Navamin 9 Hospital

ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ตั้งแต่ระดับความรุนแรงปานกลางจนถึงอันตรายต่อชีวิต เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อผ่านทางระบบทางเดินหายใจ ทั้งทางจมูก ลำคอ และปอด ดังนั้นเราต้องหาทางป้องกันโดยการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ 3-4 สายพันธุ์ ตามที่หน่วยงานด้านการเฝ้าระวังการระบาดของไข้หวัดใหญ่ระดับโลกแนะนำว่าเป็น “สายพันธุ์ที่จะมีการระบาดมากที่สุด” ในปีนั้นๆ

การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่อาจระบาดในฤดูกาลนั้นๆ ได้มากกว่า ทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนมีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยลง ส่วนใหญ่จะฉีดที่กล้ามเนื้อต้นแขน แต่ในทารกและเด็กเล็กจะฉีดที่กล้ามเนื้อต้นขา ส่วนการฉีดเข้าใต้ชั้นผิวหนังสามารถทำได้ในผู้ที่มีอายุ 18-64 ปี สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 8 ขวบ ควรฉีด 2 เข็มในปีแรก โดยเว้นระยะห่างกันครั้งละ 1 เดือน

การตรวจการนอนหลับ หรือที่เรียกว่าการตรวจการนอนหลับด้วยโพลีซอมโนกราฟี (Polysomnography) เป็นการตรวจวินิจฉัยที่ติดตามรูปแบบการนอนหลับ กิจกรรมของสมอง การหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ และการทำงานอื่น ๆ ของร่างกายในระหว่างการนอนหลับ การตรวจนี้ใช้ในการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคนอนไม่หลับ นาร์โคเลปซี และโรคขากระตุกขณะหลับ การตรวจการนอนหลับช่วยให้แพทย์เข้าใจคุณภาพการนอนหลับของคุณและระบุปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมของคุณ

เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
1. โปรแกรมดังกล่าว ไม่รวมค่าบริการและค่าแพทย์ 
2. โปรแกรมตรวจสุขภาพดังกล่าว ""ต้องนัดหมายการเข้ารับบริการล่วงหน้า"" เท่านั้น
3. กรณีพบความผิดปกติ จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาเพิ่มเติม คิดอัตราค่าบริการตามจริง
4. โปรแกรมดังกล่าวไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสินค้าอื่น หรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ ทุกกรณี
5. โปรแกรมดังกล่าวไม่สามารถโอนสิทธิ์ รายการต่างๆ ให้ผู้อื่นได้
6. เงื่อนไขการเข้ารับบริการเป็นไปตามที่โรงพยาบาลกำหนดเท่านั้น

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
- ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 หลังจากเข็มแรก 1 เดือน และเข็มที่ 3 นับจากเข็มแรก 6 เดือน

เงื่อนไขการเข้ารับบริการ
1. โปรแกรมดังกล่าว ไม่รวมค่าบริการและค่าแพทย์ 
2. โปรแกรมตรวจสุขภาพดังกล่าว ""ต้องนัดหมายการเข้ารับบริการล่วงหน้า"" เท่านั้น
3. กรณีพบความผิดปกติ จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาเพิ่มเติม คิดอัตราค่าบริการตามจริง
4. โปรแกรมดังกล่าวไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสินค้าอื่น หรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ ทุกกรณี
5. โปรแกรมดังกล่าวไม่สามารถโอนสิทธิ์ รายการต่างๆ ให้ผู้อื่นได้
6. เงื่อนไขการเข้ารับบริการเป็นไปตามที่โรงพยาบาลกำหนดเท่านั้น

หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมเราต้องไปตรวจสุขภาพทุกปี ทั้งๆ ที่ร่างกายยังรู้สึกปกติและไม่เป็นหวัดด้วยซ้ำ การตรวจร่างกายจำเป็นจริงหรือ? เราต้องตรวจสอบอะไรบ้าง?

การตรวจสุขภาพคือการประเมินสภาพร่างกายของเรา แม้ว่ารูปร่างหน้าตาอาจดูปกติและแข็งแรง แต่ภายในของเราอาจไม่เหมือนเดิม เกราะป้องกันของเราซึ่งเคยแข็งแรงอาจเสื่อมสภาพไปบางส่วน ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคในอนาคต หากเราไม่สังเกตเห็นหรือได้รับการวินิจฉัยในเชิงลึก เราจะไม่ตระหนักถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเราได้รับการวินิจฉัยและพบว่าอาการบางอย่างมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคบางอย่างในระยะเริ่มแรก เราก็สามารถเตรียมตัวและปรึกษาแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยงโรคได้เร็ว ส่งผลให้เราสามารถลดความเจ็บปวด ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาว และสามารถตรวจได้ทุกเพศทุกวัย

การตรวจสุขภาพประจำปีแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ วัยเด็ก/วัยทำงาน หรือวัยผู้ใหญ่/ ผู้สูงอายุ

รายการตรวจ

1. ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ (Physical Examination)

2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)

3. ตรวจหาหมู่เลือด (Blood Group ABO)

4. ตรวจหาหมู่เลือด (Blood Group Rh)

5. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar)

6. ตรวจระดับไขมันในเลือด (Cholesterol)

7. ตรวจระดับไขมันในเลือด (Triglyceride)

8. ตรวจหากรดยูริก (Uric Acid)

9. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)

10. ตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบบี (Anti HBs)

11. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (Anti HCV)

12. ตรวจปัสสาวะ (Urine Exam)

13. เอ็กซเรย์ปอดและหัวใจ (Chest X-Ray)

14. สมุดรายงานผลการตรวจสุขภาพ (Medical Check-up Report)

15. คูปองอาหาร (Meal Coupon)

โรคมะเร็ง กลายเป็นโรคร้ายที่พบได้บ่อยมากในปัจจุบัน ในขณะที่อายุของผู้ป่วยเองก็เริ่มลดน้อยลง การตรวจคัดกรองจึงไม่ควรมองข้าม เพราะโรคมะเร็งมักไม่มีอาการแสดงแน่ชัดในระยะแรกเริ่ม กว่าจะแสดงอาการผิดปกติ เซลล์มะเร็งก็อาจลุกลามและเข้าสู่ระยะท้ายๆ ทำให้การรักษาโรคมะเร็งทำได้ยากขึ้น โอกาสเสียชีวิตของผู้ป่วยก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นด้วย ดังนั้นเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและความเจ็บป่วยจากโรคมะเร็ง การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งต่างๆ จึงเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด โดยสามารถตรวจได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

รายการตรวจ

1. ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ (Physical Examination)

2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)

3. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar)

4. ตรวจหาระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (Hemoglobin A1C)

5. ตรวจระดับไขมันในเลือด (Cholesterol)

6. ตรวจหาปริมาณไขมันในเลือด (Triglyceride)

7. ตรวจหาไขมันในเลือด (HDL)

8. ตรวจหาไขมันในเลือด (LDL)

9. ตรวจการทำงานของไต (Creatinine)

10. ตรวจการทำงานของไต (BUN)

11. ตรวจการทำงานของตับ (SGOT)

12. ตรวจการทำงานของตับ (SGPT)

13. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)

14. ตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบบี (Anti HBs)

15. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (Anti HCV)

16. ตรวจปัสสาวะ (Urine Exam)

17. การตรวจหาความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ (CEA)

18. การตรวจหาความเสี่ยงต่อมะเร็งตับ (AFP)

19. การตรวจหาความเสี่ยงต่อมะเร็งตับอ่อน (CA19-9)

20. การตรวจหาความเสี่ยงต่อมะเร็งรังไข่ (CA125)

21. ตรวจมะเร็จปากมดลูก (Thin Prep pap Test)

22. ตรวจมะเร็งเต้านม (Mammogramm With Ultrasond)

23. ตรวจเอกซเรย์ปอด (Chest X-Ray)

24. ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า (EKG)

25. ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนบน และส่วนล่าง (U/S whole Abdomen)

26. สมุดรายงานผลการตรวจสุขภาพ (Medical Check-up Report)

27. คูปองอาหาร (Meal Coupon)

หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมเราต้องไปตรวจสุขภาพทุกปี ทั้งๆ ที่ร่างกายยังรู้สึกปกติและไม่เป็นหวัดด้วยซ้ำ การตรวจร่างกายจำเป็นจริงหรือ? เราต้องตรวจสอบอะไรบ้าง?

การตรวจสุขภาพคือการประเมินสภาพร่างกายของเรา แม้ว่ารูปร่างหน้าตาอาจดูปกติและแข็งแรง แต่ภายในของเราอาจไม่เหมือนเดิม เกราะป้องกันของเราซึ่งเคยแข็งแรงอาจเสื่อมสภาพไปบางส่วน ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคในอนาคต หากเราไม่สังเกตเห็นหรือได้รับการวินิจฉัยในเชิงลึก เราจะไม่ตระหนักถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเราได้รับการวินิจฉัยและพบว่าอาการบางอย่างมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคบางอย่างในระยะเริ่มแรก เราก็สามารถเตรียมตัวและปรึกษาแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยงโรคได้เร็ว ส่งผลให้เราสามารถลดความเจ็บปวด ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาว และสามารถตรวจได้ทุกเพศทุกวัย

การตรวจสุขภาพประจำปีแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ วัยเด็ก/วัยทำงาน หรือวัยผู้ใหญ่/ ผู้สูงอายุ

รายการตรวจ

1. ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ (Physical Examination)

2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)

3. ตรวจหาหมู่เลือด (Blood Group ABO)

4. ตรวจหาหมู่เลือด (Blood Group Rh)

5. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar)

6. ตรวจระดับไขมันในเลือด (Cholesterol)

7. ตรวจระดับไขมันในเลือด (Triglyceride)

8. ตรวจหาไขมันในเลือด (HDL)

9. ตรวจหาไขมันในเลือด (LDL)

10. ตรวจการทำงานของไต (Creatinine)

11. ตรวจการทำงานของไต (BUN)

12. ตรวจการทำงานของตับ (SGOT)

13. ตรวจการทำงานของตับ (SGPT)

14. ตรวจหากรดยูริก (Uric Acid)

15. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)

16. ตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบบี (Anti HBs)

17. ตรวจปัสสาวะ (Urine Exam)

18. ตรวจมะเร็งปากมดลูก (Thin Prep pap Test)

19. เอ็กซเรย์ปอดและหัวใจ (Chest X-Ray)

20. ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า (EKG)

21. ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนล่าง (Ultrasound Lower Abdomen)

22. สมุดรายงานผลการตรวจสุขภาพ (Medical Check-up Report)

23. คูปองอาหาร (Meal Coupon)

หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมเราต้องไปตรวจสุขภาพทุกปี ทั้งๆ ที่ร่างกายยังรู้สึกปกติและไม่เป็นหวัดด้วยซ้ำ การตรวจร่างกายจำเป็นจริงหรือ? เราต้องตรวจสอบอะไรบ้าง?

การตรวจสุขภาพคือการประเมินสภาพร่างกายของเรา แม้ว่ารูปร่างหน้าตาอาจดูปกติและแข็งแรง แต่ภายในของเราอาจไม่เหมือนเดิม เกราะป้องกันของเราซึ่งเคยแข็งแรงอาจเสื่อมสภาพไปบางส่วน ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคในอนาคต หากเราไม่สังเกตเห็นหรือได้รับการวินิจฉัยในเชิงลึก เราจะไม่ตระหนักถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเราได้รับการวินิจฉัยและพบว่าอาการบางอย่างมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคบางอย่างในระยะเริ่มแรก เราก็สามารถเตรียมตัวและปรึกษาแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยงโรคได้เร็ว ส่งผลให้เราสามารถลดความเจ็บปวด ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาว และสามารถตรวจได้ทุกเพศทุกวัย

การตรวจสุขภาพประจำปีแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ วัยเด็ก/วัยทำงาน หรือวัยผู้ใหญ่/ ผู้สูงอายุ

รายการตรวจ

1. ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ (Physical Examination)

2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBCt)

3. ตรวจหาหมู่เลือด (Blood Group ABO)

4. ตรวจหาหมู่เลือด (Blood Group Rh)

5. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar)

6. ตรวจระดับไขมันในเลือด (Cholesterol)

7. ตรวจหาไขมันในเลือด (HDL)

8. ตรวจหาไขมันในเลือด (LDL)

9. ตรวจการทำงานของไต (Creatinine)

10. ตรวจการทำงานของไต (BUN)

11. ตรวจการทำงานของตับ (SGOT)

12. ตรวจการทำงานของตับ (SGPT)

13. ตรวจหากรดยูริก (Uric Acid)

14. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)

15. ตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบบี (Anti HBs)

15. ตรวจปัสสาวะ (Urine Exam)

16. เอ็กซเรย์ปอดและหัวใจ (Chest X-Ray)

17. ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า (EKG)

18. ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนบน (Ultrasound Upper Abdomen)

19. สมุดรายงานผลการตรวจสุขภาพ (Medical Check-up Report)

20. คูปองอาหาร (Meal Coupon)

หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมเราต้องไปตรวจสุขภาพทุกปี ทั้งๆ ที่ร่างกายยังรู้สึกปกติและไม่เป็นหวัดด้วยซ้ำ การตรวจร่างกายจำเป็นจริงหรือ? เราต้องตรวจสอบอะไรบ้าง?

การตรวจสุขภาพคือการประเมินสภาพร่างกายของเรา แม้ว่ารูปร่างหน้าตาอาจดูปกติและแข็งแรง แต่ภายในของเราอาจไม่เหมือนเดิม เกราะป้องกันของเราซึ่งเคยแข็งแรงอาจเสื่อมสภาพไปบางส่วน ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคในอนาคต หากเราไม่สังเกตเห็นหรือได้รับการวินิจฉัยในเชิงลึก เราจะไม่ตระหนักถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเราได้รับการวินิจฉัยและพบว่าอาการบางอย่างมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคบางอย่างในระยะเริ่มแรก เราก็สามารถเตรียมตัวและปรึกษาแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยงโรคได้เร็ว ส่งผลให้เราสามารถลดความเจ็บปวด ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาว และสามารถตรวจได้ทุกเพศทุกวัย

การตรวจสุขภาพประจำปีแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ วัยเด็ก/วัยทำงาน หรือวัยผู้ใหญ่/ ผู้สูงอายุ

รายการตรวจ

1. ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ (Physical Examination)

2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)

3. ตรวจหาหมู่เลือด (Blood Group ABO)

4. ตรวจหาหมู่เลือด (Blood Group Rh)

5. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar)

6. ตรวจหาระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (Hemoglobin A1C)

7. ตรวจระดับไขมันในเลือด (Cholesterol)

8. ตรวจหาปริมาณไขมันในเลือด (Triglyceride)

9. ตรวจหาไขมันในเลือด (HDL)

10. ตรวจหาไขมันในเลือด (LDL)

11. ตรวจการทำงานของไต (Creatinine)

12. ตรวจการทำงานของไต (BUN)

13. ตรวจการทำงานของตับ (SGOT)

14. ตรวจการทำงานของตับ (SGPT)

15. ตรวจการทำงานของตับ (Alkaline Phosphatase)

16. ตรวจหากรดยูริก (Uric Acid)

17. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)

18. ตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบบี (Anti HBs)

19. ตรวจปัสสาวะ (Urine Exam)

20. ตรวจมะเร็งปากมดลูก (Thin Prep pap Test)

21. เอ็กซเรย์ปอดและหัวใจ (Chest X-Ray)

22. ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า (EKG)

23. ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนบน และส่วนล่าง (U/S whole Abdomen)

24. สมุดรายงานผลการตรวจสุขภาพ (Medical Check-up Report)

25. คูปองอาหาร (Meal Coupon)

หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมเราต้องไปตรวจสุขภาพทุกปี ทั้งๆ ที่ร่างกายยังรู้สึกปกติและไม่เป็นหวัดด้วยซ้ำ การตรวจร่างกายจำเป็นจริงหรือ? เราต้องตรวจสอบอะไรบ้าง?

การตรวจสุขภาพคือการประเมินสภาพร่างกายของเรา แม้ว่ารูปร่างหน้าตาอาจดูปกติและแข็งแรง แต่ภายในของเราอาจไม่เหมือนเดิม เกราะป้องกันของเราซึ่งเคยแข็งแรงอาจเสื่อมสภาพไปบางส่วน ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคในอนาคต หากเราไม่สังเกตเห็นหรือได้รับการวินิจฉัยในเชิงลึก เราจะไม่ตระหนักถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเราได้รับการวินิจฉัยและพบว่าอาการบางอย่างมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคบางอย่างในระยะเริ่มแรก เราก็สามารถเตรียมตัวและปรึกษาแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยงโรคได้เร็ว ส่งผลให้เราสามารถลดความเจ็บปวด ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาว และสามารถตรวจได้ทุกเพศทุกวัย

การตรวจสุขภาพประจำปีแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ วัยเด็ก/วัยทำงาน หรือวัยผู้ใหญ่/ ผู้สูงอายุ

รายการตรวจ

1. ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ (Physical Examination)

2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)

3. ตรวจหาหมู่เลือด (Blood Group ABO)

4. ตรวจหาหมู่เลือด (Blood Group Rh)

5. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar)

6. ตรวจหาระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (Hemoglobin A1C)

7. ตรวจระดับไขมันในเลือด (Cholesterol)

8. ตรวจหาปริมาณไขมันในเลือด (Triglyceride)

9. ตรวจหาไขมันในเลือด (HDL)

10. ตรวจหาไขมันในเลือด (LDL)

11. ตรวจการทำงานของไต (Creatinine)

12. ตรวจการทำงานของไต (BUN)

13. ตรวจการทำงานของตับ (SGOT)

14. ตรวจการทำงานของตับ (SGPT)

15. ตรวจการทำงานของตับ (Alkaline Phosphatase)

16. ตรวจหากรดยูริก (Uric Acid)

17. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)

18. ตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบบี (Anti HBs)

19. ตรวจปัสสาวะ (Urine Exam)

20. การตรวจหาความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA)

21. เอ็กซเรย์ปอดและหัวใจ (Chest X-Ray)

22. ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า (EKG)

23. ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนบน และส่วนล่าง (U/S whole Abdomen)

24. สมุดรายงานผลการตรวจสุขภาพ (Medical Check-up Report)

25. คูปองอาหาร (Meal Coupon)

โรคมะเร็ง กลายเป็นโรคร้ายที่พบได้บ่อยมากในปัจจุบัน ในขณะที่อายุของผู้ป่วยเองก็เริ่มลดน้อยลง การตรวจคัดกรองจึงไม่ควรมองข้าม เพราะโรคมะเร็งมักไม่มีอาการแสดงแน่ชัดในระยะแรกเริ่ม กว่าจะแสดงอาการผิดปกติ เซลล์มะเร็งก็อาจลุกลามและเข้าสู่ระยะท้ายๆ ทำให้การรักษาโรคมะเร็งทำได้ยากขึ้น โอกาสเสียชีวิตของผู้ป่วยก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นด้วย ดังนั้นเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและความเจ็บป่วยจากโรคมะเร็ง การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งต่างๆ จึงเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด โดยสามารถตรวจได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

รายการตรวจ

1. ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ (Physical Examination)

2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count)

3. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar)

4. ตรวจหาระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (Hemoglobin A1C)

5. ตรวจระดับไขมันในเลือด (Cholesterol)

6. ตรวจหาไขมันในเลือด (HDL)

7. ตรวจหาไขมันในเลือด (LDL)

8. ตรวจการทำงานของไต (Creatinine)

9. ตรวจการทำงานของไต (BUN)

10. ตรวจการทำงานของตับ (SGOT)

11. ตรวจการทำงานของตับ (SGPT)

12. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)

13. ตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบบี (Anti HBs)

14. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (Anti HCV)

15. ตรวจปัสสาวะ (Urine Exam)

16. การตรวจหาความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ (CEA)

17. การตรวจหาความเสี่ยงต่อมะเร็งตับ (AFP)

18. การตรวจหาความเสี่ยงต่อมะเร็งตับอ่อน (CA19-9)

19. การตรวจหาความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA)

20. ตรวจเอกซเรย์ปอด (Chest X-Ray)

21. ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า (EKG)

22. ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนบน และส่วนล่าง (U/S whole Abdomen)

23. สมุดรายงานผลการตรวจสุขภาพ (Medical Check-up Report)

24. คูปองอาหาร (Meal Coupon)