มิตรไมตรี (สาขาคลอง 6)

ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ตั้งแต่ระดับความรุนแรงปานกลางจนถึงอันตรายต่อชีวิต เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อผ่านทางระบบทางเดินหายใจ ทั้งทางจมูก ลำคอ และปอด ดังนั้นเราต้องหาทางป้องกันโดยการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ 3-4 สายพันธุ์ ตามที่หน่วยงานด้านการเฝ้าระวังการระบาดของไข้หวัดใหญ่ระดับโลกแนะนำว่าเป็น “สายพันธุ์ที่จะมีการระบาดมากที่สุด” ในปีนั้นๆ
การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่อาจระบาดในฤดูกาลนั้นๆ ได้มากกว่า ทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนมีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยลง ส่วนใหญ่จะฉีดที่กล้ามเนื้อต้นแขน แต่ในทารกและเด็กเล็กจะฉีดที่กล้ามเนื้อต้นขา ส่วนการฉีดเข้าใต้ชั้นผิวหนังสามารถทำได้ในผู้ที่มีอายุ 18-64 ปี
สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 8 ขวบ ควรฉีด 2 เข็มในปีแรก โดยเว้นระยะห่างกันครั้งละ 1 เดือน

วัคซีน HPV หรือวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก คือ วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) อันเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากการติดเชื้อไวรัส HPV ทำให้เซลล์ปากมดลูกอักเสบเรื้อรังและเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งได้
ประสิทธิภาพของวัคซีนจะสูง หากฉีดในวัยที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
- ฉีดในวัยที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี จากงานวิจัยพบว่า ร่างกายของเด็กผู้หญิงสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสนี้ได้ดีในช่วง 9 - 15 ปี ซึ่งสามารถฉีดวัคซีนเพียง 2 ครั้ง แต่ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่าการฉีด 3 ครั้ง
- ผู้หญิงอายุ 9 - 26 ปี ควรฉีดวัคซีน HPV โดยเน้นให้ฉีดช่วงอายุ 11 - 12ปี
- เด็กผู้ชายอายุ 9 - 26 ปี สามารถฉีดวัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์เพื่อป้องกันโรคหูดหงอนไก่และมะเร็งทวารหนัก เน้นให้ฉีดช่วงอายุ 11 - 12 ปี

ไวรัส HPV ไม่เพียงแต่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ยังรวมไปถึงมะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด และหูดอวัยวะเพศด้วย ดังนั้นการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีน HPV ให้ครบถ้วนตั้งแต่อายุยังน้อยย่อมช่วยให้ปลอดภัยจากโรคได้เป็นอย่างดี

วัคซีน HPV หรือวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก คือ วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) อันเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากการติดเชื้อไวรัส HPV ทำให้เซลล์ปากมดลูกอักเสบเรื้อรังและเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งได้
ประสิทธิภาพของวัคซีนจะสูง หากฉีดในวัยที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
- ฉีดในวัยที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี จากงานวิจัยพบว่า ร่างกายของเด็กผู้หญิงสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสนี้ได้ดีในช่วง 9 - 15 ปี ซึ่งสามารถฉีดวัคซีนเพียง 2 ครั้ง แต่ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่าการฉีด 3 ครั้ง
- ผู้หญิงอายุ 9 - 26 ปี ควรฉีดวัคซีน HPV โดยเน้นให้ฉีดช่วงอายุ 11 - 12ปี
- เด็กผู้ชายอายุ 9 - 26 ปี สามารถฉีดวัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์เพื่อป้องกันโรคหูดหงอนไก่และมะเร็งทวารหนัก เน้นให้ฉีดช่วงอายุ 11 - 12 ปี

ไวรัส HPV ไม่เพียงแต่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ยังรวมไปถึงมะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด และหูดอวัยวะเพศด้วย ดังนั้นการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีน HPV ให้ครบถ้วนตั้งแต่อายุยังน้อยย่อมช่วยให้ปลอดภัยจากโรคได้เป็นอย่างดี

แพ็กเกจตรวจสุขภาพ: 15 รายการ สำหรับผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป

แพ็กเกจตรวจสุขภาพแบบครบวงจรสำหรับผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ประกอบด้วยการตรวจทั้งหมด 15 รายการ พร้อมค่าปรึกษาแพทย์, ค่าตรวจแปลผล และค่าบริการเจาะเลือดโดยพยาบาล:

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจปัสสาวะ (UA)
4. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (FBS)
5. ตรวจการทำงานของตับ (SGPT)
6. ตรวจการทำงานของตับ (SGOT)
7. ตรวจการทำงานของไต (ครีเอตินิน, Cr)
8. ตรวจการทำงานของไต (ไนโตรเจนยูเรียในเลือด, BUN)
9. ตรวจระดับไขมันในเลือด (โคเลสเตอรอลรวม)
10. ตรวจระดับไขมันในเลือด (ไตรกลีเซอไรด์)
11. ตรวจระดับไขมันในเลือด (ไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ, LDL)
12. ตรวจระดับไขมันในเลือด (ไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นสูง, HDL)
13. ตรวจระดับกรดยูริก
14. ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
15. ตรวจระดับแคลเซียม

แพ็กเกจตรวจสุขภาพ: 13 รายการ สำหรับผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
แพ็กเกจตรวจสุขภาพแบบครบวงจรสำหรับผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ประกอบด้วยการตรวจทั้งหมด 14 รายการ พร้อมค่าปรึกษาแพทย์, ค่าตรวจแปลผล และค่าบริการเจาะเลือดโดยพยาบาล:

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจปัสสาวะ (UA)
4. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (FBS)
5. ตรวจการทำงานของตับ (SGPT)
6. ตรวจการทำงานของตับ (SGOT)
7. ตรวจการทำงานของไต (ครีเอตินิน, Cr)
8. ตรวจการทำงานของไต (ไนโตรเจนยูเรียในเลือด, BUN)
9. ตรวจระดับไขมันในเลือด (โคเลสเตอรอลรวม)
10. ตรวจระดับไขมันในเลือด (ไตรกลีเซอไรด์)
11. ตรวจระดับไขมันในเลือด (ไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ, LDL)
12. ตรวจระดับไขมันในเลือด (ไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นสูง, HDL)
13. ตรวจระดับกรดยูริก
14. ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจปัสสาวะ (UA)
4. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร (FBS)
5. การตรวจเอนไซม์อะลานีนอะมิโนทรานสเฟอเรส (ALT หรือ SGPT)
6. การตรวจเอนไซม์แอสพาเทตอะมิโนทรานสเฟอเรส (AST หรือ SGOT)
7. ตรวจระดับครีเอตินิน (Cr)
8. ตรวจระดับไนโตรเจนยูเรียในเลือด (BUN)
9. ตรวจระดับคอเลสเตอรอลรวม (Chol)
10. ตรวจระดับไตรกลีเซอไรด์
11. ตรวจระดับไขมันชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL)
12. ตรวจระดับไขมันชนิดความหนาแน่นสูง (HDL)
13. ตรวจระดับกรดยูริก
14. ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
15. ตรวจระดับแคลเซียม
16. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA) - ตัวบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก

แนะนำให้งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนตรวจ

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจปัสสาวะ (UA)
4. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร (FBS)
5. การตรวจเอนไซม์อะลานีนอะมิโนทรานสเฟอเรส (ALT หรือ SGPT)
6. การตรวจเอนไซม์แอสพาเทตอะมิโนทรานสเฟอเรส (AST หรือ SGOT)
7. ตรวจระดับครีเอตินิน (Cr)
8. ตรวจระดับไนโตรเจนยูเรียในเลือด (BUN)
9. ตรวจระดับคอเลสเตอรอลรวม (Chol)
10. ตรวจระดับไตรกลีเซอไรด์
11. ตรวจระดับไขมันชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL)
12. ตรวจระดับไขมันชนิดความหนาแน่นสูง (HDL)
13. ตรวจระดับกรดยูริก
14. ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
15. ตรวจระดับแคลเซียม
16. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับ (AFP) - ตัวบ่งชี้มะเร็งตับ
17. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA) - ตัวบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก

แนะนำให้งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนตรวจ

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
2. ตรวจปัสสาวะ (UA)
3. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร (FBS)
4. การตรวจเอนไซม์อะลานีนอะมิโนทรานสเฟอเรส (ALT หรือ SGPT)
5. การตรวจเอนไซม์แอสพาเทตอะมิโนทรานสเฟอเรส (AST หรือ SGOT)
6. ตรวจระดับครีเอตินิน (Cr)
7. ตรวจระดับไนโตรเจนยูเรียในเลือด (BUN)
8. ตรวจระดับคอเลสเตอรอลรวม (Chol)
9. ตรวจระดับไตรกลีเซอไรด์
10. ตรวจระดับไขมันชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL)
11. ตรวจระดับไขมันชนิดความหนาแน่นสูง (HDL)
12. ตรวจระดับกรดยูริก
13. ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
14. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งรังไข่ (CA125) - การประเมินความเสี่ยงมะเร็งรังไข่
15. ตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) - การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

แนะนำให้งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนตรวจ

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจปัสสาวะ (UA)
4. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร (FBS)
5. การตรวจเอนไซม์อะลานีนอะมิโนทรานสเฟอเรส (ALT หรือ SGPT)
6. การตรวจเอนไซม์แอสพาเทตอะมิโนทรานสเฟอเรส (AST หรือ SGOT)
7. ตรวจระดับครีเอตินิน (Cr)
8. ตรวจระดับไนโตรเจนยูเรียในเลือด (BUN)
9. ตรวจระดับคอเลสเตอรอลรวม (Chol)
10. ตรวจระดับไตรกลีเซอไรด์
11. ตรวจระดับไขมันชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL)
12. ตรวจระดับไขมันชนิดความหนาแน่นสูง (HDL)
13. ตรวจระดับกรดยูริก
14. ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
15. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับ (AFP) - ตัวบ่งชี้มะเร็งตับ
16. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งรังไข่ (CA125) - การประเมินความเสี่ยงมะเร็งรังไข่
17. ตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) - การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
18. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งทางเดินอาหาร (CEA) - ตัวบ่งชี้มะเร็งระบบทางเดินอาหาร

แนะนำให้งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนตรวจ

แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนสมรสสำหรับผู้ชาย

แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนสมรสสำหรับผู้ชายประกอบด้วยการตรวจดังต่อไปนี้ รวมถึงค่าธรรมเนียมแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล:

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
4. ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี (HbsAb)
5. ตรวจคัดกรองเชื้อเอชไอวี (HIV)
6. ตรวจคัดกรองซิฟิลิส (VDRL)
7. ตรวจหมู่เลือดระบบ ABO
8. ตรวจหมู่เลือดระบบ Rh
9. ตรวจประเภทฮีโมโกลบิน (Hemoglobin Typing) - ตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรม

แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนสมรสสำหรับผู้หญิง

แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนสมรสสำหรับผู้หญิงประกอบด้วยการตรวจดังต่อไปนี้ รวมถึงค่าธรรมเนียมแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล:

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
4. ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี (HbsAb)
5. ตรวจคัดกรองเชื้อเอชไอวี (HIV)
6. ตรวจคัดกรองซิฟิลิส (VDRL)
7. ตรวจหมู่เลือดระบบ ABO
8. ตรวจหมู่เลือดระบบ Rh
9. ตรวจประเภทฮีโมโกลบิน (Hemoglobin Typing) - ตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรม
10. ตรวจหาภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน (Rubella Antibody IgG)

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

- งดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงก่อนรับบริการ (สามารถดื่มน้ำเปล่าได้)
- หลีกเลี่ยงการตรวจภายในภายใน 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
- งดใช้ยาเหน็บช่องคลอดภายใน 48 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
- งดการสวนล้างช่องคลอดภายใน 48 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
- งดมีเพศสัมพันธ์ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนรับบริการ

โปรแกรมตรวจสารก่อภูมิแพ้ 107 รายการ

โปรแกรมตรวจสารก่อภูมิแพ้นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจประเมินความไวของร่างกายต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดต่างๆ อย่างครอบคลุม โดยประกอบด้วยการทดสอบสารก่อภูมิแพ้ทั้งหมด 107 รายการ ช่วยให้คุณเข้าใจถึงปัจจัยกระตุ้นที่อาจส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของคุณ

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้โดยไม่ทราบสาเหตุ มีอาการภูมิแพ้เรื้อรัง หรือผู้ที่ต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับความไวของร่างกายต่อสารก่อภูมิแพ้ เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพและป้องกันอาการแพ้ได้อย่างเหมาะสม

โปรแกรมตรวจสุขภาพตับ 11 รายการ

รายการตรวจ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจปัสสาวะ (UA)
4. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (FBS)
5. ตรวจการทำงานของตับ (SGPT)
6. ตรวจการทำงานของตับ (SGOT)
7. ตรวจการทำงานของไต (Creatinine, Cr)
8. ตรวจระดับไขมันในเลือด (Cholesterol)
9. ตรวจระดับกรดยูริก (Uric Acid)
10. ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
11. ตรวจภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี (HBsAb)

*กรุณางดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจ

โปรแกรมตรวจสุขภาพความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์

รายการตรวจ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
3. ตรวจภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี (HBsAb)
4. ตรวจหาเชื้อเอชไอวี (HIV)
5. ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส (VDRL)
6. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (Anti-HCV)

โปรแกรมตรวจคัดกรองมะเร็งสำหรับบุรุษ

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับ (AFP)
3. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA)
4. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งทางเดินอาหาร (CEA)
5. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับอ่อน (CA19-9)

หมายเหตุ

- หากแพทย์แนะนำให้ใช้ยา อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับค่ายา การตรวจ และค่าบริการ (เจ้าหน้าที่คลินิกจะแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

โปรแกรมตรวจคัดกรองมะเร็งสำหรับสตรี

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับ (AFP)
3. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งรังไข่ (CA125)
4. ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap Smear)
5. ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งทางเดินอาหาร (CEA)

หมายเหตุ

- หากแพทย์แนะนำให้ใช้ยา อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับค่ายา การตรวจ และค่าบริการ (เจ้าหน้าที่คลินิกจะแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

โปรแกรมตรวจเฉพาะทางไขมันในเลือด/หัวใจ

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจปัสสาวะ (UA)
4. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร (FBS)
5. ตรวจการทำงานของตับ (SGPT)
6. ตรวจการทำงานของไต (Creatinine, Cr)
7. ตรวจระดับคอเลสเตอรอล (Cholesterol)
8. ตรวจระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride)
9. ตรวจระดับไขมันชนิดไม่ดี (LDL)
10. ตรวจระดับไขมันชนิดดี (HDL)
11. ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)

*กรุณางดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจ

โปรแกรมตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจปัสสาวะ (UA)
4. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร (FBS)
5. ตรวจการทำงานของตับ (SGPT)
6. ตรวจการทำงานของตับ (SGOT)
7. ตรวจการทำงานของไต (Creatinine, Cr)
8. ตรวจระดับคอเลสเตอรอล (Cholesterol)
9. ตรวจระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride)
10. ตรวจระดับกรดยูริก (Uric Acid)
11. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
12. ตรวจภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี (HbsAb)

*กรุณางดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจ

โปรแกรมตรวจคัดกรองไทรอยด์เฉพาะทาง

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
3. ตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ TSH
4. ตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ Free T3
5. ตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ Free T4

โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน (สำหรับผู้ชาย)

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
4. ตรวจสารเสพติด (แอมเฟตามีน)
5. ตรวจคัดกรองเชื้อเอชไอวี (HIV)

หมายเหตุ

- ค่าบริการข้างต้นไม่รวมค่ารับรองแพทย์

โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน (สำหรับผู้หญิง)

รายการตรวจสุขภาพ

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
4. ตรวจสารเสพติด (แอมเฟตามีน)
5. ตรวจคัดกรองเชื้อเอชไอวี (HIV)
6. ตรวจการตั้งครรภ์ (UPT)

หมายเหตุ

- ค่าบริการข้างต้นไม่รวมค่ารับรองแพทย์