หน้าเด็กลงด้วย Sculptra ดีไหม เหมาะกับใคร คุ้มค่าหรือเปล่า

สาว ๆ ในวงการความสวยความงาม ช่วงนี้คงได้ยินคนพูดถึงสิ่งนี้กันอยู่บ่อย ๆ Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เขาว่ากันว่าฉีดแล้วช่วยให้หน้าเด็ก อยู่ได้ถึง 2 ปี เลยนะ โม้หรือเปล่าคะ Sculptra คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง Sculptra ราคาแพงไหม น่าฉีดหรือเปล่า อ่านบทความนี้จบแล้ว ช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจง่ายขึ้นแน่นอน ตามไปดูกันเลย

Sculptra คืออะไร

Sculptra เป็นสาร Poly-L-lactic acid (PLLA) ที่ใช้เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในผิวหนัง เมื่อถูกฉีดเข้าไปในผิวหนัง จะกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนขึ้น ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและมีความกระชับมากขึ้น ดูเด็กลง เห็นผลยาวนานถึง 2 ปี และรับรองความปลอดภัยโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) และได้รับ อย. ไทยเรียบร้อยแล้ว (เลขที่อนุญาต 66-2-1-2-0005477) จึงมั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์ได้เลยค่ะว่าปลอดภัยแน่นอน

Sculptra ฉีดไปแล้วทำให้หน้าอ่อนเยาว์ขึ้นได้อย่างไร

เพื่อนทราบไหมคะว่า หลังจากอายุ 25 ปี คอลลาเจนในร่างกายจะมีปริมาณลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหน้าและร่างกาย ช่วยทำให้ผิวหน้าดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ ไม่มีริ้วรอย และเมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งเราอายุ 40 ปีเนี่ยเราก็จะสูญเสียคอลลาเจนในร่างกายไปแล้วกว่า 20% เลยทีเดียว

Sculptra หรือ สาร poly-L-lactic acid (PLLA-SCA) เมื่อถูกฉีดเข้าไปจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนผ่านระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ทำให้มีการผลิตคอลลาเจนได้มากถึง 66.5% เลยทีเดียว

จุดเด่นของ Sculptra

1. สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตัวแรกของโลกที่ได้รับการรับรองจาก FDA
2. ปลอดภัย ไม่ตกค้างในร่างกาย ถูกใช้มากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
3. มีงานวิจัยระดับโลกรองรับกว่า 50 งานวิจัย
4. พิสูจน์แล้วว่ากระตุ้น Collagen Type 1 ได้มากถึง 66.5%
5. ถูกใช้งานในคลินิกมากกว่า 20 ปี
6. ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี

Sculptra เหมาะกับใครบ้าง

1. ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและจุดหย่อนคล้อย เพื่อให้ผิวหน้าฟู กระชับขึ้น
2. ผู้ที่ต้องการเก็บรายละเอียดในจุดที่ Botox และ Filler ไม่สามารถจัดการได้
3. ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ผิวอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
4. ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวชั้นลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว

Sculptra ฉีดจุดไหนบ้าง

Sculptra สามารถฉีดได้หลายบริเวณบนใบหน้าเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น

1. หน้าแก้ม
2. ร่องแก้ม
3. กรอบหน้า
4. คาง
5. ร่องน้ำตา ร่องน้ำหมาก
6. ขมับ

Sculptra ต่างกับ Filler ยังไง

สองตัวนี้มีความแตกกันตรงที่ สารออกฤทธิ์ ซึ่งตัว Sculptra คือ poly-L-lactic acid (PLLA-SCA) และ Filler คือ hyaluronic acid ทั้งสองตัวนี้เมื่อถูกฉีดเข้าไปในผิวหน้าแล้วทำหน้าที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไป ฟิลเลอร์จะช่วยทำให้หน้าฟู กระชับ เติมเต็ม ลดเลือนริ้วรอยจาง ๆ ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ลง ผลลัพธ์อาจอยู่ได้นาน 6 เดือน – 2 ปี ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและยี่ห้อที่ฉีด สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งทั่วใบหน้า เช่น ฟิลเลอร์แก้ม ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ใต้ตา

ส่วน Sculptra นอกจากจะช่วยทำให้หน้าฟู กระชับ เติมเต็ม ลดเลือนริ้วรอยได้เช่นเดียวกันกับฟิลเลอร์ Sculptra ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นมาใหม่อีกด้วย ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คือหน้าของเรามีดูอ่อนเยาว์อย่างยั่งยืน ผลลัพธ์ที่ได้อยู่ยาวนานถึง 2 ปี

ข้อแตกต่างในด้านอื่น ๆ ของ Sculptra และ Filler แสดงให้เห็นตามตารางนี้เลยค่ะ

ต้องฉีด Sculptra ทั้งหมดกี่ครั้ง

ครั้งแรกที่เริ่ม Sculptra แนะนำว่าให้ฉีดทั้งหมด 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1 เดือน จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ประมาณ 2 สัปดาห์ จะเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงโดยหน้าดูกระชับ หน้าฟู ริ้วรอยจางลงชัดเจนที่ 3 เดือน หลังจากฉีดครบคอร์สแรก ผลลัพธ์จะอยู่ยาวนานได้ถึง 2 ปี

Sculptra ของแท้หน้าตาเป็นยังไง

Sculptra ราคาเท่าไหร่

คลินิกส่วนใหญ่จะขาย Sculptra เป็นขวดและไปฉีดแต่ละครั้งก็ฉีดทั้งขวดเลย (10 ml) โดยราคาเริ่มต้นของ Sculptra มีราคาแตกต่างกันไปตามช่วงโปรโมชั่นของคลินิก ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 17,999 – 25,900 บาท ใครที่สนใจ Sculptra อยู่ พี่สาวขอชี้เป้าไปเลือกช้อปได้ตามสะดวกที่ลิงก์นี้เลยยย

เป็นยังไงกันบ้างคะ ตัดสินใจได้ไหมว่า Sculptra นั้นจะเหมาะกับเราหรือเปล่า? ในเรื่องราคาต้องยอมรับจริง ๆ ว่าค่อนข้างแรง แต่ถ้าเทียบกับความสามารถในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและการได้รับรองความปลอดภัยจาก US FDA แล้ว ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย ใครที่มีงบไม่อั้น อยากให้รางวัลตัวเอง Sculptra เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่อยากให้ทุกคนนำไปพิจารณากันด้วยนะคะ

อ้างอิง

SCULPTRA, Sculptra science, https://www.sculptrausa.com/sculptra-science