ทำไมเป็นสิวแล้วไม่ยอมหายสักทีนะ แถมสิวที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ยังเป็นสิวหัวช้างและยังเกิดที่เดิมซ้ำไปซ้ำมาไม่หายสักที หรือสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่จะเป็นสิวฮอร์โมนกันแน่!? สิวฮอร์โมนคืออะไร วิธีสังเกตสิวฮอร์โมนดูยังไงได้บ้าง และสิวฮอร์โมนรักษายังไง หาคำตอบได้ในบทความนี้เลยค่ะ
สิวฮอร์โมนคืออะไร
สาเหตุที่ทำให้ผิวของเราเกิดสิวคือการอุดตันบริเวณรูขุมขนของสิ่งสกปรก เซลล์ที่ตายแล้ว แบคทีเรียและน้ำมันส่วนเกิน สิวฮอร์โมนก็เกิดขึ้นจากสาเหตุเดียวกันนี้ แต่จะแตกต่างตรงที่มีฮอร์โมนมากระตุ้นให้เกิดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันที่รูขุมขนออกมามากขึ้นส่งผลให้เกิดสิวจากฮอร์โมนนั่นเอง
สิวฮอร์โมนที่เกิดขึ้นเกิดได้ทุกแบบทั้งสิวอุดตันหัวขาว สิวอุดตันหัวดำ แต่ชนิดของสิวที่มักจะเกิดขึ้นในกรณีของสิวฮอร์โมนคือสิวอักเสบและสิวหัวช้าง
ก่อนที่จะไปดูว่าสิวฮอร์โมนรักษายังไง อยากชวนให้ทุกคนมาทำความรู้จักกับสิวฮอร์โมนกันก่อน ที่เขาบอกกันว่าเนี่ยคือสิวฮอร์โมนนะ เคยสงสัยกันไหมคะว่ามันคือฮอร์โมนตัวไหน เพราะฮอร์โมนในร่างกายของคนเรามีตั้งมากมายร้อยแปดชนิด สิวฮอร์โมนคือฮอร์โมนอะไร ตามมาดูกันค่ะ
ฮอร์โมนภายในร่างกายที่มีผลต่อการเกิดสิวได้แก่
แอนโดรเจน (Androgens) หรือฮอร์โมนเพศชายแต่ก็สามารถพบได้ในเพศหญิงเช่นกันถูกผลิตมาจากรังไข่และต่อมหมวกไต ช่วยในการพัฒนาระบบสืบพันธุ์ ทำให้มีลักษณะความเป็นชาย หากฮอร์โมนตัวนี้ถูกผลิตออกมามากเกินไปจะทำให้กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน เกิดการอุดตันและเป็นสิวได้ง่ายขึ้น
เอสโตรเจน (Estrogen) ถูกผลิตออกมาจากรังไข่ มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ทำให้มีความเป็นหญิง กระตุ้นการทำงานของมดลูกทำให้มีประจำเดือนและเกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ เอสโตรเจนนั้นให้ผลในทางตรงกันข้ามกับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเทอโรน คือช่วยลดการผลิตไขมันที่รูขุมขน หากมีฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง เช่น ช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือในวัยหมดประจำเดือน ก็จะทำให้พบสิวเห่อขึ้นมาได้นั้นเอง
โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ฮอร์โมนที่มีส่วนสำคัญในช่วงตั้งครรภ์ของผู้หญิง ถ้าหากมีโปรเจสเตอโรนมากขึ้น เช่น ในช่วงของการเป็นเมนส์ จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาบริเวณผิวหนังมากขึ้น นอกจากนั้นฮอร์โมนตัวนี้ยังเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายแล้วทำให้เหงื่อออกมากขึ้นอีกด้วย ส่งผลให้การอุดตันบริเวณรูขุมขนเกิดได้ง่ายขึ้น
อินซูลิน (Insulin) ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ถูกผลิตออกมาจากตับอ่อน อินซูลินเกี่ยวข้องกับการเกิดสิวทางอ้อม โดยจะเพิ่มการติดเชื้อแบคทีเรียของสิวได้ง่ายขึ้นและขัดขวางกระบวนการหายของแผลทำให้สิวหายได้ช้าลง
วิธีสังเกตสิวฮอร์โมนดูยังไงบ้าง
จะสังเกตให้ชัวร์ได้อย่างไรว่าสิวที่เห็นอยู่นั้นเป็นสิวฮอร์โมนเพราะลักษณะสิวมีความเหมือนกับสิวที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุอื่นนั่นก็คือมีสิวอุดตันสิวอักเสบสิวหัวช้างเช่นเดียวกัน GoWabi ขอแนะนำทริคให้เพื่อน ๆ สามารถสังเกตสิวฮอร์โมนได้จากลักษณะต่าง ๆ ดังนี้เลยค่ะ
1.ช่วงอายุที่สิวฮอร์โมนเห่อ
สิวฮอร์โมนเป็นสิวที่มักจะเกิดขึ้นในขณะที่มีฮอร์โมนพลุ่งพล่านเปลี่ยนแปลงอย่างมากเช่นในช่วงของวัยรุ่นหรืออายุประมาณ 20 กว่า ๆ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายผู้หญิงมีความพร้อมในตั้งท้องและมีลูก ฮอร์โมนเพศในช่วงนี้จึงถูกหลั่งออกมาเยอะเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีสิวเห่อแค่ในช่วงอายุ 20 เพียงอย่างเดียว สิวฮอร์โมนเห่อสามารถพบได้ในช่วงวัยหมดประจำเดือนได้อีกด้วย
2.สิวฮอร์โมนมักจะเกิดบริเวณคางและแนวกราม
เป็นอีกสัญญาณที่สามารถสังเกตสิวฮอร์โมนได้อย่างชัดเจนก็คือมีสิวขึ้นคางและสิวขึ้นกราม ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิวจะกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันบริเวณรูขุมขนซึ่งรูขุมขนก็จะอยู่บริเวณคางและกรามเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบสิวฮอร์โมนในบริเวณนี้
3.เกิดสิวในช่วงเวลาเดียวกันซ้ำ ๆ ในทุกเดือน
สิวฮอร์โมนมักจะเกิดขึ้นเป็นแพทเทิร์นซ้ำไปซ้ำมา สาว ๆ สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะช่วงก่อนเป็นเมนส์หากมีสิวโผล่มาทุกเดือนในบริเวณเดิม อย่างนี้แหละมั่นใจได้เลยว่าเป็นสิวฮอร์โมนแน่นอน
4.ช่วงนี้เครียดมาก ๆ
เมื่อร่างกายเกิดความเครียดจะหลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งออกมา ฮอร์โมนตัวนั้นชื่อว่าคอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะส่งผลต่อฮอร์โมนตัวอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดสิว เมื่อเราเกิดความเครียดมาก ๆ จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สิวฮอร์โมนเห่อขึ้นมา
5.สิวส่วนใหญ่ที่เราเป็นคือสิวอักเสบและสิวหัวช้าง
หากสิวส่วนใหญ่ที่เราเป็นคือสิวอักเสบและสิวหัวช้างแล้วล่ะก็มีโอกาสมาก ๆ ที่สิวเหล่านั้นคือสิวฮอร์โมน สิวอักเสบและสิวหัวช้างจะมีแบคทีเรียเข้ามาอุดตันอยู่ในรูขุมขนด้วยทำให้สามารถพบหนองอยู่ภายในและเกิดการอักเสบของผิวหนังส่งผลทำให้เกิดความเจ็บปวด สิวหัวช้างจะอยู่ในชั้นผิวหนังที่ลึกลงไป สิวมีขนาดใหญ่ กดลงไปอาจเจ็บหรือไม่เจ็บก็ได้ ข้างในมักมีหนอง หากรักษาไม่ถูกวิธีแล้วล่ะก็มีโอกาสเกิดหลุมสิวได้ง่าย ๆ เลยแหละ
สิวฮอร์โมนรักษายังไง
1.หาหมอ
ใครที่กำลังเผชิญกับสิวฮอร์โมนอยู่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไปค่ะ การเป็นสิวฮอร์โมนไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นสิวซ้ำ ๆ แบบนี้ตลอดไป สิวฮอร์โมนสามารถดีขึ้นได้เมื่อร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา เช่น วัยรุ่นที่เปลี่ยนผ่านเข้าสู่วัยผู้ใหญ่การเกิดสิวเกิดจากฮอร์โมนก็จะลดน้อยลง
แต่อย่างไรก็ตามฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวมีมากมายหลายชนิดตามที่ได้กล่าวไปในหัวข้อสิวฮอร์โมนคืออะไร หากเราเป็นสิวเยอะมากจนควบคุมไม่ได้ ก่อให้เกิดความเจ็บปวด สร้างความลำบากในการใช้ชีวิต และมีอาการผิดปกติทั้งด้านร่างกายอื่น ๆ ร่วมด้วย การไปพบแพทย์เพื่อหาต้นตอของปัญหาเป็นทางเลือกที่อยากให้ลองพิจารณาเป็นอันดับแรกเลยค่ะ
2.ใช้ยารักษาสิวที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด
วิธีการนี้จะได้ผลในกรณีที่สิวฮอร์โมนที่เราเป็นบ่อย ๆ ไม่รุนแรงนัก แต่ถ้าหากสิวที่เราเผชิญอยู่เป็นสิวหัวช้างและสิวอักเสบรุนแรง การรักษาสิวโดยใช้ยารักษาสิวที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ ยารักษาสิวที่แนะนำมีดังนี้
เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) หรือเบนแซค มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว
กรดซาลิไซลิค (Salicylic acid) หรือกรดซาลิไซลิค ช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอก กำจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกเพื่อลดโอกาสการอุดตัน
กรดอนุพันธ์วิตามินเอ หรือเรตินอล ช่วยผลัดเซลล์ผิว และช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน และสามารถลดการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย แต่ก่อนซื้อมาใช้แนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรและแพทย์ผิวหนังก่อน เพราะยามีความเข้มข้นสูงและอาจระคายเคืองต่อผิวหนังได้
3.รักษาสิวฮอร์โมนแบบธรรมชาติ
การรักษาสิวฮอร์โมนแบบธรรมชาติเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีปัญหาสิวฮอร์โมนแบบไม่หนักมากเท่านั้น ต้องบอกตามตรงว่าประสิทธิภาพของการรักษาสิวฮอร์โมนแบบธรรมชาติยังไม่มีงานวิจัยรองรับมากเท่าไหร่นัก ก่อนเริ่มการรักษาแบบธรรมชาติควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่ดูแลเราก่อนทุกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เรานำมาใช้รักษาจะไม่รบกวนการทำงานของยาที่คุณหมอจ่าย
น้ำมันทีทรีออยล์ (Tree Tree Oil) เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและครีมที่ช่วยกำจัดสิวหลากหลายยี่ห้อ หากเราสามารถหาน้ำมันตัวนี้ได้ วิธีการใช้ต้องนำไปผสมน้ำมันชนิดอื่น ๆ เพื่อเจือจางน้ำมันทีทรีออยล์ก่อนในอัตราส่วน 1 ต่อ 12 หยด ยกตัวอย่างเช่น ใช้น้ำมันทีทรีออยล์ 1 หยดต่อน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอก 12 หยด
ชาเขียว ขึ้นชื่อในเรื่องของการช่วยลดอาการอักเสบภายในร่างกายเมื่อใช้ดื่ม แต่ถ้าหากนำมารักษาสิวสามารถน้ำชาเขียวไปแช่ในน้ำร้อนและนำสำลีสะอาดจุ่มลงไปในน้ำชาเขียวเพื่อนำมาเช็ดทำความสะอาดหน้าคล้าย ๆ กับการทาโทนเนอร์
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการทราบวิธีการรักษาสิวแบบธรรมชาติสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลย 9 วิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติ เร่งด่วนสุด ๆ พร้อมออกงานทุกอีเว้นท์
4.กินอาหารที่ดีช่วยลดการเกิดสิว
อาหารบางชนิดที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงและใยอาหารต่ำ เมื่อรับประทานเข้าไปจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าอินซูลินออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้เกี่ยวข้องกับการเกิดสิวโดยจะเพิ่มการติดเชื้อแบคทีเรียของสิวได้ง่ายขึ้นและขัดขวางกระบวนการหายของแผลทำให้สิวหายได้ช้าลง อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นสิวฮอร์โมนได้แก่ อาหารที่มีน้ำตาลสูง ขนม เค้ก ข้าวขาว ขนมปัง เป็นต้น อ่านต่อ กินอะไรสิวหาย? สิวหายแน่ แค่เริ่มใส่ใจอาหารการกิน
5.การรักษาทางเลือกอื่น ๆ
วิทยาการทางการแพทย์ก้าวไกลมาก ๆ การรักษาสิวไม่ได้ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว มีวิธีการมากมายที่ช่วยบรรเทาอาการสิวฮอร์โมนให้หายเร็วขึ้น ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดรอยดำรอยแดงจากสิว รวมไปถึงการรักษาสิวที่ต้นเหตุ เช่น ช่วยลดการผลิตน้ำมันของต่อมไขมัน ช่วยกำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ การรักษาทางเลือกที่โกวาบิแนะนำต้องนี่เลยยย Dual Yellow Laser / LED Light Therapy / IPL และทรีตเม้นต์รักษาสิวสูตรเฉพาะจากคลินิกชั้นนำ คลิกรูปนี้เพื่อไปหาดีลเด็ด ๆ กันเลยจ้าาาา
สิวฮอร์โมนรักษายังไง คนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดก็คือคุณหมอ เพราะสิวฮอร์โมนที่เราเป็นอาจมีสาเหตุมากกว่าการเป็นประจําเดือน จะเห็นได้ว่ามีฮอร์โมนมากมายหลายตัวที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งคุณหมอจะสามารถวิเคราะห์ถึงสาเหตุได้อย่างชัดเจนว่าฮอร์โมนตัวไหนกันแน่ที่ทำให้เราเกิดสิว เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังสงสัยว่าเราเป็นสิวฮอร์โมนหรือเปล่านะ หวังว่าบทความนี้จะช่วยคลายความสงสัยได้บ้างนะคะ โดยส่วนตัวแล้วมีปัญหาสิวฮอร์โมนเช่นเดียวกัน ทุก ๆ เดือนจะมีสิวขึ้นบริเวณแนวกรามสลับด้านซ้ายบ้างขวาบ้างตลอดทุกเดือน หากใครมีปัญหาคล้าย ๆ แบบนี้ นั่นแปลว่าเราอาจจะกำลังเผชิญกับปัญหาสิวฮอร์โมนอยู่ก็ได้ค่ะ
หากสาวๆสนใจบริการจาก คลินิกเสริมความงาม ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น บริการ ฉีดวิตามินผิว ฉีดโบท็อก ฉีดฟิลเลอร์ เลเซอร์หลุมสิว ไฮฟู่ รักษาสิว ฉีดเมโส เลเซอร์กำจัดขน เลือกดูโปรโมชั่นที่ GoWabi ได้เลยค่า!
อ้างอิง
https://www.self.com/story/hormonal-acne
https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/hormonal-acne
