เลเซอร์หลุมสิวมิราเคิล ดีพโกลด์ (1 ครั้ง)

About This Service

---

แนะนำ  E-MAX

(Unique Combination Radio Frequency and Optical energy)

E-MAX เป็นเครื่องมือที่ทำงานโดยอาศัยหลักการของ ELŌS™ Technology ซึ่งเป็นการรวมเอาพลังงาน 2 ชนิดเข้าด้วยกัน ได้แก่ พลังงานแสง และคลื่นวิทยุ RF ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ ELŌS™ Technology 

พลังงานแสงที่ใช้มี 3 ชนิดคือ IPL, Infrared และ Diode laser โดยแสงแต่ละชนิดจะทำงานร่วมกับคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency, RF) ที่มีความถี่ต่ำประมาณ 1 เม็กกาเฮิร์ส ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายและสามารถนำมาใช้ในการรักษาทางการแพทย์ได้ ซึ่งเป็นแบบ 2 ขั้ว (Bi-polar RF) โดยที่ขั้วของ RF ก็จะเป็นขั้วเย็น เพื่อปกป้องผิวด้านบนให้ปลอดภัย ได้ผลการรักษาที่ดีกว่าใช้พลังงานแสงหรือ RF เดี่ยวๆ 

1. Conduct RF 

2. IPL/ Infrared/ Diode laser 

3. Contact cooling 

ประกอบด้วย 3 Applicators 

1. SR Applicator เป็นการนำพลังงานแสง (IPL) กับคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency, RF) และ Contact Cooling มาทำงานร่วมกันเพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง มากกว่าการใช้ IPL หรือ RF เดี่ยวๆ ในการฟื้นฟูผิว (Rejuvenation)

ผลที่ได้

ฟื้นฟูผิวให้อ่อนเยาว์ (Rejuvenation)

ให้ประสิทธิภาพในการรักษาเทียบเท่า IPL ในการแก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ที่เกิดจากความผิดปกติ เช่น รอยแดง (Erythema), รอยแดงจากสิว (Rosacea) , มีเส้นเลือดฝอยผิดปกติ (Telangiectasia), สีผิวไม่เรียบ (Poikiloderma)

ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ 

ลบเลือนจุดด่างดำ เช่นมีเม็ดสีคล้ำ (Hyperpigmentation), สีผิวไม่สม่ำเสมอ (Dyschromia),  ผิวตกกระจากแสงแดด (Lentigines) นอกจากนี้ยังช่วยให้ฝ้าจางลงในกรณีที่เป็นฝ้าตื้น

กระชับรูขุมขน และเพิ่มความยืดหยุ่น ลดริ้วรอย (Fine Wrinkle)ได้ดีกว่าการใช้ IPL เดี่ยวๆถึง 2 เท่า

2. ST Applicator เป็นการใช้แสงอินฟราเรดที่มีความยาวคลื่น 700 – 2000 นาโนเมตร (nm) ร่วมกับคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency, RF) โดยอาศัยสองพลังงานเพื่อให้เกิดคอลลาเจนหดตัว ทำให้ผิวตึงกระชับ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่ว่าจะเป็นที่ใบหน้า ลำคอ และตัว สามารถทำการรักษาได้หมด โดยที่คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะถูกยิง จะรู้สึกอุ่นๆใต้ผิวเท่านั้น เป็นทางเลือกใหม่ของคนไข้ที่ต้องการยกกระชับหน้าโดยไม่เจ็บ เพียงครั้งแรกก็จะเห็นว่าผิวตึงขึ้น ร่องแก้ม ใต้ตาจะดีขึ้น และผลจะอยู่นานเมื่อมากระตุ้นอย่างต่อเนื่อง

ผลที่ได้

ยกกระชับใบหน้าและลำคอ (Skin Tightening) 

สามารถยกกระชับ ร่องแก้ม ถุงใต้ตา คอ หางตา หน้าผาก มือ หน้าท้องลาย

สามารถใช้ได้ดีในทุกสีสภาพผิวคนไข้ (all skin type)

3. Matrix IR Applicator ได้นำเอา Diode Laser ที่มีความยาวคลื่นที่ 915 นาโนเมตร (nm) และคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency, RF) มาทำงานร่วมกับ Fractional technology ทำให้ลำแสงของ Diode laser ออกมาเป็นจุดเล็กๆ เมื่อรวมกับพลังงาน RF จะทำให้เกิดความร้อน ณ จุดที่ต้องการซึ่งอยู่ลึกลงไปในผิวหนังชั้นล่างเรียกว่า Matrix Heat Bands พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดรอยแผลขนาดเล็กบริเวณผิวหนังชั้นล่าง มีผลกระตุ้นการสร้างคอลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวมีความตึงตัวมาก เรียบเนียนขึ้น โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อผิวด้านบน

ผลที่ได้

ลดริ้วรอยลึก (Deep Wrinkle)

- ริ้วรอยใต้ตา หางตา

- ร่องแก้มตื้นขึ้น

2.ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

- รอยแผลเป็น หลุมสิว 

- รูขุมขนกว้าง

- ผิวกระชับ ความยืดหยุนของผิวดีขึ้น

ข้อดีของของการผสานพลังงานเป็นหนึ่งเดียวในการทำงาน (ELŌS™ Technology)

ใช้เวลาในการรักษาน้อย  เพราะทำงานไปพร้อมกันทั้งพลังงานแสง (IPL/ IR/ Diode) ร่วมกับคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency, RF) 

ปลอดภัย  ลดอาการข้างเคียง (burn) ที่เกิดจาการทำ IPL หรือ RF อย่างเดี่ยวๆ

เหมาะสำหรับผิวคนเอเชีย 

ให้ผลการรักษาที่ดีกว่า  การใช้พลังงานเดี่ยวๆ

สะดวก  ในการรักษาทั้งหมอและคนไข้

ขณะรักษาจะได้ความรู้สึกเหมือนถูกดีดเบาๆที่ผิว เมื่อทำเสร็จอาจจะรู้สึกอุ่นๆที่ผิวเล็กน้อย ผิวอาจมีสีชมพู หรือแดงขึ้นนิดหน่อย ถ้าบริเวณที่มีกระหรือจุดด่างดำ สีจะเข้มขึ้น และจะกลายเป็นสะเก็ดบางๆในวันรุ่งขึ้น และลอกออกภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจุดด่างดำและกระจะจางลงหรือหายไป และไม่ก่อให้เกิดรอยแผลทิ้งไว้เหมือน laser รุ่นเก่าๆ หลังจากทำเสร็จสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ เมื่อทำหลายๆครั้ง จุดด่างดำ กระ และความผิดปกติของสีผิวจะจางลง หน้าดูใสและเนียนขึ้น

ในระยะแรก แนะนำให้ทำติดต่อกันประมาณ 5 ครั้ง ห่างกันทุก 2-4 สัปดาห์

คำแนะนำ

หลังการรักษาสามารถปฏิบัติตัวได้ตามปกติ สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ

หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด 2 อาทิตย์หลังทำ และควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่า 30

ห้ามแกะสะเก็ดที่เกิดขึ้นหลังการรักษา ต้องปล่อยให้หลุดเอง บริเวณหน้า ประมาณ 1 สัปดาห์ ลำตัวประมาณ 2 สัปดาห์

หากมีการเข้มขึ้นของเม็ดสีบนผิวหน้า 2-3 วันแล้วไม่จางลง ไม่ต้องตกใจ ให้มารับการรักษาตามปกติ แล้วเม็ดสีที่เข้มขึ้นจะค่อยๆจางลงหรืออาจหายไป