SELF Wellness Clinic

Hugel Toxin เป็นแบรนด์บท็อกซ์ชั้นนำของเกาหลีด้วยคุณภาพของตัวยาเทียบเท่ามาตรฐาน USAและผ่านการรับรองของอย.ในประเทศไทย โดยHUGEL TOXIN จะช่วยผ่อนคลายการทำงานของกล้ามเนื้อ เกิดการคลายตัว ผิวหนังด้านบนของกล้ามเนื้อนั้นก็จะเรียบเนียน ไร้รอยย่น ซึ่งทำให้ริ้วรอยลดลง ลดกราม ช่วยให้ใบหน้าเรียว ลดรอยหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อคอ ลดขนาดน่อง ลดอาการปวดต่างๆ รวมถึงอาการ Office syndrome เห็นผลได้ภายใน 2-3 วันและมีอายุอยู่ถึง 4-6 เดือน

Diode Laser เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการแนะนำสำหรับการเลเซอร์กำจัดขนที่ได้ผลถาวร ในขณะที่ IPL สามารถทำได้เพียงลดการเกิดใหม่ของขน เพราะใน Diode laser มีตัวเลเซอร์ที่จะสร้างความร้อนและพลังงานแสงที่เข้มข้นฉายโดยตรงไปที่รูขุมขนส่งผ่านไปยังเม็ดสีเมลานิน (เม็ดสีที่กำหนดความเข้มของสีขน) ในขณะที่พลังงานแสงของ IPL จะกระจายบนผิวหนังรอบ ๆ รูขุมขนซึ่งอาจทำให้ผิวหนังบริเวณโดยรอบเกิดการไหม้หรืออักเสบ

ฟิลเลอร์ Neuramis เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ และสามารถเห็นผลทันทีหลังจากฉีดครั้งแรก โดย ฟิลเลอร์ Neuramis นั้น ได้มาตรฐานของฟิลเลอร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิคที่มีคุณภาพ มีเนื้อแข็งปานกลาง และไม่มียาชา เหมาะสำหรับเติมร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ขมับ คาง

Diode Laser เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการแนะนำสำหรับการเลเซอร์กำจัดขนที่ได้ผลถาวร ในขณะที่ IPL สามารถทำได้เพียงลดการเกิดใหม่ของขน เพราะใน Diode laser มีตัวเลเซอร์ที่จะสร้างความร้อนและพลังงานแสงที่เข้มข้นฉายโดยตรงไปที่รูขุมขนส่งผ่านไปยังเม็ดสีเมลานิน (เม็ดสีที่กำหนดความเข้มของสีขน) ในขณะที่พลังงานแสงของ IPL จะกระจายบนผิวหนังรอบ ๆ รูขุมขนซึ่งอาจทำให้ผิวหนังบริเวณโดยรอบเกิดการไหม้หรืออักเสบ

ฟิลเลอร์ Restylane หนึ่งในยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ทั่วโลก ถูกนำมาใช้ในการเติมเต็มผิว ปรับรูปหน้า เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ ฟิลเลอร์ Restylane เด่นในเรื่องของความสามารถในการยกพยุงผิว

Rejuran Healer (รีจูรัน ฮีลเลอร์) คือ Skin rejuvenation booster ที่กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ โดยสารสกัดจาก Polyneucleotide (PN) หรือ Salmon DNA ซึ่งไกล้เคียงดีเอ็นเอมนุษย์มากที่สุด จึงมีคุณประโยชน์ที่หลากหลายต่อผิวหนัง โดยงานวิจัยพบว่า PN เป็นองค์ประกอบสำคัญในการแก้ปัญหาผิวที่เสื่อมโทรม (Aging Skin) ฟื้นฟูบาดแผล (Wound healing) โดยการเข้าไป ฟื้นฟู (Rejuvenation) และซ่อมแซมจากภายในสู่ภายนอก โดยการกระตุ้นการเพิ่มจำนวนของเซลล์ไฟโบบลาสต์ซึ่งทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่แทนที่เซลล์ที่เกิดการเสื่อมสภาพ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการสร้างกรดไฮยารูโนนิคและคอลลาเจน จึงส่งผลในการช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้นและยังช่วยให้ผิวยืดหยุ่นดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลในด้าน “regenerative effect” จึงช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก และทำให้เกราะป้องกันผิวหน้า (Skin barrier) มีความแข็งแรง หนาตัวขึ้น ในขณะเดียวกันจึงช่วยเพิ่มวอลลุ่ม กระชับรูขุมขน ฟื้นฟูซ่อมแซมหลุมสิวและลดเลือนริ้วรอยช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

Ultraformer III สามารถยกกระชับใบหน้าเพื่อผิวอ่อนเยาว์และกระชับร่างกายเพื่อให้ได้รูปร่างที่เพรียวบาง และด้วยความแม่นยำต่อช็อตอีกทั้งตัวเครื่องที่ใช้พลังงานแบบ HIFU ทำให้ผิวสามารถสร้างคอลลาเจนใหม่เพื่อขจัดริ้วรอยบนใบหน้าและผิวหนังที่หย่อนคล้อย รวมทั้งกระชับเนื้อเยื่อของร่างกายเพื่อเผยความงามที่แท้จริงของผิว

ประกอบไปด้วยวิตามินหลายชนิด และวิตามินซี ช่วยให้การทำงานของเซลล์เป็นไปอย่างปกติ โดยเฉพาะการนำพลังงานไปใช้ ลดอาการอ่อนเพลีย ทำให้รู้สึกกะปรี้กะเปร่าขึ้น

ประกอบไปด้วย วิตามินบีรวม และแอลคาร์นิทีน ที่ทำหน้าที่นำไขมันไปเผาผลาญ ซึ่งจะได้ผลดีกับผู้ที่ออกกำลังกาย และควบคุมน้ำหนัก

บท็อกซ์เกาหลียี่ห้อ Nabota ผลิตโดยบริษัท DAEWOONG เป็นบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018) จุดเด่นของ nabota บท็อกซ์ คือเน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว ทำให้เห็นผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดค่อนข้างเร็ว ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7%

เหมาะกับคนที่ต้องการผลแบบเร่งด่วน นิยมนำมาใช้ในการลดริ้วรอย เช่น รอยย่นหน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว และสามารถนำมาใช้เพื่อลดกราม ยกคิ้ว กระชับหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กยิ่งขึ้น

*ปริมาณที่ฉีดขึ้นอยู่กับดุลพินิจย์ของแพทย์

ประกอบไปด้วย วิตามินซี วิตามินบี และอนุพันธ์กลูตาไธโอน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวสุขภาพดี สว่างสดไส ลดความหมองคล้ำ

บท็อกซ์เกาหลียี่ห้อ Nabota ผลิตโดยบริษัท DAEWOONG เป็นบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018) จุดเด่นของ nabota บท็อกซ์ คือเน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว ทำให้เห็นผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดค่อนข้างเร็ว ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7%

เหมาะกับคนที่ต้องการผลแบบเร่งด่วน นิยมนำมาใช้ในการลดริ้วรอย เช่น รอยย่นหน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว และสามารถนำมาใช้เพื่อลดกราม ยกคิ้ว กระชับหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กยิ่งขึ้น

*ปริมาณที่ฉีดขึ้นอยู่กับดุลพินิจย์ของแพทย์

ประกอบไปด้วยวิตามินซีขนาดสูง ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระจ่างใส เหมาะสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ หรือได้รับสารพิษเป็นประจำ

ประกอบไปด้วย วิตามินบี วิตามินซี กรดอะมิโน แร่ธาตุ เช่นสังกะสี ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันป้องกันการติดเชื้อ ช่วยสร้างฮอร์โมนเพศ

ประกอบไปด้วยกรดอะมิโน วิตามินชนิดต่างๆ และแร่ธาตุ เช่นแมกนีเซียม ทำให้ลดความเครียด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายและหลับอย่างมีคุณภาพ

ขั้นตอน

1.ทำความสะอาดลำลึกด้วย Oxypeel 

2.Ozone เปิดรูขุมขน

3.ผลักวิตามิน ด้วย Phono ทำให้หน้าขาวใสช่วยกระชับรูขุมขน

4.Maskหน้าใส

ยกกระชับผิวหน้าได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วย Ultraformer III

 1 บริเวณ เลือกได้ระหว่าง

- รอบดวงตา

- แก้ม

- เหนียง

Ultraformer III สามารถยกกระชับใบหน้าเพื่อผิวอ่อนเยาว์และกระชับร่างกายเพื่อให้ได้รูปร่างที่เพรียวบาง และด้วยความแม่นยำต่อช็อตอีกทั้งตัวเครื่องที่ใช้พลังงานแบบ HIFU ทำให้ผิวสามารถสร้างคอลลาเจนใหม่เพื่อขจัดริ้วรอยบนใบหน้าและผิวหนังที่หย่อนคล้อย รวมทั้งกระชับเนื้อเยื่อของร่างกายเพื่อเผยความงามที่แท้จริงของผิว

Rejuran Healer (รีจูรัน ฮีลเลอร์) คือ Skin rejuvenation booster ที่กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ โดยสารสกัดจาก Polyneucleotide (PN) หรือ Salmon DNA ซึ่งไกล้เคียงดีเอ็นเอมนุษย์มากที่สุด จึงมีคุณประโยชน์ที่หลากหลายต่อผิวหนัง โดยงานวิจัยพบว่า PN เป็นองค์ประกอบสำคัญในการแก้ปัญหาผิวที่เสื่อมโทรม (Aging Skin) ฟื้นฟูบาดแผล (Wound healing) โดยการเข้าไป ฟื้นฟู (Rejuvenation) และซ่อมแซมจากภายในสู่ภายนอก โดยการกระตุ้นการเพิ่มจำนวนของเซลล์ไฟโบบลาสต์ซึ่งทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่แทนที่เซลล์ที่เกิดการเสื่อมสภาพ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการสร้างกรดไฮยารูโนนิคและคอลลาเจน จึงส่งผลในการช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้นและยังช่วยให้ผิวยืดหยุ่นดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลในด้าน “regenerative effect” จึงช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก และทำให้เกราะป้องกันผิวหน้า (Skin barrier) มีความแข็งแรง หนาตัวขึ้น ในขณะเดียวกันจึงช่วยเพิ่มวอลลุ่ม กระชับรูขุมขน ฟื้นฟูซ่อมแซมหลุมสิวและลดเลือนริ้วรอยช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

"ชาแนล"  (ชื่อทางการคือ NCTF) เป็นการทำทรีทเม้นท์ผิวที่ช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงผิวที่เสียหาย โดยมีส่วนผสมที่เหมาะสมในการปรับปรุงการทำงานของไฟโบรบลาสต์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสื่อมสภาพของผิว ป้องกันการสร้างเม็ดสี ริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่น

ขั้นตอน

1.Ozone เปิดรูขุมขน

2.กดสิวทั่วหน้า

3.CRYO ผลักวิตามินผิวด้วยความเย็นลดการเกิดรอยช้ำบนผิวที่เกิดจากการกดสิว ช่วยบำรุงผิวหลังการกดสิว

4.Mask สูตรสิวช่วยลดการอักเสบของสิว 

บท็อกซ์เกาหลียี่ห้อ Nabota ผลิตโดยบริษัท DAEWOONG เป็นบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018) จุดเด่นของ nabota บท็อกซ์ คือเน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว ทำให้เห็นผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดค่อนข้างเร็ว ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7%

เหมาะกับคนที่ต้องการผลแบบเร่งด่วน นิยมนำมาใช้ในการลดริ้วรอย เช่น รอยย่นหน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว และสามารถนำมาใช้เพื่อลดกราม ยกคิ้ว กระชับหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กยิ่งขึ้น

*ปริมาณที่ฉีดขึ้นอยู่กับดุลพินิจย์ของแพทย์

"ชาแนล"  (ชื่อทางการคือ L'ebss) เป็นการทำทรีทเม้นท์ผิวที่ช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงผิวที่เสียหาย โดยมีส่วนผสมที่เหมาะสมในการปรับปรุงการทำงานของไฟโบรบลาสต์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสื่อมสภาพของผิว ป้องกันการสร้างเม็ดสี ริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่น

รักษาสิว : กดสิว + ฉายแสง + มาส์กสิว

Ultraformer III สามารถยกกระชับใบหน้าเพื่อผิวอ่อนเยาว์และกระชับร่างกายเพื่อให้ได้รูปร่างที่เพรียวบาง และด้วยความแม่นยำต่อช็อตอีกทั้งตัวเครื่องที่ใช้พลังงานแบบ HIFU ทำให้ผิวสามารถสร้างคอลลาเจนใหม่เพื่อขจัดริ้วรอยบนใบหน้าและผิวหนังที่หย่อนคล้อย รวมทั้งกระชับเนื้อเยื่อของร่างกายเพื่อเผยความงามที่แท้จริงของผิว

ฉีดลดไขมันเฉพาะจุด  เช่นแก้ม เหนียง แขน หน้าท้อง ขา ไม่บวมหลังฉีด สลายไขมันแบบเร่งด่วน

เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาแก้มหย่อน สามารถสลายไขมันพร้อมยกกระชับ เริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ใน 3 วัน นิยมใช้ในการฉีดลดเหนียง

ฉีดลดไขมันเฉพาะจุด  เช่นแก้ม เหนียง แขน หน้าท้อง ขา ไม่บวมหลังฉีด สลายไขมันแบบเร่งด่วน

เมโสแฟตยี่ห้อ Laura เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาแก้มหย่อน สามารถสลายไขมันพร้อมยกกระชับ เริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ใน 3 วัน นิยมใช้ในการฉีดลดเหนียง หย่อนคล้อยน้อยกว่ายี่ห้ออื่นๆในตลาด

P.RP คืออะไร?

P.RP มาจากคำว่า Platelet-Rich Plasma หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เกล็ดเลือดสกัดเข้มข้นนั่นเอง เป็นการนำเลือดของเราเอง มาปั่นด้วยความเร็วสูง เพื่อแยกส่วนของเลือดที่มี่เกล็ดเลือดเข้มข้นที่มีสีเหลืองใสออกมา จากนั้นจึงนำมาฉีดกลับเข้าไปที่ส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อฟื้นฟูบริเวณนั้นๆ 

การใช้ P.RP จึงเป็นวิธีการฟื้นฟูร่างกายที่เลียนแบบธรรมชาติ ปลอดภัย และมีโอกาสแพ้น้อยมาก

ทำไมถึงต้องใช้ P.RP?

เกล็ดเลือดของมนุษย์นั้น เมื่อถูกกระตุ้นจะหลั่งโปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Growth Factors ที่ช่วยในการฟื้นฟู และช่วยในการเติบโตของเซลล์โดยรอบ

Growth Factors ที่พบได้ใน P.RP ได้แก่ FGF, PDGF, TGF-ß, EGF, VEGF, IGF ซึ่งมีบทบาทในการกระตุ้น Stem cell ให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ นอกจากนี้ เกล็ดเลือดยังกระตุ้นการทำงานของ Fibroblasts (เซลล์สร้างคอลลาเจน)

ขั้นตอนการทำ P.RP

1. ทำการเจาะเลือดประมาณ 10-15 cc. 

2. จากนั้นจะนำมาใส่หลอดพิเศษ ของ SELF Wellness Clinic ที่มีเจลแยกส่วน เพื่อเป็นตัวช่วยไม่ให้ส่วนของเม็ดเลือดปนกัน ซึ่งจะลดการอักเสบได้ดีกว่าหลอด P.RP ทั่วไป และเป็นหลอดที่สามารถสกัดจำนวนเกล็ดเลือดได้สูงมาก

3. ใส่สารต้านการแข็งตัวของเลือด โดย SELF Wellness Clinic จะใช้ ACD-A Anticoagulant Citrate Dextrose Solution, Solution A เป็นสารต้านการแข็งตัวของเลือดสำหรับ P.RP เพียงตัวเดียวที่ได้ อย.จากประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA)

4. จากนั้นจะนำไปปั่นด้วยเครื่องปั่นความเร็วสูง P.RP-500 ที่ได้รับมาตรฐาน อย. ที่ความเร็ว 4,000-5,000 รอบต่อนาที

5. แยกชั้น P.RP และนำ P.RP ฉีดเข้าไปที่บริเวณที่ต้องการฟื้นฟู

P.RP ช่วยรักษาอะไรได้บ้าง?

1. รักษาผิวหน้า แก้ปัญหาผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย สิว รอยดำจากสิว ฝ้า กระ ผิวหน้าแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น

2. แก้ปัญหาผมร่วง/ผมบาง ด้วยการชะลออาการผมร่วง บำรุงเซลล์รากผมให้แข็งแรง และกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม

3. ช่วยชะลอเข่าเสื่อม กระตุ้นการซ่อมแซมกระดูกอ่อนข้อเข่า ลดอาการปวดเข่า โดยเฉพาะในรายที่อาการข้อเข่าเสื่อมยังเป็นไม่มาก และยังไม่ต้องการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า

4. ช่วยแก้ปัญหาอวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดจากหลอดเลือดเลี้ยงอวัยวะเพศชายทำงานได้ไม่ดี หรือมีการเสื่อมของหลอดเลือดอวัยวะเพศจากภาวะต่างๆ เช่น เบาหวาน

5. สมานรักษาบาดแผล ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ลดโอกาสเกิดแผลเป็น

ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเห็นผล 

โดยทั่วไปแล้ว หมอแนะนำว่าควรทำ P.RP ทุก 2-4 สัปดาห์ อย่างน้อยสามครั้ง ซึ่งจะเห็นผลหลังจากทำครั้งแรก 1-3 เดือนขึ้นไป

การเตรียมตัวก่อนทำ P.RP 

1. ก่อนเข้ารับการรักษาควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง

2. ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อป้องกันเลือดหนืด 

3. งดอาหารที่มีไขมันสูง งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดบุหรี่

4. หยุดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการรักษา

5. หยุดยา หรืออาหารเสริมที่อาจทำให้เลือดออกง่าย(หากมีโรคประจำตัวที่ต้องใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์) เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี ขมิ้นชัน 5 วันก่อนเข้ารับการรักษา

P.RP ที่ SELF Wellness Clinic ดีอย่างไร 

- ใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง P.RP-500 นำเข้าโดยเฉพาะ ได้รับมาตรฐาน อย.  

- ใช้หลอดปั่นเลือดชนิดพิเศษ ที่จะสกัดได้ Pure P.RP ที่มีจำนวนเกล็ดเลือดเยอะกว่าหลอดทั่วไป 10-17 เท่า

- ใช้สารต้านการแข็งตัวของเลือด ACD-A Anticoagulant Citrate Dextrose Solution, Solution A เป็นสารต้านการแข็งตัวของเลือดสำหรับ P.RP เพียงตัวเดียวที่ได้ อย.จากประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA)

- สำหรับผิวหน้า จะใช้การฉีดด้วยเครื่อง Hycoox นำเข้าจากประเทศเกาหลี เพื่อให้ตัวยากระจายทั่วถึง มีปริมาตรเท่ากันทุกจุด

- ดูแลโดยแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยฟื้นฟูสุขภาพ ประกาศนียบัตรจากสหรัฐอเมริกา

P.RP คืออะไร?

P.RP มาจากคำว่า Platelet-Rich Plasma หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เกล็ดเลือดสกัดเข้มข้นนั่นเอง เป็นการนำเลือดของเราเอง มาปั่นด้วยความเร็วสูง เพื่อแยกส่วนของเลือดที่มี่เกล็ดเลือดเข้มข้นที่มีสีเหลืองใสออกมา จากนั้นจึงนำมาฉีดกลับเข้าไปที่ส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อฟื้นฟูบริเวณนั้นๆ 

การใช้ P.RP จึงเป็นวิธีการฟื้นฟูร่างกายที่เลียนแบบธรรมชาติ ปลอดภัย และมีโอกาสแพ้น้อยมาก

ทำไมถึงต้องใช้ P.RP?

เกล็ดเลือดของมนุษย์นั้น เมื่อถูกกระตุ้นจะหลั่งโปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Growth Factors ที่ช่วยในการฟื้นฟู และช่วยในการเติบโตของเซลล์โดยรอบ

Growth Factors ที่พบได้ใน P.RP ได้แก่ FGF, PDGF, TGF-ß, EGF, VEGF, IGF ซึ่งมีบทบาทในการกระตุ้น Stem cell ให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ นอกจากนี้ เกล็ดเลือดยังกระตุ้นการทำงานของ Fibroblasts (เซลล์สร้างคอลลาเจน)

ขั้นตอนการทำ P.RP

1. ทำการเจาะเลือดประมาณ 10-15 cc. 

2. จากนั้นจะนำมาใส่หลอดพิเศษ ของ SELF Wellness Clinic ที่มีเจลแยกส่วน เพื่อเป็นตัวช่วยไม่ให้ส่วนของเม็ดเลือดปนกัน ซึ่งจะลดการอักเสบได้ดีกว่าหลอด P.RP ทั่วไป และเป็นหลอดที่สามารถสกัดจำนวนเกล็ดเลือดได้สูงมาก

3. ใส่สารต้านการแข็งตัวของเลือด โดย SELF Wellness Clinic จะใช้ ACD-A Anticoagulant Citrate Dextrose Solution, Solution A เป็นสารต้านการแข็งตัวของเลือดสำหรับ P.RP เพียงตัวเดียวที่ได้ อย.จากประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA)

4. จากนั้นจะนำไปปั่นด้วยเครื่องปั่นความเร็วสูง P.RP-500 ที่ได้รับมาตรฐาน อย. ที่ความเร็ว 4,000-5,000 รอบต่อนาที

5. แยกชั้น P.RP และนำ P.RP ฉีดเข้าไปที่บริเวณที่ต้องการฟื้นฟู

P.RP ช่วยรักษาอะไรได้บ้าง?

1. รักษาผิวหน้า แก้ปัญหาผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย สิว รอยดำจากสิว ฝ้า กระ ผิวหน้าแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น

2. แก้ปัญหาผมร่วง/ผมบาง ด้วยการชะลออาการผมร่วง บำรุงเซลล์รากผมให้แข็งแรง และกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม

3. ช่วยชะลอเข่าเสื่อม กระตุ้นการซ่อมแซมกระดูกอ่อนข้อเข่า ลดอาการปวดเข่า โดยเฉพาะในรายที่อาการข้อเข่าเสื่อมยังเป็นไม่มาก และยังไม่ต้องการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า

4. ช่วยแก้ปัญหาอวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดจากหลอดเลือดเลี้ยงอวัยวะเพศชายทำงานได้ไม่ดี หรือมีการเสื่อมของหลอดเลือดอวัยวะเพศจากภาวะต่างๆ เช่น เบาหวาน

5. สมานรักษาบาดแผล ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ลดโอกาสเกิดแผลเป็น

ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเห็นผล 

โดยทั่วไปแล้ว หมอแนะนำว่าควรทำ P.RP ทุก 2-4 สัปดาห์ อย่างน้อยสามครั้ง ซึ่งจะเห็นผลหลังจากทำครั้งแรก 1-3 เดือนขึ้นไป

การเตรียมตัวก่อนทำ P.RP 

1. ก่อนเข้ารับการรักษาควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง

2. ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อป้องกันเลือดหนืด 

3. งดอาหารที่มีไขมันสูง งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดบุหรี่

4. หยุดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการรักษา

5. หยุดยา หรืออาหารเสริมที่อาจทำให้เลือดออกง่าย(หากมีโรคประจำตัวที่ต้องใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์) เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี ขมิ้นชัน 5 วันก่อนเข้ารับการรักษา

P.RP ที่ SELF Wellness Clinic ดีอย่างไร 

- ใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง P.RP-500 นำเข้าโดยเฉพาะ ได้รับมาตรฐาน อย.  

- ใช้หลอดปั่นเลือดชนิดพิเศษ ที่จะสกัดได้ Pure P.RP ที่มีจำนวนเกล็ดเลือดเยอะกว่าหลอดทั่วไป 10-17 เท่า

- ใช้สารต้านการแข็งตัวของเลือด ACD-A Anticoagulant Citrate Dextrose Solution, Solution A เป็นสารต้านการแข็งตัวของเลือดสำหรับ P.RP เพียงตัวเดียวที่ได้ อย.จากประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA)

- สำหรับผิวหน้า จะใช้การฉีดด้วยเครื่อง Hycoox นำเข้าจากประเทศเกาหลี เพื่อให้ตัวยากระจายทั่วถึง มีปริมาตรเท่ากันทุกจุด

- ดูแลโดยแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยฟื้นฟูสุขภาพ ประกาศนียบัตรจากสหรัฐอเมริกา

บท็อกซ์ neu.ronox จะประหยัดงบ ราคาถูกกว่า Allergan ครึ่งๆ อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ฉีดกรามดีมากเหมาะกับคนไข้ที่ชอบให้ดูผิวตึงๆ

บท็อกซ์ neu.ronox จะประหยัดงบ ราคาถูกกว่า Allergan ครึ่งๆ อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ฉีดกรามดีมากเหมาะกับคนไข้ที่ชอบให้ดูผิวตึงๆ

xeo.min (botulinum To.xin เยอรมัน) เป็นตัวที่พัฒนาจาก Allergan กับ Dysport เน้นความบริสุทธิ์ ฉีดแล้วไม่ตึงจนเกินไป จากงานวิจัยเป็นยี่ห้อที่ไม่ดื้อสาร botulinum To.xin แพทย์จะใช้กับคนไข้ที่เคยดื้อสารมาก่อน แต่ต้องเว้นระยะห่าง 3-4 ปี ถึงจะฉีดให้กับคนไข้

บท็อกซ์ Allergan (botulinum To.xin อเมริกา) เป็นยี่ห้อเก่าแก่ที่สุดตั้งแต่ปี 1989 และได้รับการยอมรับมากที่สุดในบรรดายี่ห้ออื่นๆ ตัว บท็อกซ์ Allergan  นิยมฉีดเข้ากล้ามเนื้อให้เรียวลง แก้ปัญหาเหนียงคอ ผิวหน้าหย่อนคล้อย หน้าห้อยหรือหน้าตก ซึ่งจะอยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติ

นวัตกรรมในการลดเลือนริ้วรอย หน้าผาก, ระหว่างคิ้ว, หางคิ้ว, รอบดวงตา และ ตีนกา, โหนกแก้ม, ปีกจมูก กราม กรอบหน้ามุมปาก ที่แพทย์ทั่วโลกให้การยอมรับ ช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

ประกอบไปด้วย วิตามินบี วิตามินซี และแร่ธาตุหลายชนิด โดยเฉพาะแมกนีเซียม ที่ทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการทำงานของเซลล์ ช่วยลดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ลดการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเรื้อรัง ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการไมเกรน

ประกอบไปด้วยแอลคาร์นิทีน โปรตีนที่จำเป็นหลายชนิด โดยเฉพาะ BCAA ที่ร่างกายสามารถนำไปสร้างกล้ามเนื้อได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ขาดโปรตีน นักกีฬา นักเพาะกาย หรือคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ และควบคุมน้ำหนัก

ประกอบไปด้วย วิตามินซี วิตามินบี อนุพันธ์กลูตาไธโอน และสารสกัดจากรก ทำให้ผิวสุขภาพดี สว่างสดไส ลดความหมองคล้ำ นอกจากนั้นยังกระตุ้นการสร้างคอลาเจนทำให้ผิวดูชุ่มชื้น มีน้ำมีนวลอีกด้วย

 ประกอบไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนที่ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระที่ตับ ช่วยตับกำจัดสารพิษ ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคตับอักเสบ หรือตับแข็งตามมา เหมาะสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา รับประทานอาหารปิ้งย่าง หรือได้รับสารพิษเป็นประจำ 

ประกอบไปด้วยวิตามินบีหก บีสิบสอง วิตามินซี และสารตั้งต้นของสารสื่อประสาทในสมอง ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระในสมอง ทำให้การทำงานของสมองเป็นไปอย่างปกติ ช่วยปรับอารมณ์และพฤติกรรม ลดความเครียด กระตุ้นความจำ

ประกอบไปด้วยวิตามินบีรวม และกรดอะมิโนกลูตามีน ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการซ่อมแซมผนังของลำไส้ ลดอาการเกิดภาวะลำไส้รั่ว หรือภาวะอักเสบของลำไส้ เหมาะสำหรับคนที่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อหลังรับประทานอาหาร หรือมีภาวะลำไส้อักเสบ

ประกอบด้วยวิตามินบีรวม และแอลฟาไลโปอิก ที่กระตุ้นความไวต่ออินสุลิน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกาย

บ่งบอกถึงชนิดอาหารที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มากเกินไป รวมถึงความแข็งแรงและสุขภาวะของลำไส้ โดยผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการแพ้อาหารแฝงทันที แต่จะเกิดอาการเมื่อมีการรับประทานอาหารชนิดนั้นซ้ำๆ จนร่างกายเกิดการอักเสบจากการที่ไม่สามารถกำจัดอนุมูลอิสระที่มีมากเกินไปจนหมด ทำให้ส่งผลต่อร่างกาย เกิดอาการต่างๆ ได้แก่ ไอ จาม มีน้ำมูกโดยไม่ทราบสาเหตุ ท้องอืด จุกเสียด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ปวดหัวไมเกรน ปวดตามข้อ เกิดกลุ่มสิวอักเสบบนร่างกาย เกิดผื่นคัน น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ

การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง จะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงและวางแผนการทานอาหาร เพื่อให้ได้สารอาหารอย่างครบถ้วน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพ้อาหารและป้องกันโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้น

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ

ผู้ที่อาการต่างๆ ได้แก่ ไอ จาม มีน้ำมูก โดยไม่ทราบสาเหตุ ท้องอืด จุกเสียด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ปวดหัวไมเกรน ปวดตามข้อ เกิดกลุ่มสิวอักเสบบนร่างกาย เกิดผื่นคัน น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ

สามารถตรวจชนิดอาหารทั้งหมดกว่า 200 ชนิด ได้แก่

นม และผลิตภัณฑ์นม และไข่ 9 รายการ

ปลาและอาหารทะเล 40 รายการ

ผลไม้ 37 รายการ

ธัญพืชกลุ่มที่มีกลูเตน 10 รายการ

ธัญพืชกลุ่มที่ไม่มีกลูเตน 7 รายการ

สมุนไพรและเครื่องเทศ 32 รายการ

เนื้อสัตว์ 16 รายการ

ถั่วและเมล็ดพืช 15 รายการ

ผัก 41 รายการ

อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ 15 รายการ

การกำจัดสารพิษโลหะหนัก (Heavy Metal Chelation)

        ตั้งแต่เกิดจนโตมนุษย์สามารถรับสารพิษต่างๆได้จากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็น อาหารการกิน มลพิษทางอากาศ PM2.5ที่มักมีการปนเปื้อนของโลหะหนัก บุหรี่ สารเคมีที่สำผัสทางผิวหนัง(เช่น สี ยาย้อมผม เครื่องสำอาง) ซึ่งโลหะหนักเหล่านี้ มักส่งผลเสียต่อร่างกายในหลายๆระบบ เช่น ระบบประสาทและสมอง ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบฮอร์โมนและต่อมไร้ท่อ ผิวหนังและเยื่อบุ ระบบสืบพันธ์ุ เป็นต้น

        เราสามารถกำจัดพิษโลหะหนักได้โดยการทำ คีเลชั่น(Chelation) ด้วยสารอินทรีย์ที่ชื่อว่า EDTA นั่นเอง

ทำไมจึงต้องกำจัดพิษโลหะหนัก(คีเลชั่น)

        เพราะพิษโลหะหนักที่ร่างกายได้รับเข้าไปนั้น ร่างกายสามารถขับทิ้งได้เองบางส่วน เช่นทางปัสสาวะ หรืออุจจาระ แต่ส่วนที่เหลือจะมีการตกค้างตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ตับ ไต เซลล์ไขมัน ระบบสืบพันธุ์ ไขกระดูก ระบบประสาทและสมอง ที่มักเกิดการสะสมโลหะหนักเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เกิดผลเสียเรื้อรังต่อระบบต่างๆของร่างกาย

        ตั้งแต่เด็กจนโต เรารับสารพิษต่างๆ โดยเฉพาะสารพิษโลหะหนักเข้ามาสะสมในร่างกายอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าในเซลล์หรืออวัยวะต่างๆ เพราะฉะนั้นจึงเป็นเหตุผลที่เราควรกำจัดสารพิษโลหะหนัก ก่อนที่จะมีอาการหรือโรคภัยต่างๆตามมา

ผลเสียของโลหะหนักต่อเซลล์

ทำให้เซลล์แก่ หรือตาย

เปลี่ยนแปลงโครงสร้าง และการทำงานของเซลล์

เป็นตัวการทำให้เกิดมะเร็ง

ทำให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม

สร้างความเสียหายต่อโครโมโซม

โลหะหนักที่พบได้บ่อย และเป็นอันตรายต่อมนุษย์ อาทิเช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู แคดเมียม อลูมิเนียม

ตะกั่ว พบใน สีทาบ้าน แบตเตอรี่ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ กระสุนปืน ยาสมุนไพร หมึกพิมพ์ แป้งทาตัว

ปรอท พบใน เครื่องสำอาง เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ แบตเตอรี่ ยากำจัดวัชพืช อาหารทะเลที่ปนเปื้อนโดยเฉพาะปลาตัวใหญ่ โรงงานกระดาษ,พลาสติก โรงงานไฟฟ้าถ่านหิน

สารหนู พบใน ผักผลไม้ น้ำดื่ม อาหารทะเล เครื่องสำอาง ยากำจัดศัตรูพืช อุตสาหกรรมฟอกหนัง โรงงานถลุงเหล็ก

แคดเมียม พบใน บุหรี่ สีต่างๆเช่น สีทา สีพ่น หมึก ยาง เสื้อผ้า สารเคลือบผิวที่ทำให้เงางาม แบตเตอรี่ขนาดเล็ก 

อลูมิเนียม พบใน อาหารที่ปรุงด้วยภาชนะอะลูมิเนียม เช่น หม้อก๋วยเตี๋ยว ยาธาตุน้ำขาว ส่วนประกอบของวัคซีนบางชนิด สารระงับกลิ่นกาย

อาการของผู้ที่มีพิษโลหะหนักสูง

ภาวะโลหิตจาง ซีด

ความดันโลหิตสูง

โรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจขาดเลือด

ยูริกในเลือดสูง โดยเฉพาะผู้ที่มีสารตะกั่วสูง

ปวดศีรษะ หงุดหงิดง่าย

ความจำถดถอย ไม่มีสมาธิ อัลไซเมอร์

ชาตามปลายมือ ปลายเท้า

ปวดเมื่อตามตัว ตามข้อ

ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน

ท้องผูก หรือท้องเสีย

ไตเสื่อม

มีบุตรยาก

หอบหืด

ผื่นแพ้ ผิวหนังเป็นตุ่มแข็ง โดยเฉพาะสารหนู

มะเร็งบางชนิด

กระดูกบาง กระดูกพรุน โดยเฉพาะอลูมิเนียม

ใครบ้างที่เหมาะสำหรับคีเลชั่น

บุคคลทั่วไป ที่ต้องการดูแลสุขภาพ

บุคคลที่มีความเสี่ยงได้รับโลหะหนักเป็นประจำ

บุคคลที่ตรวจพบพิษโลหะหนักปริมาณสูงในร่างกาย

บุคคลที่มีอาการต่างๆของการได้รับพิษโลหะหนัก เช่น หลอดเลือดหัวใจตีบ ร่วมกับตรวจพบพิษโลหะหนักปริมาณสูงในร่างกาย

ผู้ที่สูบบุหรี่

ผู้ที่ต้องการมีบุตร

การตรวจพิษโลหะหนักทำอย่างไร

        ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองสารพิษโลหะหนักหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น 

การเจาะเลือดปลายนิ้ว 1 หยด เพื่อนำไปตรวจโดยกล้องจุลทรรศน์(Live Blood Analysis) 

การตรวจผ่านฝ่ามือผู้เข้ารับการรักษา โดยเครื่อง OligoScan

การเจาะเลือด เพื่อตรวจปริมาณโลหะหนักในเลือด

การตรวจโลหะหนักที่ถูกขับออกมาในปัสสาวะ หลังได้รับการขจัดพิษโลหะหนัก 1 ครั้ง

        ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวิธีใด หมอแนะในให้ตรวจคัดกรองก่อนนะครับ เพื่อผลการรักษาที่มีประสิธิภาพ และปลอดภัย

ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนทำคีเลชั่น

        เข้ารับการซักประวัติ และตรวจสุขภาพเบื้องต้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หลังจากนั้นจะทำการตรวจพิษโลหะหนัก และค่าไต เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับบริการทุกท่าน

        ไม่แนะนำให้งดน้ำงดอาหารก่อนเข้ารับการกำจัดพิษโลหะหนัก เพราะอาจทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำชั่วคราวได้

ขั้นตอนง่ายๆในการทำคีเลชั่น

        แพทย์จะให้สารน้ำที่ประกอบไปด้วย สารอินทรีย์ที่มีฤทธ์จับกับโลหะหนักได้ ที่เรียกว่า EDTA ร่วมกับวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เข้าทางหลอดเลือดดำ เหมือนกับการให้น้ำเกลือ เป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง ขณะรับบริการ ผู้เข้ารับบริการสามารถผ่อนคลาย โดยการฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมเบาๆได้

        สาร EDTA จะเข้าไปจับกับโลหะหนักที่อยู่ในเซลล์ หรืออวัยวะต่างๆ เข้ามาในกระแสเลือด หลังจากนั้นจะขับโลหะหนักเหล่านี้ออกทางไต และปัสสาวะ ด้วยเหตุนี้การทำคีเลชั่นจึงไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไตที่มีค่าไตสูงมากๆ

ผลข้างเคียงในการทำคีเลชั่น

        ภายใน 24-48 ชั่วโมงแรก อาจเกิดอาการอ่อนเพลียได้บ้าง จากการขาดแร่ธาตุบางชนิด เช่น แคลเซียมหรือ แมกนีเซียม แนะนำให้รับประทานแร่ธาตุจำเป็นเสริม ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบถ้วน ดื่มน้ำแร่ งดการออกกำลังกายหนัก

ใครที่ห้ามทำคีเลชั่น

ผู้ป่วยไตวาย

หญิงตั้งครรภ์

ผู้ที่แพ้สาร EDTA

ผู้ที่มีภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติ

ผู้ที่สมองมีความผิดปกจากพิษตะกั่วเฉียบพลัน

ข้อควรระวังในการทำคีเลชั่น

ผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด

ผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว

ผู้ที่มีภาวะไตบกพร่อง

ผู้ที่มีโรคตับ

ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถควบคุมได้

ผู้ที่มีภาวะขาดเอ็นไซม์ G6PD

ควรทำคีเลชั่นบ่อยแค่ไหน

        ควรทำอย่างน้อย ทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ติดต่อกัน 10-20 ครั้ง แล้วตรวจสารพิษโลหะหนักซ้ำอีกครั้ง เพื่อติดตามผลการรักษา

ทำไมต้องเลือกคีเลชั่นที่ SELF Anti-Aging Clinic

ได้รับการปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเวชศาสตร์ชะลอวัยทุกครั้ง เพื่อคำนวณขนาดของ EDTA ให้เหมาะสม เพื่อประสิทธิผลการรักษาที่ดี มีความปลอดภัย

มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการล่วงหน้า เพื่อการรักษาที่ตรงจุดและปลอดภัย

ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัย

มีความสะอาด ปลอดเชื้อและสิ่งแปลกปลอม การเตรียมผลิตภัณฑ์ทำโดยพยาบาลวิชาชีพโดยตรง

มีการตรวจวัดสัญญาณชีพ และเฝ้าระวังโดยแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ

มีทั้งการตรวจสุขภาพทั่วไป ระดับวิตามินดี ค่าตับและไต

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ต้องการตรวจเช็คสุขภาพประจำปี

ประกอบด้วย 11 รายการ ได้แก่

CBC(Complete Blood Count) การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ได้แก่เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกร็ดเลือด 

Creatinine ค่าการทำงานของไต

AST/ALT ค่าเอนไซม์ตับ

Uric ค่ายูริคในเลือด

HbA1c ค่าน้ำตาลสะสมในเลือด

Lipid Profile ค่าไขมันในเลือด 4 รายการ ได้แก่ Cholesterol, LDL, HDL, TG

Vitamin D ระดับวิตามินดี ช่วยป้องกันกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกัน

เป็นการตรวจยีนที่บ่งบอกความเสี่ยงในการเกิดโรค และการทำงานของร่างกายในแต่ละบุคคล สามารถนำไปปรับใช้ในการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และการใช้ชีวิตประจำวัน

เป็นการตรวจภาวะการอักเสบที่เป็นผลจากการติดเชื้อโควิต ทำให้เกิดภาวะ Long Covid ตามมา เพื่อที่จะได้รักษาภาวะดังกล่าว ตามสาเหตุนั้นๆ

        เหมาะสำหรับ

ผู้ป่วยโรคโควิด-19 นั้นมีอาการยาวนานต่อเนื่องไปเป็นระยะเวลานานหลายเดือนหลังจากติดเชื้อ มักพบในคนไข้อาการรุนแรงตั้งแต่ต้น และทวีคูณความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อออกกำลังกายหรือใช้สมาธิจดจ่อมาก ๆ โดยมีอาการ เช่น

เป็นไข้ ปวดหัว วิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม

หายใจเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม ไอ แน่นหน้าอก อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

ปวดท้อง ท้องเสีย รับประทานอาหารไม่ลง

ปวดหู หรือมีเสียงในหู

ใจสั่น ขาดสมาธิ หรือคิดอะไรไม่ออก หัวตื้อ นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน

มีอาการชา ปวดกล้ามเนื้อและข้อ 

ไม่ได้กลิ่นหรือรับรสได้ไม่ดี

ผื่นตามตัว

รอบประจำเดือนมาผิดปกติ

ประกอบด้วย 9 รายการ ได้แก่

CBC(Complete Blood Count) การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ได้แก่เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกร็ดเลือด 

Creatinine ค่าไต

AST/ALT ค่าเอนไซม์ตับ

Blood Glucose ค่าน้ำตาลในเลือด

Vitamin D วิตามินดี ลดความเสี่ยงมะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกัน

hs-CRP ค่าการอักเสบในเลือด

Fibrinogen ค่าการแข็งตัวของเลือด

G-6-PD screening 

ประกอบด้วยการตรวจสุขภาพทั่วไป ระดับวิตามินดี ค่าตับ/ไต ค่าที่บ่งบอกถึงการอักเสบ/ความเสี่ยงของโรค และฮอร์โมน เช่น โกรทฮอร์โมน ฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ฮอร์โมนไทรอยด์ ฮอร์โมนวัยทอง

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ

ผู้ที่มีความเสี่ยงระดับฮอร์โมนไม่สมดุล ได้แก่ ผู้ที่ประจำเดือนมาผิดปกติ นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เครียด ซึมเศร้า น้ำหนักเพิ่มขึ้นผิดปกติ ผู้ที่เป็นสิวมากกว่าปกติ ผิวพรรณแห้งกร้าน เกิดริ้วรอยก่อนวัย เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป

ผู้ที่ต้องการตรวจเช็คสุขภาพประจำปี

ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หัวใจ

ผู้ที่ต้องการชะลอวัย

ประกอบด้วย 34 รายการ ได้แก่

CBC(Complete Blood Count) การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ได้แก่เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกร็ดเลือด 

Creatinine ค่าการทำงานของไต

Liver Function Test ค่าตับ 8 รายการ ได้แก่ AST, ALT, Total Protein, Albumin, Total Bilirubin, Direct Bilirubin, ALP, GGT

Uric ค่ายูริคในเลือด

Blood Glucose ค่าน้ำตาลในเลือด

HbA1c ค่าน้ำตาลสะสมในเลือด

insu.lin ระดับฮอร์โมนอินสุลิน *สามารถตรวจพบอาการของโรคเบาหวานได้ไวกว่าน้ำตาลในเลือด

Lipid Profile ค่าไขมันในเลือด 4 รายการ ได้แก่ Cholesterol, LDL, HDL, TG

Vitamin D ระดับวิตามินดี ช่วยป้องกันกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกัน

hs-CRP ค่าบ่งบอกการอักเสบในเลือด รวมถึงความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมอง

Homocysteine บอกความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง(Stroke) อัลไซเมอร์ ในอนาคต

DHEA-S ระดับฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต

Cortisol ระดับฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต

TSH ระดับฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์

Free T3 ระดับฮอร์โมนไทรอยด์

Free T4 ระดับฮอร์โมนไทรอยด์

FSH ฮอร์โมนกระตุ้นฮอร์โมนเพศ

LH ฮอร์โมนกระตุ้นฮอร์โมนเพศ

Estradiol (E2) ฮอร์โมนเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง)

Progesterone ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน

Testosterone ฮอร์โมนเทสโทรสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย)

SHBG โปรตีนที่จับกับฮอร์โมนเพศ

PSA โปรตีนจากต่อมลูกหมาก

มีทั้งการตรวจสุขภาพทั่วไป ระดับวิตามินดี ค่าตับและไต ค่าที่บ่งบอกถึงการอักเสบและความเสี่ยงของโรค

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ

ผู้ที่ต้องการตรวจเช็คสุขภาพประจำปี

ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หัวใจ

ประกอบด้วย 14 รายการ ได้แก่

CBC(Complete Blood Count) การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ได้แก่เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกร็ดเลือด 

Creatinine ค่าการทำงานของไต

AST/ALT ค่าเอนไซม์ตับ

Uric ค่ายูริคในเลือด

Blood Glucose ค่าน้ำตาลในเลือด

HbA1c ค่าน้ำตาลสะสมในเลือด

Lipid Profile ค่าไขมันในเลือด 4 รายการ ได้แก่ Cholesterol, LDL, HDL, TG

Vitamin D ระดับวิตามินดี ช่วยป้องกันกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกัน

hs-CRP ค่าบ่งบอกการอักเสบในเลือด รวมถึงความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมอง

Homocysteine บอกความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง(Stroke) อัลไซเมอร์ในอนาคต

Vitamin D ระดับวิตามินดี ช่วยป้องกันกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกัน

สามารถบอกปริมาณโลหะหนักในร่างกายได้โดยไม่ต้องเจาะเลือด ใช้สำหรับการพิจารณากำจัดพิษโลหะหนัก (Chelation)

        Oligoscan คือ การตรวจวัดระดับโลหะหนักและแร่ธาตุในร่างกายสามารถบอกได้ถึงระดับสารต่างๆ ในร่างกาย โดยวิเคราะห์จากค่าการดูดกลืนแสงของแร่ธาตุต่างๆ ในเนื้อเยื่อทำให้ทราบระดับแร่ธาตุและโลหะหนักในร่างกายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ก่อนที่จะเกิดผลเสียกับร่างกาย

การตรวจด้วย Oligoscan มีการแสดงผลแตกต่างจากตรวจเลือด หรือปัสสาวะที่จะแสดงผลช้ากว่า กล่าวคือ เมื่อมีการสะสมจนเกินขีดความสามารถในการรับได้ของร่างกายไปแล้ว จึงจะปรากฏออกมาในกระแสเลือดและปัสสาวะ 

        ช่วยให้ทราบถึงสารตกค้างจากพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำต่างๆ รวมถึงบ่งบอกแร่ธาตุที่สำคัญว่าร่างกายว่าได้รับเพียงพอหรือยัง

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสมลพิษจากสิ่งแวดล้อม และผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่เป็นประจำ

เป็นการวัดระดับสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor Markers) 

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่มีความเสี่ยงมะเร็ง หรือได้รับสารก่อมะเร็งเป็นประจำ

ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง

ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคมะเร็งแต่เนิ่นๆ

ประกอบด้วย 6 รายการ ได้แก่

Alpha-fetoprotein (AFP) พบได้ในมะเร็งตับ มะเร็งรังไข่/อัณฑะบางชนิด

Carcinoembryonic antigen (CEA) พบได้ระดับสูงในมะเร็งลำไส้ใหญ่มากที่สุด หรือพบได้มะเร็งอื่นๆ เช่น มะเร็งทานเดินอาหาร ตับอ่อน เต้านม ปอด

CA 125 พบได้ในมะเร็งรังไข่เป็นหลัก และ มะเร็งตับอ่อน ปอด ตับ ทางเดินอาหาร

CA 19-9 พบได้ใน มะเร็งตับอ่อน ท่อน้ำดี ตับ

CA 15-3 พบได้ในมะเร็งเต้านม ระบบทางเดินอาหาร ตับ ตับอ่อน ปอด

PSA พบในมะเร็งต่อมลูกหมาก ภาวะต่อมลูกหมากโต หรืออักเสบ

NSE พบในมะเร็งปอดบางชนิด มะเร็งระบบประสาทต่อมไร้ท่อ เช่น Neuroblastoma, Pheochromocytoma

เป็นการตรวจเพื่อคัดกรองปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อการทำงานของสมอง เช่น น้ำตาลในเลือด ระดับไขมัน วิตามิน ฮอร์โมนบางชนิด สารที่กระตุ้นการอักเสบ รวมไปถึงปัจจัยทางพันธุกรรมบางชนิด

เหมาะสำหรับ

บุคคลที่ต้องการดูแลสุขภาพ

บุคคลที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคสมองเสื่อม

ประกอบด้วย 19 รายการ ได้แก่

CBC(Complete Blood Count) การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ได้แก่เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกร็ดเลือด 

Creatinine ค่าไต

AST/ALT ค่าเอนไซม์ตับ

Uric ค่ายูริคในเลือด

Blood Glucose ค่าน้ำตาลในเลือด

HbA1c ค่าน้ำตาลสะสมในเลือด

Lipid Profile ค่าไขมันในเลือด 4 รายการ ได้แก่ Cholesterol, LDL, HDL, TG

insu.lin ระดับฮอร์โมนอินสุลิน *สามารถตรวจพบอาการของโรคเบาหวานได้ไวกว่าน้ำตาลในเลือด

Vitamin D ระดับวิตามินดี ช่วยป้องกันกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกัน

hs-CRP ค่าบ่งบอกการอักเสบในเลือด รวมถึงความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมอง

Homocysteine บอกความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง(Stroke) อัลไซเมอร์ ในอนาคต

TSH ระดับฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์

Free T3 ระดับฮอร์โมนไทรอยด์

Free T4 ระดับฮอร์โมนไทรอยด์

ApoE gene บอกความเสี่ยงทางพันธุกรรมจากยีนโรคสมองเสื่อม

เป็นการตรวจระดับสารอาหาร และวิตามินในเลือด ซึ่งเป็นสารที่แม้จะมีปริมาณในร่างกายไม่มาก แต่ส่งผลต่อการทำงานของร่างกายในทุกๆด้าน ซึ่งหากมีปริมาณไม่เพียงพอแล้ว อาจทำให้เกิดอาการหรือโรคต่างๆตามมาได้

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ

ผู้ที่รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นประจำ

ผู้ที่ต้องการรับประทานวิตามินเฉพาะบุคคล (Customized Supplement)

ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง หรือความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง

ผู้ที่ต้องการชะลอวัย

        ประกอบด้วย 18 รายการ ได้แก่

Vitamin D ระดับวิตามินดี ช่วยป้องกันกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกัน

Vitamin A ระดับวิตามินเอ เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา บำรุงผิว 

Vitamin C ระดับวิตามินซี เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงผิว เสริมสร้างกระดูก

Vitamin E ระดับวิตามินอี เป็นสารต้านอนมูลอิสระ ทำให้ผิวชุ่มชื้น

Gamma Tocopherol สารต้านอนุมูลอิสระ

Alpha Carotene สารต้านอนุมูลอิสระ 

Beta Carotene สารต้านอนุมูลอิสระ

Beta Cryptoxanthin สารต้านอนุมูลอิสระ

Lutein and Zeaxanthin สารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันรังสียูวี บำรุงสายตา

Lycopene สารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิว ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก

Coenzyme Q10 ระดับโคเอนไซม์คิวเท็น ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ เช่น สมอง หัวใจ และเป็นต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นในร่างกาย 

Copper ระดับแร่ธาตุทองแดง ช่วยเป็นองค์ประกอบในการต้านอนุมูลอิสระ

Zinc ระดับแร่ธาตุสังกะสี ช่วยเป็นองค์ประกอบในการต้านอนุมูลอิสระ บังรุงผิว เส้นผม ลดสิว ช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพศชาย เพิ่มภูมิคุ้มกัน 

Selenium ระดับแร่ธาตุซีลีเนียม เป็นองค์ประกอบในการต้านอนุมูลอิสระ และจำเป็นสำหรับการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์

Chromium ระดับแร่ธาตุโครเมียม เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างฮอร์โมนอินสุลิน

Ferritin ระดับธาตุเหล็กสะสมในร่างกาย

Folate(Vitamin B9) ระดับโฟเลต ช่วยบำรุงประสาทและสมอง 

Vitamin B12 ระดับวิตามิน B12 ช่วยบำรุงประสาทและสมอง รวมถึงเม็ดเลือดแดง

เป็นการตรวจสมดุลฮอร์โมนต่างๆในร่างกาย ได้แก่ โกรทฮอร์โมน ฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ฮอร์โมนไทรอยด์ ปัญหาวัยทอง 

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่มีความเสี่ยงระดับฮอร์โมนไม่สมดุล ได้แก่ ผู้ที่ประจำเดือนมาผิดปกติ นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เครียด ซึมเศร้า น้ำหนักเพิ่มขึ้นผิดปกติ ผู้ที่เป็นสิวมากกว่าปกติ ผิวพรรณแห้งกร้าน เกิดริ้วรอยก่อนวัย เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป

ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัว เป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก

ผู้ที่ต้องการชะลอวัย

        ประกอบด้วย 14 รายการ ได้แก่

Growth Hormone ระดับโกรธฮอร์โมน

IGFBP-3 ระดับโปรตีนที่จับโกรธฮอร์โมน

DHEA-S ระดับฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต

Cortisol ระดับฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต

TSH ระดับฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์

Free T3 ระดับฮอร์โมนไทรอยด์

Free T4 ระดับฮอร์โมนไทรอยด์

FSH ฮอร์โมนกระตุ้นฮอร์โมนเพศ

LH ฮอร์โมนกระตุ้นฮอร์โมนเพศ

Estradiol (E2) ฮอร์โมนเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง)

Progesterone ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน

Testosterone ฮอร์โมนเทสโทรสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย)

SHBG โปรตีนที่จับกับฮอร์โมนเพศ

PSA โปรตีนจากต่อมลูกหมาก (สำหรับผู้ชาย)