลูก ติ่งเนื้อในเยื่อบุโพรงมดลูก

เหมาะกับ

- สตรีทั่วไปที่มีเพศสัมพันธ์ ควรตรวจเป็นประจำทุกปี

- สตรีที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมีอาการปวดประจำเดือนผิดปกติ

- สตรีที่ต้องการวางแผนมีบุตร

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- บริการตรวจอัลตราซาวน์เชิงกราน 1 ครั้ง

- เวชภัณฑ์ทางการแพทย์

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าธรรมเนียมแพทย์

- ค่าบริการทางการแพทย์

- ค่าบริการพยาบาล

การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมตัวอ่อน (Preimplantation Genetic Testing: PGT) เป็นการตรวจคัดกรองดูความผิดปกติของโครโมโซมร่างกาย 22 คู่ และโครโมโซมเพศ 1 คู่ (XX หรือ XY) ของตัวอ่อนก่อนการฝังตัว เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ 

ข้อดี

* ทราบความผิดปกติของตัวอ่อนก่อนการฝังตัว

* ลดอัตราการยุติการตั้งครรภ์ ที่เกิดจากตัวอ่อนมีความผิดปกติ

* สามารถเลือกตัวอ่อนที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงได้

* โอกาสในการตั้งครรภ์สูงขึ้น 60-80 %

* ลดการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่น

* การตรวจ PGT นั้นมีความแม่นยำสูงถึง 99%

* ลดระยะเวลารอการตั้งครรภ์

เหมาะกับ

* คู่สมรสที่ฝ่ายหญิงมีอายุมากกว่า 35 ปี 

* คู่สมรสที่มีประวัติทำ IVF มาแล้วและไม่ประสบผลสำเร็จ

* คู่สมรสที่ทราบว่าตนเองหรือครอบครัวตนเอง หรือบุตรคนก่อนมีโรคถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือความผิดปกติทางโครโมโซม

* คู่สมรสที่มีประวัติแท้งหลายครั้ง

Next Generation Sequencing (NGS) เป็นเทคนิคที่สามารถหาตรวจความผิดปกติของโครโมโซมได้ถึงในลำดับเบส ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของโครโมโซม โดยใช้การเปรียบเทียบลำดับเบสของยีนที่ก่อโรคกับยีนที่ปกติ ทำให้สามารถค้นหายีนที่ก่อโรคได้ วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ตรวจความผิดปกติของโครโมโซมได้ละเอียด มีความถูกต้องแม่นยำสูง และถูกนำมาพัฒนาและประยุกต์ใช้ในการตรวจคัดกรองพันธุกรรมตัวอ่อนซึ่งถือเป็นเทคนิควิธีการตรวจที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน วิธี PGT-A (NGS) สำหรับตัวอ่อน 2 ตัวแรก

- การแช่แข็งตัวอ่อน 1 ปี สำหรับตัวอ่อน 2 ตัวแรก

- การดูดเซลล์เพื่อตรวจโครโมโซม สำหรับตัวอ่อน 2 ตัวแรกn

การย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง (Frozen Cycle) เป็นการย้ายตัวอ่อนในรอบที่มีการเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูก โดยใช้ตัวอ่อนที่แช่แข็งมาละลาย แล้วจึงย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกที่เตรียมพร้อมไว้

ข้อดีของการย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง:

*  อัตราความสำเร็จสูงกว่าการย้ายรอบสดมากถึง 32% และอัตราการแท้งมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากในการย้ายรอบแช่แข็งมีการเตรียมโพรงมดลูกให้พร้อมมากกว่า  ในขณะที่การย้ายรอบสดนั้น มดลูกจะถูกกระตุ้นเพื่อเก็บไข่ ทำให้ผนังมดลูกหนา สภาพมดลูกจึงยังไม่เอื้อกับการฝังตัวมากเท่าไร 

*  ใช้ได้กับคู่สมรสที่ต้องการตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อนก่อนการฝังตัว เนื่องจากการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนต้องมีการตัดเซลล์รกไปตรวจโรคทางโครโมโซม จึงต้องทำการแช่แข็งตัวอ่อนเก็บไว้เพื่อรอผลการตรวจ

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- การย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง 1 ครั้ง

- ค่านรีแพทย์เพื่อย้ายตัวอ่อน 1 ครั้ง

- ค่าห้องผ่าตัด ห้องปฏิบัติการ และห้องพักฟื้น 1 ครั้ง

- ค่าละลายตัวอ่อนแช่แข็ง 1 ครั้ง

- ยาระยะลูเตียล 15 วัน  

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าตรวจเลือดก่อนย้ายตัวอ่อน (กรณีผลเลือดเกิน 3 เดือน)

- ค่าใช้จ่ายช่วงเตรียมผนังมดลูก ได้แก่ ค่าธรรมเนียมแพทย์ ค่าอัลตราซาวด์ ค่ายาเตรียมผนังมดลูก และค่าตรวจฮอร์โมนทางห้องปฏิบัติการ

- ยาช่วยการฝังตัวของตัวอ่อน 

- ค่าตรวจเลือดเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์หลังย้ายตัวอ่อน

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 9 สายพันธุ์ สำหรับผู้ใหญ่อายุ 15 ปีขึ้นไป ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก หูดบริเวณอวัยวะเพศ เฉพาะสายพันธุ์ที่บรรจุอยู่ในวัคซีน ได้แก่ สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58 ฉีดทั้งสิ้น 3 เข็ม ตามกำหนดการดังนี้

- เข็มที่ 1 : ฉีดเมื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ตามการนัดหมาย 

- เข็มที่ 2 : ฉีดในเดือนที่ 1-2 หลังจากการฉีดเข็มแรก

- เข็มที่ 3 : ฉีดในเดือนที่ 6 หลังจากการฉีดเข็มแรก

ข้อควรระวัง

- ผู้ที่แต่งงานแล้วหรือเคยมีเพศสัมพันธ์ ควรเข้ารับการตรวจภายในเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือเชื้อ HPV ก่อนฉีดวัคซีน

- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกห้ามฉีดในผู้ที่มีประวัติการแพ้วัคซีนชนิดนี้มาก่อน รวมถึงผู้ที่แพ้ยีสต์อย่างรุนแรง

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 9 สายพันธุ์ 3 เข็ม สำหรับผู้ใหญ่

- เวชภัณฑ์ทางการแพทย์

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าธรรมเนียมแพทย์

- ค่าบริการทางการแพทย์

- ค่าบริการพยาบาล

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 9 สายพันธุ์ สำหรับเด็กอายุ 9-14 ปี ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก หูดบริเวณอวัยวะเพศ เฉพาะสายพันธุ์ที่บรรจุอยู่ในวัคซีน ได้แก่ สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58 ฉีดทั้งสิ้น 2 เข็ม ตามกำหนดการดังนี้

- เข็มที่ 1 : ฉีดเมื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ตามการนัดหมาย 

- เข็มที่ 2 : ฉีดในเดือนที่ 6 หลังจากการฉีดเข็มแรก

ข้อควรระวัง

- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกห้ามฉีดในผู้ที่มีประวัติการแพ้วัคซีนชนิดนี้มาก่อน รวมถึงผู้ที่แพ้ยีสต์อย่างรุนแรง

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 9 สายพันธุ์ 2 เข็ม สำหรับเด็ก

- เวชภัณฑ์ทางการแพทย์

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าธรรมเนียมแพทย์

- ค่าบริการทางการแพทย์

- ค่าบริการพยาบาล

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี ThinPrep Pap Test เป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ได้มาตรฐาน แพทย์จะเก็บเซลล์ตัวอย่างรอบ ๆ ปากมดลูกด้วยของเหลว (Liquid-based cytology: LBC) ซึ่งจะช่วยให้สามารถเก็บตัวอย่างเซลล์ได้มากขึ้น ชัดเจนขึ้นและสามารถนำไปค้นหาเซลล์มะเร็งระยะเริ่มต้นได้ดีกว่าวิธี Pap Smear ซึ่งเป็นวิธีการตรวจแบบดั้งเดิม

เหมาะกับ

- สตรีทั่วไปที่มีเพศสัมพันธ์

- สตรีที่อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป

ความถี่ในการตรวจ: ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก ๆ 2 ปี

**ถ้าหากตรวจร่วมกับ HPV DNA testing หรือการตรวจหาเชื้อก่อโรคมะเร็งปากมดลูก สามารถตรวจคัดกรองทุก ๆ 5 ปี

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก 1 ครั้ง

- เวชภัณฑ์ทางการแพทย์

หมายเหตุ: รอผล 1-2 สัปดาห์หลังตรวจ

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าธรรมเนียมแพทย์

- ค่าบริการทางการแพทย์

- ค่าบริการพยาบาล

วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีสำหรับผู้ใหญ่ อายุ 10 ปี ขึ้นไป ฉีดทั้งสิ้น 3 เข็ม ตามกำหนดการดังนี้

- เข็มที่ 1 : ฉีดเมื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ตามการนัดหมาย 

- เข็มที่ 2 : ฉีดในเดือนที่ 1-2 หลังจากการฉีดเข็มแรก

- เข็มที่ 3 : ฉีดในเดือนที่ 6 หลังจากการฉีดเข็มแรก

เหมาะสำหรับ

- ผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนนี้มาก่อน

- ผู้ที่ต้องได้รับการถ่ายเลือด

- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรค เนื่องจากวิถีชีวิต หน้าที่การงาน ประเทศที่อาศัยอยู่ ฯลฯ

ข้อควรระวัง

วัคซีนนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้ยีสต์ หรือผู้ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยแบบเฉียบพลัน

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี 3 เข็ม

- เวชภัณฑ์ทางการแพทย์

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าธรรมเนียมแพทย์

- ค่าบริการทางการแพทย์

- ค่าบริการพยาบาล

บริการฉีดวัคซีน VaxigripTetra ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ปี 2024

วัคซีนที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ในการป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)

เหมาะกับ

* เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป

* ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

* สตรีมีครรภ์หรือหลังคลอดไม่เกิน 2 สัปดาห์

* ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน หัวใจ โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ข้อควรระวัง

•  ห้ามใช้วัคซีนนี้ในผู้ที่มีประวัติการแพ้โปรตีนจากไข่แบบรุนแรง

•  ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปหากมีไข้หรือเป็นโรคเฉียบพลัน

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 1 เข็ม

- เวชภัณฑ์ทางการแพทย์

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าธรรมเนียมแพทย์ หากต้องการพบแพทย์

- ค่าบริการทางการแพทย์

- ค่าบริการพยาบาล

Qdenga วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก

 จุดเด่น: เป็นวัคซีนชนิดใหม่ ผลิตจากประเทศเยอรมันนี มีความปลอดภัย และเป็นวัคซีนตัวแรกที่สามารถฉีดได้ทั้งผู้ที่เคยและไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน โดยไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกันก่อนการฉีดวัคซีน

 ประสิทธิภาพ: สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสเดงกีที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกได้ทุกสายพันธุ์ถึง 80% (มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ คือ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และ DENV-4) และลดความเสี่ยงของการนอนโรงพยาบาลได้ถึง 90%

 เหมาะกับ: บุคคลทั่วไป อายุระหว่าง 4 – 60 ปี

 จำนวนและกำหนดการเข้ารับวัคซีน: ฉีด 2 เข็มเข้าทางชั้นผิวหนัง (subcutaneous injection) เข็มแรกฉีดได้ตามวันที่สะดวก เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 3 เดือน กรณีผู้ที่เคยเป็นไข้เลือดออก สามารถฉีดได้หลังจากหายป่วยไปแล้ว 6 เดือน

ผลข้างเคียงหลังฉีด: อาจมีอาการปวดตรงตำแหน่งที่ฉีด ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และจะหายได้เองภายใน 1-3 วัน

 ข้อควรระวัง: วัคซีนชนิดนี้เป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็น จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ได้รับยากดภูมิ ได้รับยาเคมีบำบัด ผู้ติดเชื้อเอชไอวี คนที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติ หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร

*รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก 2 เข็ม

- เวชภัณฑ์ทางการแพทย์

*รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าธรรมเนียมแพทย์

- ค่าบริการทางการแพทย์

- ค่าบริการพยาบาล

บริการฉีดวัคซีนที่ช่วยป้องกันโรคจากเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส 13 สายพันธุ์ ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ฉีด 1 เข็ม ณ วันที่ต้องการ

วัคซีนนี้เหมาะกับ

- ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปี หรือผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

- ผู้สูบบุหรี่เป็นประจำ หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหอบหืดเรื้อรัง เบาหวาน เป็นต้น

- ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น HIV มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเม็ดเลือดขาว

รายการที่รวมในแพ็กเกจ

- วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ 13 สายพันธุ์ 1 เข็ม

- เวชภัณฑ์ทางการแพทย์

รายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ

- ค่าธรรมเนียมแพทย์

- ค่าบริการทางการแพทย์

- ค่าบริการพยาบาล