เป็นสิวหัวช้างอีกแล้ว เจ็บก็เจ็บ ขนาดก็ใหญ่ ทำให้เสียความมั่นใจเอาได้ง่าย ๆเลยนะเนี่ย บีบสิวหัวช้างเองเลยดีไหมนะ แต่คุ้น ๆ เหมือนเคยได้ยินมาว่าการบีบสิวหัวช้างจะทำให้เกิดหลุมสิวนี่นา แล้วเราจะทำยังไงได้บ้างนะ ถ้าบีบสิวหัวช้างไม่ได้เราจะมีวิธีทำให้มันเล็กลงเองได้ไหม GoWabi พาเพื่อน ๆ ที่กำลังมีปัญหาเรื่องสิวมาหาคำตอบกันค่ะ
เช็คให้ชัวร์ สิวเจ้าปัญหาคือสิวหัวช้างหรือเปล่านะ
สิวเองก็มีหลายประเภทเหมือนกัน ทั้งสิวอุดตัน สิวหัวดำ สิวหัวขาว และสิวอักเสบ ก่อนที่เราจะมาพูดถึงเรื่องบีบสิวหัวช้างได้หรือไม่นั้น เราควรมาดูกันก่อนว่าสิวที่เรากังวลใจอยู่นั้นใช่สิวหัวช้างหรือเปล่า
สิวหัวช้างหรือ cystic acne คือสิวที่มีความรุนแรงและก่อให้เกิดความเสียหายต่อใบหน้าของเราได้อย่างมากมาย โดยลักษณะของสิวหัวช้างเพื่อน ๆ สามารถสังเกตได้ดังนี้
- มีขนาดใหญ่ อยู่ชั้นใต้ผิวหนังลึกลงไป
- เมื่อจับบางครั้งก็เจ็บปวด บางครั้งก็รู้สึกถึงความนิ่มภายใน
- ภายในประกอบไปด้วยหนอง
- ผิวหนังด้านบนมักมีสีแดง คล้ายกับรอยโดนน้ำร้อนลวก
- ช่วงแรกหัวสิวจะยังไม่โผล่ออกมาด้านบน ใช้เวลาหลายสัปดาห์จึงจะเห็นหัวสิว
ทำอย่างไรเมื่อเป็นสิวหัวช้าง
เมื่อพบสิวหัวช้าง ไม่ควรบีบสิวหัวช้างเด็ดขาด อ้าวแล้วเราจะทำอย่างไรได้บ้างนะ? สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือการทำให้สิวหัวช้างมีขนาดเล็กลงและบรรเทาอาการอักเสบค่ะ ซึ่งสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้เลย
- ทำความสะอาดใบหน้า ล้างใบหน้าด้วยความอ่อนโยน เลือกใช้ครีมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองเพื่อล้างทำความสะอาดเครื่องสำอาง น้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรก
- ประคบเย็น ห่อน้ำแข็งด้วยผ้าสะอาดหรือใช้เจลประคบเย็น ประคบลงบนสิวหัวช้างประมาณ 5-10 นาที เมื่อเสร็จแล้วให้พัก 10 นาที และทำซ้ำได้หลายครั้งต่อวันเพื่อลดอาการอักเสบ
- ใส่ยา ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ 2% เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) ซึ่งจะช่วยกำจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวหัวช้าง
- ประคบร้อน เมื่อหัวของสิวหัวช้างเริ่มโผล่ออกมาที่ผิวหนังให้ประคบร้อน สามารถใช้ผ้าขนหนูนำไปแช่น้ำร้อน บีบน้ำออกให้หมาด เสร็จแล้วนำไปประคบบริเวณสิวหัวช้าง 10-15 นาที ทำซ้ำ 3-4 ครั้งต่อวันจนกว่าสิวจะหาย
หากเพื่อน ๆ ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ จะช่วยลดความเจ็บปวดและอาการบวมที่เกิดจากสิวหัวช้างและช่วยลดขนาดของสิวหัวช้างลงโดยไม่ต้องบีบ เพราะการบีบสิวหัวช้างจะทำให้เกิดรอยหลุมสิวนั่นเอง
ทางเลือกอื่น ๆ ในการรักษาสิวหัวช้างแบบธรรมชาติขอแนะนำบทความนี้เลยค่ะ บอกต่อวิธีลดสิวแบบธรรมชาติ สิวไม่มีหัว นูน ๆ รักษายังไง?
สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเป็นสิวหัวช้าง
สิ่งที่ไม่ควรทำเลยก็คือการบีบสิวหัวช้าง นอกจากจะทำให้เกิดรอยหลุมสิวแล้วการบีบสิวหัวช้างซึ่งมีหนองอยู่ภายในจะทำให้เกิดการติดเชื้อในบริเวณอื่น ๆ ของใบหน้าได้อีก ทำให้เกิดวงจรสิวหัวช้างในบริเวณอื่นไม่หายสักที นอกจากนั้นสิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเป็นสิวหัวช้างก็คือ
- การสัมผัสบริเวณใบหน้าไม่จำเป็น
- การขัดถูผิวหน้า
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างแรงกับผิวหน้าเช่น ผลิตภัณฑ์ที่ผสมแอลกอฮอล์
- ใช้ยาสีฟันแต้มสิวเพื่อหวังผลรักษาสิวหัวช้าง
เมื่อไหร่ที่ควรไปหาหมอผิวหนังได้แล้ว
วิธีการรักษาสิวหัวช้างที่ดีที่สุดก็คือการไปรักษากับแพทย์ผิวหนังโดยตรง คุณหมอจะให้ทั้งยากินและยาทาที่เหมาะกับแต่ละบุคคลมา วิธีการดูแลสิวหัวช้างในบทความนี้เป็นเพียงการดูแลเบื้องต้นเท่านั้น หากทำไปแล้วอย่างน้อย 12 สัปดาห์ แล้วพบว่าสิวไม่ดีขึ้นเลย ในกรณีนี้ควรไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดีกว่าค่ะ >>โปรแกรมรักษาสิวราคาดีจากโกวาบิ<<
การบีบสิวหัวช้างอาจจะไม่ใช่คำตอบ เพราะนอกจากจะสร้างรอยหลุมสิวซึ่งรักษายากมาก ๆ และมีราคาแพงแล้วนั้น การบีบสิวหัวช้างยังทำให้เกิดการติดเชื้อแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่น ๆ อีก และยิ่งทำให้เกิดวงจรสิวหัวช้างไม่หยุดไม่หย่อน อาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ที่ทำให้ปัญหาสิวไม่หมดไปจากใบหน้าเราสักทีก็ได้นะคะ
จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์คู่ใจของผู้ที่มีปัญหาสิวก็คือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ หากใครยังไม่มีผลิตภัณฑ์รักษาสิวตัวนี้ลองไปปรึกษาเภสัชกรหรือว่าคุณหมอผิวหนังดูว่าผิวของเราสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้หรือไม่นะคะ หากเพื่อน ๆ ลองใช้วิธีบรรเทาความเจ็บปวดจากสิวหัวช้างในบทความนี้แล้วได้ผลยังไง มาแชร์ให้ฟังบ้างนะคะ
หากสาวๆสนใจบริการจาก คลินิกเสริมความงาม ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น บริการ ฉีดวิตามินผิว ฉีดโบท็อก ฉีดฟิลเลอร์ เลเซอร์หลุมสิว ไฮฟู่ รักษาสิว ฉีดเมโส เลเซอร์กำจัดขน เลือกดูโปรโมชั่นที่ GoWabi ได้เลยค่า!
อ้างอิง
https://www.medicalnewstoday.com/articles/how-to-shrink-a-cystic-pimple