บทความนี้มีหัวข้ออะไรบ้าง

06/02/2023

ฟันกรามแตกจะรู้ได้ยังไง แตกแบบไหนอันตราย และวิธีป้องกัน

แชร์บทความนี้

ฟันกรามแตกเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการเคี้ยวอาหารที่มีความแข็งมาก การนอนกัดฟันตอนกลางคืน หรือไม่ว่าจะเป็นการเสื่อมของฟันตามอายุที่มากขึ้น ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดปัญหาฟันกรามแตกได้ทั้งนั้น เราจะสามารถสังเกตฟันกรามแตกได้อย่างไรบ้าง ฟันกรามแตกทำให้มีอาการอะไร แล้ววิธีการดูแลป้องกันไม่ให้เกิดฟันกรามแตกทำได้อย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ

ฟันกรามแตกมีสาเหตุมาจากอะไร

  • แรงกดจากการเคี้ยวอาหาร
  • รอยอุดฟันที่มีขนาดใหญ่มาก อาจเกิดการแตกหักบริเวณรอยอุดฟันได้ง่าย
  • การเคี้ยวและการกัดอาหารที่มีความแข็ง เช่น น้ำแข็ง ถั่ว ลูกอม 
  • เกิดแรงกระแทกที่ฟัน เช่น รถชน เล่นกีฬาแล้วโดนกระแทก ตกจากที่สูง โดนชก
  • เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในช่องปากอย่างรวดเร็ว เช่น รับประทานอาหารที่ร้อนมาก ๆ แล้วพยายามจะเปลี่ยนไปทานอาหารที่เย็นมาก ๆ
  • อายุที่มากขึ้น ส่งผลให้เกิดฟันกรามแตกได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป

ฟันกรามแตกอาการเป็นอย่างไร

การแตกของฟันกรามมีหลายแบบ และไม่ใช่ว่าทุกแบบจะก่อให้เกิดความเจ็บปวดเหมือนกัน แต่เมื่อไหร่ที่ฟันกรามแตกแล้วมีอาการเจ็บปวดเกิดขึ้นก็มักจะมีอาการต่าง ๆ เหล่านี้ตามมา

  • เกิดความเจ็บปวดระหว่างเคี้ยวหรือกัด
  • เสียวฟันเมื่อรับประทานของร้อน ของเย็นและของหวาน 
  • เหงือกบวมบริเวณฟันซี่ที่มีปัญหา
  • เกิดความเจ็บปวดแปลบ ๆ แล้วหายไปไม่ต่อเนื่อง 

หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องหรือช้าเกินไป ฟันกรามแตกอาจส่งผลทำให้มีการติดเชื้อกระจายไปสู่กระดูกและเหงือกในบริเวณใกล้เคียงหรือเกิดฝีรากฟัน ทำให้พบอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาอีกเช่น

  • มีไข้
  • เจ็บปวดเวลาเคี้ยว
  • เหงือกบวม
  • เสียวฟันเมื่อทานของร้อนและของเย็น
  • ลมหายใจเหม็น

หากเรามีปัญหาฟันผุก็จะทำให้เกิดปัญหาฟันกรามแตกตามมาได้ง่าย อ่านเพิ่มเติม ฟันผุเกิดจากอะไร? 9 ความเสี่ยงที่ทำให้ฟันผุง่ายขึ้น

ฟันกรามของเราแตกแบบไหน?

1.แตกเป็นร่องเล็ก ๆ (Craze lines)

ฟันกรามแตกเป็นร่องเล็ก ๆ
ชั้นเคลือบฟันแตกเป็นรอยเล็ก ๆ

พบรอยแตกเล็ก ๆ บริเวณชั้นเคลือบผิวฟันซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ด้านนอกสุดของฟันและมีความแข็งที่สุด ส่วนมากไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใด ๆ หากพบการแตกลักษณะนี้ แต่อย่างไรก็ตามควรไปพบคุณหมอ ซึ่งคุณหมออาจจะแนะนำให้ทำการกรอฟันตกแต่งฟันให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติ 

2.แตกเป็นรู (Fractured cusp)

ฟันกรามแตกเป็นชิ้น
แตกเป็นรูมักพบบริเวณที่เคยอุดฟันมาก่อน

มักจะเกิดขึ้นบริเวณฟันที่เคยทำการอุดมาก่อน โดยเฉพาะถ้าหากรอยอุดฟันมีขนาดใหญ่มาก ๆ จะทำให้ความแข็งแรงโดยรวมของฟันลดลงและเกิดรอยแตกได้ง่าย การแตกในลักษณะนี้จะไม่กระทบต่อชั้นโพรงประสาทฟันซึ่งประกอบไปด้วยเส้นเลือดและเส้นประสาทมาเลี้ยงมากมาย การแตกในลักษณะนี้จึงไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดมากมายนัก 

ส่วนประกอบของฟันมีอะไรบ้าง อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้เลย นอกจากเคี้ยวอาหารแล้วหน้าที่ของฟันมีอะไรอีกบ้าง?

3.ฟันกรามแตกแบบมีรอยร้าว (Cracks that extend into the gum line)

ฟันกรามแตกเป็นรอยขวางซึ่งยังไม่ถึงบริเวณเหงือก ถ้าแตกในลักษณะนี้จะสามารถรักษาฟันเอาไว้ได้ แต่ถ้าหากรอยแตกไปจนถึงเหงือกอาจจำเป็นต้องถอนฟันออกหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที 

4.ฟันกรามแตกออกเป็น 2 ส่วน (Split tooth)

ฟันกรามแตกออกเป็น 2 ส่วน เป็นลักษณะที่ฟันเกิดการแตกขนาดใหญ่ตั้งแต่ผิวด้านนอกจนถึงเหงือก ฟันถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน หากพบการแตกในลักษณะนี้หมอฟันอาจจะไม่สามารถรักษาฟันเอาไว้ได้ทุกส่วน ให้เก็บรักษาฟันส่วนที่แตกออกมาและนำไปให้ทันตแพทย์รักษาโดยด่วน

5.ฟันกรามแตกเป็นแนวตั้งจนถึงรากฟัน (Vertical root fracture)

ฟันกรามแตกในลักษณะนี้จะเริ่มแตกจากเหงือกบริเวณใต้รากฟันขึ้นไปด้านบนตัวฟัน โดยส่วนมากแล้วฟันแตกในลักษณะนี้ผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการอะไรหากไม่มีการติดเชื้อบริเวณรากฟัน หากเกิดฟันแตกในลักษณะนี้โดยส่วนมากแล้วจะต้องทำการถอนฟันออก

ฟันกรามแตกทําไงดี 

หากกำลังสงสัยว่าฟันกรามแตกแน่ ๆ สิ่งที่ต้องทำโดยเร็วที่สุดก็คือการไปหาหมอฟันเท่านั้น เมื่อไหร่ที่การแตกเกิดขึ้นแล้วเราไม่สามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปล่อยทิ้งเอาไว้นาน ๆ ก็คือรอยแตกจะมีความรุนแรงมากขึ้นและอาจเกิดการติดเชื้อตามมาได้ ซึ่งจะทำให้การรักษามีความซับซ้อนและยากมากยิ่งขึ้น 

วิธีรักษาฟันกรามแตก

วิธีการรักษาฟันกรามแตกที่หมอฟันจะเลือกใช้มีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับรูปแบบของการแตก ขนาดของรอยแตก ตำแหน่งที่ฟันแตก และอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ หมอฟันจะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้น และจะแนะนำให้ทำการรักษาโดยเลือกวิธีการเหล่านี้ 

1.บอนดิ้ง (Bonding)

การตกแต่งและบูรณะฟันด้วยวัสดุเรซินซึ่งจะมีสีเหมือนฟัน เพื่อปกปิดรอยแตกและทำให้ฟันกลับมาสวยงามสามารถใช้งานได้ตามเดิม 

2.การครอบฟัน (Crown)

การบูรณะตกแต่งฟันโดยใช้วัสดุที่ทำจากพอร์ซเลน (Porcelain) หรือเซรามิก เพื่อนำไปครอบบริเวณที่เสียหายหรือครอบตัวฟันทั้งหมด ทำให้ฟันมีความแข็งแรงและกลับมามีสภาพปกติสวยเหมือนเดิม 

3.การรักษารากฟัน (Root canal)

การรักษารากฟัน
รักษารากฟัน

ถ้าหากรอยแตกมีขนาดใหญ่และขยายไปจนถึงโพรงประสาทฟันซึ่งมีเส้นประสาทและหลอดเลือดอยู่เป็นจำนวนมาก หมอฟันอาจจะต้องทำการรักษารากฟันเพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของรากฟันก่อนที่จะรักษาแบบอื่น ๆ ต่อไป 

4.ถอนฟัน (Extraction)

ในกรณีที่ฟันกรามแตกเสียหายอย่างมากจนไม่สามารถรักษาแบบอื่น ๆ ได้เลย การถอนฟันอาจเป็นทางเลือกเดียวในการรักษาก็ได้ 

5.ไม่ต้องรักษา 

บางครั้งรอยแตกที่เกิดขึ้นมีขนาดเล็กมาก ๆ บนชั้นเคลือบฟันเท่านั้น ถ้าหากรอยแตกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ได้ทำให้เกิดความเจ็บปวด บางครั้งคุณหมอก็ไม่ทำการรักษาใด ๆ แต่ถ้าหากเรากังวลสามารถไปถามความคิดเห็นที่สองของคุณหมอท่านอื่นก็เป็นอีกทางเลือกเหมือนกันน้าา

ดูแลตัวเองอย่างไรไม่ให้ฟันกรามแตก 

ไม่มีใครอยากมีปัญหาฟันกรามแตกหรอก เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้วเราไม่สามารถแก้ไขเองได้เลยและมีโอกาสสูงมากที่เราจะต้องเสียค่ารักษาราคาแพง เพราะฉะนั้นขอแนะนำว่าเรามาดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาฟันกรามแตกกันดีกว่า 

นี่เลย วิธีการดูแลตัวเองง่าย ๆ เพื่อป้องกันฟันกรามแตก 

วิธีป้องกันฟันกรามแตก
  • ดูแลรักษาฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะฟันที่แข็งแรงก็จะไม่แตกง่าย แปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ และไปหาหมอฟันทุก 6 เดือนเพื่อให้คุณหมอตรวจสุขภาพช่องปาก
  • ไม่เคี้ยวอาหารที่มีความแข็ง
  • หากต้องเล่นกีฬาที่มีโอกาสกระแทกฟัน ควรใส่ฟันยางป้องกันอันตรายทุกครั้ง
  • เช่นเดียวกันหากเราเป็นคนนอนกัดฟัน ให้ใช้ฟันยางระหว่างนอนหลับเพื่อป้องกันแรงกดและแรงกัดระหว่างนอนหลับ
  • หากเราสงสัยว่ามีฟันแตก ให้ล้างทำความสะอาดฟันซี่นั้นด้วยน้ำอุ่น ใช้การประคบเย็นบริเวณแก้มเพื่อลดอาการบวม ถ้าหากมีอาการเจ็บปวดมากสามารถใช้ยาลดอักเสบอย่างเช่น ไอบูโปรเฟนได้ และควรรีบนัดหมอฟันทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งเอาไว้เป็นเวลานานเพราะฟันอาจเกิดความเสียหายมากขึ้น การรักษาจะมีความซับซ้อนและความยุ่งยากมากกว่าเดิม

ฟันกรามแตกเป็นปัญหาที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถพบเจอได้ ลักษณะการแตกของฟันกรามมีหลายแบบทำให้วิธีการรักษาและราคาก็จะแตกต่างกันไปอีกด้วย การดูแลสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอและระมัดระวังการรับประทานอาหารที่มีความแข็งเป็นวิธีการป้องกันฟันกรามแตกที่ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุด อีกเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เลยก็คือการไปตรวจสุขภาพช่องปากกับหมอฟันทุก ๆ 6 เดือน GoWabi ชี้เป้า ดีลตรวจสุขภาพช่องปากโดยคลินิกทันตกรรมชื่อดัง คลิกที่รูปได้เลยจ้าาา

หากสาวๆสนใจบริการจาก คลินิกทันตกรรม ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น บริการ รีเทนเนอร์ ขูดหินปูน อุดฟัน วีเนียร์ เอกซเรย์ฟัน invisalign เลือกหาโปรโมชั่นดีๆจาก GoWabi ได้เลยค่ะ!!

อ้างอิง

https://www.healthline.com/health/cracked-tooth

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ปังแน่! 7 ยาย้อมผมสีแดง เลือกแบรนด์ไหนดี?

ปังแน่! 7 ยาย้อมผมสีแดง เลือกแบรนด์ไหนดี?

ใครกำลังอยากเปลี่ยนลุคให้แซ่บขึ้นแต่ยังคงความสวยคลาสสิกในแบบที่โดดเด่นสุด ๆ บอกเลยว่าการ ย้อมผมสีแดง คือคำตอบ! เพราะผมสีแดงมีทั้งความแพง ความเซ็กซี่ และยังช่วยขับผิวให้หน้าดูสว่างขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น แดงไวน์, แดงเบอร์กันดี, แดงสด, แดงอมส้ม หรือ แดงช็อกกิ้งพิงก์ ก็เรียกได้ว่าเป็นเฉดที่ปังตลอดกาล วันนี้เรารวมมาให้แล้วกับ 7 แบรนด์ยาย้อมผมสีแดง ที่เพื่อน ๆ ควรลอง พร้อมอธิบายแบบชัด ๆ ว่าแต่ละแบรนด์ให้สีแดงแบบไหน เหมาะกับใคร และแดงออกมายังไง มาดูกันเลย!

10 สีผมเบอริน่าหน้าสว่างสำหรับคนผิวสองสี ทำแล้วออร่าพุ่ง

10 สีผมเบอริน่า หน้าสว่าง ผิวสองสี ทำแล้วออร่าพุ่งแน่นอน

เพื่อน ๆ ที่มีผิวสองสีแล้วอยากทำสีผมให้ดูหน้าไบรท์ ขับผิวให้ดูมีออร่ามากขึ้น ฟังทางนี้! จริง ๆ แล้วโทนสีผมที่เหมาะกับผิวสองสีมีหลายเฉดมาก แต่ต้องเลือกให้แมทช์กับอันเดอร์โทนผิวถึงจะเกิดแบบไม่โป๊ะ และถ้ายิ่งใช้แบรนด์ที่ราคาเป็นมิตร คุณภาพแน่น อย่าง Berina ก็ยิ่งคุ้ม เพราะสีติดชัด ติดทน และมีเฉดให้เลือกเยอะมากกกก วันนี้เรารวมมาให้แล้วกับ 10 สีผมเบอริน่า หน้าสว่าง ผิวสองสี ที่ลองแล้วปังแน่นอน พร้อมไอเดียทรงผมที่ทำให้สีดูสวยยิ่งขึ้นด้วยนะ

ผมสวยไม่โป๊ะ! 7 สีผมน้ำตาลหม่นปิดหงอกสวย ๆ ที่ต้องลอง

ผมสวยไม่โป๊ะ! 7 น้ำตาลหม่นสีผมปิดหงอกสวย ๆ ที่ต้องลอง

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาทางออกเรื่องผมหงอก แต่ยังอยากให้ลุคโดยรวมดูละมุน ดูแพง และดูไม่โป๊ะ สีโทนน้ำตาลหม่นคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์สุด ๆ ในปีนี้ เพราะไม่เพียงแต่จะปิดผมหงอกได้เนียนกริบ แต่ยังช่วยให้ใบหน้าดูซอฟต์ สุภาพ และทันสมัย โดยเฉพาะเฉด “น้ำตาลหม่นสีผมปิดหงอกสวย ๆ” ที่กำลังมาแรงทั้งในหมู่สาวทำงาน และสายบิวตี้ที่อยากดูดีแบบเป็นธรรมชาติ วันนี้พี่สาวรวมมาให้ 7 เฉดที่ต้องลอง พร้อมแนะนำแบรนด์สีย้อมผมเด็ด ๆ ให้ไปตำตามกันได้เลย

Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.