Dr. Damrong Wellness Clinic

ทฤษฏีการแพทย์แผนจีนมองว่าเมื่อเข้าสู่ภาวะวัยทอง การทำงานของเส้นลมปราณต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์เริ่มเสื่อมลง เช่น การทำงานของเส้นลมปราณไตเสื่อมลง เส้นลมปราณชงและเริ่นพร่องลง ส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ แพทย์แผนจีนเน้นการรักษาวัยทองแบบธรรมชาติบำบัด มุ่งเน้นในการฟื้นฟูสุขภาพโดยปราศจากการใช้สารเคมีใด ๆ ใช้การฝังเข็มรักษาซึ่งจะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย ลดอาการต่าง ๆ จากภาวะวัยทอง นอกจากนี้ อาจใช้สมุนไพรจีนเพื่อเสริมการรักษาด้วย

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

5. ติดเม็ดสมุนไพรที่ใบหู  

“กัวซา” กับใบหน้า เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิว ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดลม ทำให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงเต็มที่ ช่วยเร่งให้ร่างกายขับสารพิษออกไปเร็วขึ้น การขูดกัวซาบนใบหน้าจะช่วยลดอาการไม่สบายหลายอย่างลงได้อย่างรวดเร็ว เช่น  น้ำมูก ไอ ภูมิแพ้ ตัวร้อน เป็นไข้ สิว ผื่น คัน ตึง หรือปวดเมื่อยตามตัวได้ ขูดเพื่อช่วยร่างกายระบายสารพิษอย่างรวดเร็ว บริเวณที่มีสารพิษเยอะ จะมีผื่นขึ้นค่ะ

ผลลัพธ์

- ผิวพรรณเต่งตึง หน้าเรียวยกกระชับ

- เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น เป็นประกาย มีเลือดฝาด

- ลดริ้วรอย ถุงใต้ตาและจุดด่างดำ

“กัวซา” กับใบหน้า เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิว ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดลม ทำให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงเต็มที่ ช่วยเร่งให้ร่างกายขับสารพิษออกไปเร็วขึ้น การขูดกัวซาบนใบหน้าจะช่วยลดอาการไม่สบายหลายอย่างลงได้อย่างรวดเร็ว เช่น น้ำมูก ไอ ภูมิแพ้ ตัวร้อน เป็นไข้ สิว ผื่น คัน ตึง หรือปวดเมื่อยตามตัวได้ ขูดเพื่อช่วยร่างกายระบายสารพิษอย่างรวดเร็ว บริเวณที่มีสารพิษเยอะ จะมีผื่นขึ้นค่ะ
ผลลัพธ์
- ผิวพรรณเต่งตึง หน้าเรียวยกกระชับ
- เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น เป็นประกาย มีเลือดฝาด
- ลดริ้วรอย ถุงใต้ตาและจุดด่างดำ

การฝังเข็มรักษาโรคอัมพาตได้ โดยอาศัยกลไกหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน ที่สำคัญ ได้แก่ กระตุ้นให้เซลล์สมองที่ยังไม่ตายให้ฟื้นตัวขี้นมา, กระตุ้นให้มีการสร้างวงจรประสาทเส้นใหม่เพื่อทำงานทดแทนเซลล์สมองส่วนที่ตายไปแล้ว, ปรับการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและทั่วร่างกายให้เหมาะสมขึ้นลดความหนืดของเลือด, กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว เพื่อชะลอการลีบตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้แขน ขามีกำลังวังชาในการเคลื่อนไหว, ปรับการทำงานของระบบอื่นๆในร่างกายร่วมไปด้วยเพื่อให้ร่างกายอยู่ภาวะสมดุลย์
ขั้นตอนการรักษา
1. ซักประวัติ
2. ตรวจร่างกาย
3. แมะชีพจร
4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า 20 นาที

การฝังเข็มจะทำให้ลมปราณ เลือดในเส้นลมปราณปอดและอวัยวะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไหลเวียนดีขึ้น ระบายความร้อนสะสม ให้ความชุ่มชื้นแก่ปอดและผิวหนัง ซึ่งเป็นอวัยวะที่เกี่ยวเนื่องกันในศาสตร์จีน ทำให้อาการภูมิแพ้ น้ำมูกไหล คัดจมูก ไซนัสอักเสบ ปวดบริเวณใบหน้า หรือผื่นแพ้ผิวหนัง ลมพิษ ก็จะดีขึ้น
ขั้นตอนการรักษา
1. ซักประวัติ
2. ตรวจร่างกาย
3. แมะชีพจร
4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

การฝังเข็มเป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษา หรือบำบัดความเจ็บป่วยตามแนวทางของแพทย์แผนจีนที่มีมากว่า 5,000 ปี หากเลือดและลมปราณทำงานสอดคล้องกันดี ร่างกายก็จะแข็งแรง แต่หากลมปราณและเลือดลมไหลเวียนไม่ดี ร่างกายก็จะเกิดอการเจ็บป่วย ซึ่งการฝังเข็มนี้ เข็มที่ปักลงไปจะสามารถกระตุ้นลมปราณให้เลือดไหลเวียนได้อย่างไม่ติดขึด อวัยวะที่ทำงานผิดปกติก็จะคืนสู่สภาพปกติ จนสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้
ผลลัพธ์หลังทำ
- อาการปวดหายไป
- เลือดไหลเวียนดีขึ้น
- กล้ามเนื้อคลายตัว
ขั้นตอนการรักษา
1. ซักประวัติ
2. ตรวจร่างกาย
3. แมะชีพจร
4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

หลักการรักษา คือเปิดทวารสมอง ทะลวงเส้นลมปราณ เพิ่มการไหลเวียน การฝังเข็มเป็นวิธีการรักษาอาการปวดศีรษะที่ได้ผลดีวิธีหนึ่ง และได้มีการศึกษาวิจัยการรักษาปวดศีรษะไมเกรนด้วยการฝังเข็ม พบว่าได้ผลดี
ผลลัพธ์หลังทำ
- อาการปวดลดลง
- รู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด
- อาการเวียนศีรษะลดลง
ขั้นตอนการรักษา
1. ซักประวัติ
2. ตรวจร่างกาย
3. แมะชีพจร
4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

ฝังเข็มจะช่วยเข้าไปกระตุ้นการไหลเวียนของรากผมและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวบนหนังศีรษะ เมื่อรากผมถูกกระตุ้น รากผมจะทำงานได้ดีขึ้น อาการผมร่วงจะค่อย ๆ หายไป
ผลลัพธ์หลังทำ
- ผมงอกใหม่เร็วขึ้น
- ผมร่วงน้อยลง
- รากผมแข็งแรง
ขั้นตอนการรักษา
1. ซักประวัติ
2. ตรวจร่างกาย
3. แมะชีพจร
4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

การฝังเข็มรักษาโรคอัมพาตได้ โดยอาศัยกลไกหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน ที่สำคัญ ได้แก่ กระตุ้นให้เซลล์สมองที่ยังไม่ตายให้ฟื้นตัวขี้นมา, กระตุ้นให้มีการสร้างวงจรประสาทเส้นใหม่เพื่อทำงานทดแทนเซลล์สมองส่วนที่ตายไปแล้ว, ปรับการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและทั่วร่างกายให้เหมาะสมขึ้นลดความหนืดของเลือด, กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว เพื่อชะลอการลีบตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้แขน ขามีกำลังวังชาในการเคลื่อนไหว, ปรับการทำงานของระบบอื่นๆในร่างกายร่วมไปด้วยเพื่อให้ร่างกายอยู่ภาวะสมดุลย์

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า 20 นาที

การฝังเข็มจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเจริญพันธุ์ในเพศหญิงเพิ่มการไหลเวียนโลหิตบริเวณรังไข่และมดลูก ซึ่งการเพิ่มการไหลเวียนโลหิตในบริเวณดังกล่าวจะทำให้มดลูกมีความพร้อมในการปฏิสนธิ ในเพศชายจะช่วยบำรุงกำลังเพศ, เพิ่มปริมาณเชื้ออสุจิ, เพิ่มความแข็งแรงของอสุจิและร่างกาย การฝังเข็มยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมน ซึ่งจะไปสั่งให้รังไข่, ต่อมหมวกไตและอวัยวะอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ทำงานได้เป็นปกติมากขึ้น

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

“กัวซา” กับใบหน้า เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิว ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดลม ทำให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงเต็มที่ ช่วยเร่งให้ร่างกายขับสารพิษออกไปเร็วขึ้น การขูดกัวซาบนใบหน้าจะช่วยลดอาการไม่สบายหลายอย่างลงได้อย่างรวดเร็ว เช่น น้ำมูก ไอ ภูมิแพ้ ตัวร้อน เป็นไข้ สิว ผื่น คัน ตึง หรือปวดเมื่อยตามตัวได้ ขูดเพื่อช่วยร่างกายระบายสารพิษอย่างรวดเร็ว บริเวณที่มีสารพิษเยอะ จะมีผื่นขึ้นค่ะ
ผลลัพธ์
- ผิวพรรณเต่งตึง หน้าเรียวยกกระชับ
- เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น เป็นประกาย มีเลือดฝาด
- ลดริ้วรอย ถุงใต้ตาและจุดด่างดำ

การฝังเข็มเป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษา หรือบำบัดความเจ็บป่วยตามแนวทางของแพทย์แผนจีนที่มีมากว่า 5,000 ปี หากเลือดและลมปราณทำงานสอดคล้องกันดี ร่างกายก็จะแข็งแรง แต่หากลมปราณและเลือดลมไหลเวียนไม่ดี ร่างกายก็จะเกิดอการเจ็บป่วย ซึ่งการฝังเข็มนี้ เข็มที่ปักลงไปจะสามารถกระตุ้นลมปราณให้เลือดไหลเวียนได้อย่างไม่ติดขึด อวัยวะที่ทำงานผิดปกติก็จะคืนสู่สภาพปกติ จนสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้
ผลลัพธ์หลังทำ
- อาการปวดหายไป
- เลือดไหลเวียนดีขึ้น
- กล้ามเนื้อคลายตัว
ขั้นตอนการรักษา
1. ซักประวัติ
2. ตรวจร่างกาย
3. แมะชีพจร
4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

ทำไมฝังเข็มที่ใบหน้าข่วยชะลอวัยได้เนื่องจากใบหน้าเป็นศูนย์รวมจุดลมปราณที่เชื่อมกับอวัยวะภายในไว้มากที่สุดเมื่ออวัยวะภายในไม่แข็งแรงหรือ ทำงานไม่สัมพันธ์กันอย่างสมดุล สีหน้าความสดใสจะหายไป สภาพผิวจะถดถอยลงไปในลักษณะต่างๆ เช่น สีหน้าหมองคล้ำ ซีด มีสิว ฝ้า ผิวแห้งสามารถเกิดริ้วรอยได้ง่าย ซึ่งแสดงออกมาได้ และชัดเจนเมื่อปักเข็มลงไปบนจุดลมปราณบนใบหน้า ทำให้เลือดมาเลี้ยงใบหน้ามากขึ้น แก้มมีสีอมชมพูสดใสตามธรรมชาติ และ กระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าให้แข็งแรเหมือนได้ออกกำลังกายยกกระชับขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นให้อวัยวะภายในที่มีลมปราณเชื่อมกับใบหน้าให้แข็งแรงอีกด้วย นั่นคือ การฝังเข็มเพื่อความงามเป็นวิธีการดูแลสุขภาพ และ ความงามไปพร้อมกันซึ่งไม่เหมือนกันกัการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เลเซอร์ บท็อกซ์ ศัลยกรรม หรือ แม้แต่การทายาที่รักษาแต่เพียงผิวพรรณภายนอก อย่างไรก็ตาม ผลของการฝังเข็มจะทำให้ดูอ่อนเยาว์ได้มากและน้อยนั้นขึ้นอยู่กับสุขภาพ
ขั้นตอนการรักษา
1. ซักประวัติ
2. ตรวจร่างกาย
3. แมะชีพจร
4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

การฉีด Mesotherapy ลดไขมันเฉพาะส่วน และ cellulite วิธีนี้จะไปช่วยให้มีการไหลเวียนของระบบทำให้เกิดเลือดและน้ำเหลืองให้ดีขึ้น ขบวนการช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ ลดขนาดของเซลล์ไขมัน ไขมันที่ละลายออกจากเซลล์จะวิ่งไปตามระบบน้ำเหลืองออกจากร่างกาย

การฝังเข็มเพื่อรักษาอาการปวดประจำเดือน เนื่องจากการฝังเข็มมีฤทธิ์ปรับการทำงานของฮอร์โมนเพศภายในร่างกายให้กลับสู่สภาพสมดุล ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งมีมดลูกและรังไข่อยู่ภายในให้ไหลเวียน ดีขึ้น ลดการคั่งของเลือด และทำให้กล้ามเนื้อผนังมดลูกและรังไข่คลายตัว จึงช่วยลดอาการ ปวดประจำเดือนได้

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

การฝังเข็มเป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษา หรือบำบัดความเจ็บป่วยตามแนวทางของแพทย์แผนจีนที่มีมากว่า 5,000 ปี หากเลือดและลมปราณทำงานสอดคล้องกันดี ร่างกายก็จะแข็งแรง แต่หากลมปราณและเลือดลมไหลเวียนไม่ดี ร่างกายก็จะเกิดอการเจ็บป่วย ซึ่งการฝังเข็มนี้ เข็มที่ปักลงไปจะสามารถกระตุ้นลมปราณให้เลือดไหลเวียนได้อย่างไม่ติดขึด อวัยวะที่ทำงานผิดปกติก็จะคืนสู่สภาพปกติ จนสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้

ผลลัพธ์หลังทำ

- อาการปวดหายไป

- เลือดไหลเวียนดีขึ้น

- กล้ามเนื้อคลายตัว

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

เป็นการฝังเข็มผ่านจุดบนเส้นลมปราณเพื่อปรับสมดุลของอวัยวะในร่างกาย ช่วยปรับระดับฮอร์โมนและเซลล์ที่ใช้ในการเจริญเติบโตของไขกระดูก

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

การฝังเข็มเพื่อลดไขมันเฉพาะส่วน แพทย์จะปักเข็มเงินที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว (Autoclave) ในบริเวณที่ต้องการลดไขมัน เช่น บริเวณต้นแขน.หน้าท้อง, เอว, สะโพก, ต้นขา เป็นต้น โดยแต่ละส่วนนั้นจะมีจุดฝังเข็มเฉพาะ เมื่อปักเข็มตามจุดเรียบร้อยแล้ว จะทำการกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า (6 โวลต์) ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายไฟฟ้านั้นจะไปกระตุ้นลมปราณที่จุดฝังเข็ม เพื่อละลายไขมัน การฝังเข็มเพื่อลดไขมันส่วนเกิน เช่น บริเวณ ต้นแขน, หน้าท้อง, เอว, สะโพก, ต้นขา โดยไม่ต้องออกกำลังกายและอดอาหาร แต่ห้ามดื่มน้ำอัดลม ซึ่งจะลดน้ำหนักได้อาทิตย์ละ 1 กิโลกรัม โดยจะต้องมาพบแพทย์อาทิตย์ละ 1 ครั้ง

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

ในทางการแพทย์แผนจีน มีแนวทางในการรักษาอาการซึมเศร้าโดยใช้การฝังเข็ม และการรับประทานยาจีนควบคู่กัน โดยการฝังเข็มจะเป็นการปรับสมดุลลมปราณตับ เป็นการปรับการเคลื่อนไหวลมปราณของอวัยวะภายใน และหยินหยาง รวมถึงการใช้หลักการปลุกสมองเปิดทวารที่ทำให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น นอกจากนี้การรักษาทางจิตวิทยาควบคู่ด้วยจะทำใหเกิดผลการรักษาที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงการให้กำลังใจผู้ป่วยก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

ทำไมฝังเข็มที่ใบหน้าข่วยชะลอวัยได้เนื่องจากใบหน้าเป็นศูนย์รวมจุดลมปราณที่เชื่อมกับอวัยวะภายในไว้มากที่สุดเมื่ออวัยวะภายในไม่แข็งแรงหรือ ทำงานไม่สัมพันธ์กันอย่างสมดุล สีหน้าความสดใสจะหายไป สภาพผิวจะถดถอยลงไปในลักษณะต่างๆ เช่น สีหน้าหมองคล้ำ ซีด มีสิว ฝ้า ผิวแห้งสามารถเกิดริ้วรอยได้ง่าย ซึ่งแสดงออกมาได้ และชัดเจนเมื่อปักเข็มลงไปบนจุดลมปราณบนใบหน้า ทำให้เลือดมาเลี้ยงใบหน้ามากขึ้น แก้มมีสีอมชมพูสดใสตามธรรมชาติ และ กระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าให้แข็งแรเหมือนได้ออกกำลังกายยกกระชับขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นให้อวัยวะภายในที่มีลมปราณเชื่อมกับใบหน้าให้แข็งแรงอีกด้วย นั่นคือ การฝังเข็มเพื่อความงามเป็นวิธีการดูแลสุขภาพ และ ความงามไปพร้อมกันซึ่งไม่เหมือนกันกัการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เลเซอร์ บท็อกซ์ ศัลยกรรม หรือ แม้แต่การทายาที่รักษาแต่เพียงผิวพรรณภายนอกอย่างไรก็ตาม ผลของการฝังเข็มจะทำให้ดูอ่อนเยาว์ได้มากและน้อยนั้นขึ้นอยู่กับสุขภาพ

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า     

การฝังเข็มจะทำให้ลมปราณ เลือดในเส้นลมปราณปอดและอวัยวะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไหลเวียนดีขึ้น ระบายความร้อนสะสม ให้ความชุ่มชื้นแก่ปอดและผิวหนัง ซึ่งเป็นอวัยวะที่เกี่ยวเนื่องกันในศาสตร์จีน ทำให้อาการภูมิแพ้ น้ำมูกไหล คัดจมูก ไซนัสอักเสบ ปวดบริเวณใบหน้า หรือผื่นแพ้ผิวหนัง ลมพิษ ก็จะดีขึ้น

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

หลักการรักษา คือเปิดทวารสมอง ทะลวงเส้นลมปราณ เพิ่มการไหลเวียน การฝังเข็มเป็นวิธีการรักษาอาการปวดศีรษะที่ได้ผลดีวิธีหนึ่ง และได้มีการศึกษาวิจัยการรักษาปวดศีรษะไมเกรนด้วยการฝังเข็ม พบว่าได้ผลดี 

ผลลัพธ์หลังทำ

- อาการปวดลดลง

- รู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด

- อาการเวียนศีรษะลดลง

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

ฝังเข็มจะช่วยเข้าไปกระตุ้นการไหลเวียนของรากผมและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวบนหนังศีรษะ เมื่อรากผมถูกกระตุ้น รากผมจะทำงานได้ดีขึ้น อาการผมร่วงจะค่อย ๆ หายไป

ผลลัพธ์หลังทำ 

- ผมงอกใหม่เร็วขึ้น 

- ผมร่วงน้อยลง 

- รากผมแข็งแรง

ขั้นตอนการรักษา 

1. ซักประวัติ

2. ตรวจร่างกาย

3. แมะชีพจร

4. ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า

การครอบแก้วเป็นการเอาแก้วที่เป็นศูนย์ยากาศดูดตามจุดฝังเข็มและเส้นลมปราณเพื่อให้การอุดตันของเส้นลมปราณหายไป ลมปราณหรือเลือดลมก็จะไหลดีขึ้นเป็นการรักษาอาการเจ็บปวด

การครอบแก้วเป็นการเอาแก้วที่เป็นศูนย์ยากาศดูดตามจุดฝังเข็มและเส้นลมปราณเพื่อให้การอุดตันของเส้นลมปราณหายไป ลมปราณหรือเลือดลมก็จะไหลดีขึ้นเป็นการรักษาอาการเจ็บปวด