บทความนี้มีหัวข้ออะไรบ้าง

21/12/2023

หายปวดคอ บ่า ไหล่! ออฟฟิศซินโดรม101 สาเหตุ อาการ วิธีรักษา

แชร์บทความนี้

ปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ ไม่หายสักที ไปนวดก็แล้วออกกำลังกายก็แล้วแต่ชีวิตทำงานมันบังคับให้เราต้องนั่งอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็นั่งอยู่ท่าเดิมไปหลายชั่วโมงแล้ว ไม่แปลกเลยที่จะทำให้เราเริ่มมีอาการของออฟฟิศซินโดรม และหลาย ๆ คนก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมได้เพราะถ้าเลิกทำงานเราจะเอาอะไรกินล่ะ วันนี้พี่สาวจึงอยากชวนเพื่อน ๆ ทำความรู้จักกับออฟฟิศซินโดรมคืออะไร และเราจะมีวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้นเพื่อทำให้อาการของออฟฟิศซินโดรมนั้นแวะเวียนมาหาเราน้อยครั้งที่สุด และเจ็บน้อยที่สุดได้อย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ

ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร

“ออฟฟิศซินโดรม” หรือ “Office Syndrome” เป็นคำที่ใช้เพื่ออธิบายกลุ่มของอาการที่เกิดขึ้นบ่อยในผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ต้องทำงานโดยอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ ตลอดเวลา อาการนี้ส่วนใหญ่มีการเกี่ยวข้องกับท่าทางการนั่งที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดการเมื่อยกล้ามเนื้อในบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ ข้อมือ หรือนิ้วมือ รวมทั้งอาการปวดศีรษะ

สาเหตุที่ทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรม

ท่านั่งไม่ถูกต้อง การนั่งที่ไม่ถูกต้องสามารถทำให้เกิดการเมื่อยกล้ามเนื้อในบริเวณคอ ไหล่ และหลัง เนื่องจากกล้ามเนื้อมัดเดิม ๆ ถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการพัก

การใช้คอมพิวเตอร์ การทำงานที่ใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ โดยไม่มีการเปลี่ยนท่านั่งหรือลุกขึ้นเดินเลย รวมทั้งตำแหน่งของคีย์บอร์ดและเมาส์ที่ไม่เหมาะสมสามารถทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรมได้

การใช้อุปกรณ์มือถือ การใช้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์มือถือติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เป็นอีกสาเหตุทำให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรม

ขาดการออกกำลังกาย การขาดการออกกำลังกายทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและไม่แข็งแรง เมื่อกล้ามเนื้อไม่แข็งแรงประกอบกับการถูกใช้งานอย่างหนักจากท่านั่งที่ไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดที่กล้ามเนื้อนั้น ๆ ตามมา

สภาพแวดล้อมทำงาน สภาพแวดล้อมของการทำงานที่ไม่ได้รับการปรับตามหลักกายศาสตร์ (ergonomics) ที่เหมาะสมสามารถทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรม เช่น เก้าอี้หรือโต๊ะทำงานที่มีความสูงไม่เหมาะสมทำให้เวลาเรามองจอคอมพิวเตอร์ต้องก้มหัวลงมา ส่งผลทำให้เราปวดกล้ามเนื้อคอ

อาการของคนที่เป็นออฟฟิศซินโดรม

สัญญาณเตือนของโรคออฟฟิศซินโดรม
  • อาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะบริเวณหลัง คอ บ่า ไหล่ ลักษณะของอาการเจ็บเป็นได้ทั้งเจ็บแบบเต้นตุบ ๆ ตึงแน่น ติดขัด
  • คลำพบ Trigger Point หรือก้อนนูนในกล้ามเนื้อ เมื่อจับบริเวณก้อนนี้จะรู้สึกเจ็บ
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรงในบริเวณที่มีปัญหา 
  • มีอาการปวดหัว ตาพร่ามัว 
  • ความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหายสักที 
  • นอนหลับไม่สนิทหรือมีปัญหาในการนอนหลับ
  • มีความเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้า
  • มีอาการเหนื่อยตลอดเวลา 

ตามไปอ่านอาการและพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เป็นออฟฟิศซินโดรมได้ในบทความนี้เลย รู้เท่าทัน 8 สัญญาณอาการออฟฟิศซินโดรม

การรักษาออฟฟิศซินโดรม

การรักษาออฟฟิศซินโดรมต้องอาศัยการดูแลจัดการอย่างรอบด้าน ทั้งการเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรมและการดูแลจากหมอและนักกายภาพบำบัด แต่อย่างไรก็ตามเพื่อน ๆ สามารถเริ่มดูแลรักษาตัวเองให้ห่างไกลจากออฟฟิศซินโดรมได้ด้วยวิธีการดังนี้

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการปรับท่านั่งและเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน

  • ปรับท่านั่งในที่ทำงานให้ถูกต้อง โดยเลือกใช้เก้าอี้ที่รองรับร่างกายของเราได้อย่างเหมาะสม
  • ทำการยืนหรือเปลี่ยนท่านั่งอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดการกดทับบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ควรนั่งติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ควรพักเบรกเดินไปดื่มน้ำ เดินไปผ่อนคลายระหว่างการทำงานบ้าง
ท่านั่งทำงานที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงออฟฟิศซินโดรม
ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง ทำให้เกิดความสบาย ห่างไกลจากโรคออฟฟิศซินโดรม

การเลือกอุปกรณ์การทำงานที่ถูกต้องตามหลักกายศาสตร์ (ergonomics)

  • ใช้อุปกรณ์ที่รองรับสรีระของร่างกายของเรา เช่น คีย์บอร์ดและเมาส์ที่มีดีไซน์ที่ดี โต๊ะทำงานแบบปรับระดับได้เพื่อทำให้เราเปลี่ยนจากการนั่งทำงานเป็นการยืน
  • เปลี่ยนจากการใช้การพิมพ์บนคีย์บอร์ดเป็นการพูดใส่ไมค์ ซึ่งหลาย ๆ โปรแกรมสามารถทำแบบนี้ได้แล้ว เช่น Google Doc มีฟังก์ชั่น Voice Typing

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการออกกำลังกาย

ทำการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดความตึงเครียด เช่น การยืดตัว การเล่นกีฬา หรือการออกกำลังกายทั่วไป ท่าออกกำลังกายที่แนะนำให้ทำระหว่างการทำงานเพื่อช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ทำตามได้ง่าย ๆ ตามนี้เลย

ท่ายืดกล้ามเนื้อ
ท่ายืดกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลาย ควรทำเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง

ท่ายืดคอ หันศีรษะไปทางด้านซ้ายและขวาอย่างเบา ๆ และคงไว้เป็นเวลา 15-30 วินาที ทำทั้งสองข้าง

ท่ายืดไหล่และหลังด้วยท่านกอินทรีย์ ยืดแขนขึ้นทางด้านหน้าแล้วนำข้อศอกขวามาทับข้อศอกซ้ายจะรู้สึกตึงบริเวณหัวไหล่และหลัง จากนั้นทำสลับกันไปโดยนำข้อศอกซ้ายมาทับข้อศอกขวา ค้างไว้ 15-30 วินาที

ท่ายืดกล้ามเนื้อแขนและข้อมือ ยืนขึ้น ชูแขนทั้งสองข้างขึ้นด้านบนและประสานมือกัน 

ท่ายืดขาและสะโพก ยืนตรง ก้มตัวลงเพื่อให้มือแตะที่ปลายเท้าจะรู้สึกตึง ๆ บริเวณก้นและกล้ามเนื้อขาด้านหลัง

ท่ายืดนิ้วมือ ยกแขนขึ้น ค่อย ๆ กางนิ้วมื้อทั้งสองออก ค่อย ๆ งอมือที่ข้อของแต่ละนิ้ว

การออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบไหนก็ตาม ดีต่อร่างกายของเราทั้งนั้นควรแบ่งเวลาประจำวันของเราออกไปเดินเบา ๆ การทำโยคะ ยกเวท ว่ายน้ำ ปั่นจักรยานบ้าง การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์โดยการนำการออกกำลังกายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันช่วยป้องการการเกิดออฟฟิศซินโดรมได้อย่างยั่งยืน

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการทำกายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาออฟฟิศซินโดรม นักกายภาพบำบัดสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการนั่งที่ถูกต้อง การปรับเปลี่ยนท่านั่งเป็นประจำ และการออกกำลังกายที่เหมาะสม นอกจากนี้นักกายภาพบำบัดยังสามารถให้เคล็ดลับเกี่ยวกับการใช้เทคนิคการหายใจและการผ่อนคลายเพื่อลดความเครียดได้อีกด้วย

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการนวด

การนวดสามารถเป็นอีกหนึ่งที่ช่วยลดความเครียดและความตึงเครียดในกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถช่วยในการบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมได้ การนวดมักจะมุ่งเน้นไปที่พื้นที่ที่มีความตึงหรือบริเวณกล้ามเนื้อที่มีปัญหา นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการฝังเข็ม

ฝังเข็มรักษาออฟฟิศซินโดรม

การรักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการฝังเข็ม (acupuncture) เป็นวิธีการทางการแพทย์ที่มีต้นกำเนิดจากแผนจีนและได้รับการยอมรับในทางการแพทย์ทั่วโลก การศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าการฝังเข็มสามารถกระตุ้นการปลดปล่อยสารสารเคมีที่มีผลต่อการลดความรู้สึกเจ็บปวดและกระตุ้นการไหลเวียนของพลังงานในร่างกาย

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการนวดจัดกระดูก

การนวดจัดกระดูกสามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาออฟฟิศซินโดรมได้ แต่ควรทำโดยนักจัดกระดูกที่มีความชำนาญในการให้บริการนวดแบบนี้ การนวดจัดกระดูกมุ่งเน้นการปรับตำแหน่งของกระดูกและกล้ามเนื้อเพื่อลดความตึงเครียดและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและของน้ำหล่อเลี้ยงในพื้นที่ที่ทำการรักษา

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า

กระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้ารักษาออฟฟิศซินโดรม

การกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า Peripheral Magnetic Stimulation (PMS) ใช้รักษาได้ทั้งอาการปวดเฉียบพลันและปวดเรื้อรังของกล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น และระบบประสาท สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการรักษา อย่างไรก็ตามควรได้รับการรักษาในแนวทางอื่นร่วมด้วยเช่น การทำกายภาพบำบัด และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรม

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยช็อคเวฟ

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยช็อคเวฟ

Shockwave Therapy เป็นทางเลือกในการรักษาออฟฟิศซินโดรมโดยใช้คลื่นกระแทกที่มีความเร็วสูงเพื่อกระตุ้นการบำบัดและฟื้นฟู  คลื่นกระแทกจะทำปฏิกิริยากับกล้ามเนื้อ เพื่อให้เกิดการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ ระงับความเจ็บปวดและฟื้นฟูการเคลื่อนไหว คลื่นกระแทกช็อคเวฟเหมาะสำหรับการนำมาใช้ในการรักษาอาการเรื้อรัง กึ่งเฉียบพลัน และเฉียบพลัน การกระตุ้นนี้เน้นไปที่บริเวณที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อและลดอาการตึงในกล้ามเนื้อบริเวณนั้น

รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการเผายา

การเผายาเป็นการรักษาออฟฟิศซินโดรมทางเลือกด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ โดยมีหลักการว่าบริเวณที่มีอาการปวดมีสาเหตุอันเนื่องมาจากมีการคั่งของธาตุลมอยู่ ซึ่งการเผายาจะเป็นการเพิ่มธาตุไฟเพื่อให้ลมที่คั่งอยู่เกิดการกระจายตัวอย่างสมดุล อ่านรีวิว Inter Wellness Clinic รีวิวเผายา ทางเลือกรักษาออฟฟิศซินโดรม

ไหนใครอ่านออฟฟิศซินโดรมบทความนี้แล้วรู้ตัวทันทีว่าอาการที่เราเป็นอยู่นั้นเข้าข่ายโรค office syndrome แล้วบ้าง ใครที่รู้ตัวว่าตัวเองมีปัญหาถือเป็นการเริ่มต้นก้าวแรกที่ดีค่ะ ลองค้นหาต่อไปอีกนิดนึงนะคะว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เรามีปัญหาปวดกล้ามเนื้อ ลองหาทางรักษาทางเลือกและปรับพฤติกรรมดูค่ะ หากอาการที่เป็นอยู่รบกวนการใช้ชีวิตมาก ๆ แนะนำว่าลองไปตรวจกับคุณหมอก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่อยากให้พิจารณานะคะ

หากใครสนใจบริการจาก คลินิกแพทย์ทางเลือก ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น บริการ รักษาออฟฟิซซินโดรม กัวซาหน้า แพทย์แผนไทย ฝังเข็ม ครอบแก้ว กายภาพบำบัด แก้ไมเกรน เลือกดูโปรโมชั่นที่ GoWabi ได้เลยค่า!

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ผมสวยไม่โป๊ะ! 7 สีผมน้ำตาลหม่นปิดหงอกสวย ๆ ที่ต้องลอง

ผมสวยไม่โป๊ะ! 7 สีผมน้ำตาลหม่นปิดหงอกสวย ๆ ที่ต้องลอง

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาทางออกเรื่องผมหงอก แต่ยังอยากให้ลุคโดยรวมดูละมุน ดูแพง และดูไม่โป๊ะ สีโทนน้ำตาลหม่นคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์สุด ๆ ในปีนี้ เพราะไม่เพียงแต่จะปิดผมหงอกได้เนียนกริบ แต่ยังช่วยให้ใบหน้าดูซอฟต์ สุภาพ และทันสมัย โดยเฉพาะเฉด “น้ำตาลหม่นสีผมปิดหงอกสวย ๆ” ที่กำลังมาแรงทั้งในหมู่สาวทำงาน และสายบิวตี้ที่อยากดูดีแบบเป็นธรรมชาติ วันนี้พี่สาวรวมมาให้ 7 เฉดที่ต้องลอง พร้อมแนะนำแบรนด์สีย้อมผมเด็ด ๆ ให้ไปตำตามกันได้เลย

7 เฉดผมสีม่วงที่ต้องลอง! ทำแล้วรอด สวยสะกดทุกสายตา

7 เฉดผมสีม่วงที่ต้องลอง! ทำแล้วรอด สวยสะกดทุกสายตา

ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาลุคใหม่ที่ทั้งปังและยูนีคแบบไม่ซ้ำใคร “ผมสีม่วง” คือหนึ่งในตัวเลือกที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด! เพราะสีม่วงเป็นสีที่มีความหลากหลายมาก จะไปในทางสายหวานก็ได้ หรือจะเป็นลุคเท่ ๆ มีพลังน่าค้นหาก็ได้เช่นกัน แถมยังเหมาะกับโทนผิวของสาวไทยหลากหลายเฉด ไม่ว่าจะผิวขาวอมชมพู ผิวขาวเหลือง หรือผิวสองสี ก็สามารถปรับเฉดม่วงให้เข้ากันได้แบบสวยสะกดทุกสายตา วันนี้พี่สาวเลยรวบรวม 7 เฉดผมสีม่วงที่น่าลองสุด ๆ พร้อมแนะนำแบรนด์สีย้อมที่น่าใช้ให้ด้วยเลย!

ปิดหงอกเนียน ๆ ! รวม 10 สีผมปิดหงอกที่ต้องลอง

ปิดหงอกเนียน ๆ ! รวม 10 สีผมปิดหงอกที่ต้องลอง

ผมหงอกไม่ใช่ปัญหาเฉพาะของผู้สูงวัยอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันผู้หญิงวัยทำงานหลายคนเริ่มเจอผมหงอกก่อนวัยกันมากขึ้น ทั้งจากความเครียด มลภาวะ หรือกรรมพันธุ์ ซึ่งก็ทำให้หลายคนรู้สึกขาดความมั่นใจ จะปล่อยให้ผมหงอกแซมแบบไม่สนใจก็กลัวจะดูโทรม จะย้อมสีเข้มจัด ๆ ก็กลัวจะดูไม่เป็นธรรมชาติ วันนี้พี่สาวเลยรวมมาให้เพื่อน ๆ กับ 10 “สีผมปิดหงอก” ที่ไม่ใช่แค่ช่วยปกปิดผมหงอกได้ดี แต่ยังช่วยให้ลุคของเราดูซอฟต์ สุภาพ และกลมกลืนกับผิวคนเอเชียอีกด้วย

Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.