สิว ปัญหาที่ทุกคนจะต้องเคยพบเจอบ้างสักครั้งในชีวิต และเป็นปัญหารบกวนจิตใจที่พบได้ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยผู้ใหญ่ ใช่แล้วล่ะ จากการศึกษาคาดว่าคนที่อยู่ในวัยเข้าสู่ผู้ใหญ่ถึง 85% ที่ประสบปัญหาสิวเช่นเดียวกัน โอโห้ นี่เป็นปัญหาระดับชาติแล้ว หากเราลองมาหลายสูตรหลายวิธีในการกำจัดสิว แต่สิวเจ้ากรรมก็ยังกลับมาทักทายทุกที ใครที่คิดว่าโตแล้วเดี๋ยวมันก็หายไปเองแหละ มันไม่หายนี่สิคะ! โกวาบิอยากชวนให้ทุกคนมาลอง 10 วิธีรักษาสิวให้หายขาดแบบธรรมชาติเหล่านี้ดูก่อนค่ะ อย่าเพิ่งยอมแพ้ ตามมาดูกันเลยย
สิวเกิดจากอะไร?
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าสิวเป็นปัญหากวนใจไปตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยผู้ใหญ่ แล้วคนเป็นสิวไม่ได้เป็นเพราะว่าการล้างหน้าไม่สะอาด! มีหลายปัจจัยมากมายเหลือเกินที่ทำให้คน ๆ หนึ่งมีปัญหาสิว
ถ้าให้พูดคร่าว ๆ เนี่ย สิวเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนจากพวกน้ำมันและเศษเซลล์ที่ตายแล้ว ทำให้แบคทีเรีย (Propionibacterium acnes หรือ P. acnes) เกิดการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดสิวอุดตันหรือสิวอักเสบตามมา
ปัจจัยที่ส่งผลให้เราเกิดสิวมีอยู่หลายอย่างมาก ๆ เช่น
- กรรมพันธุ์
- อาหาร
- ความเครียด
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
- การติดเชื้อ
หากเรามีปัญหาสิวเยอะมากจนเกินควบคุมจริง ๆ โกวาบิแนะนำว่าต้อง >>ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ<< ก่อนเสมอนะคะ วิธีการรักษาสิวให้หายขาดแบบธรรมชาติจะได้ผลดีในกรณีที่เราไม่มีปัญหาทางด้านร่างกายอื่น ๆ แอบแฝงค่ะ ผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวก็แตกต่างกัน การปรึกษาหมอที่ดูแลสิวของเราว่าสามารถใช้วิธีทางธรรมชาตินี้ควบคู่ไปด้วยได้ไหม จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
วิธีรักษาสิวให้หายขาดแบบธรรมชาติ
1.เลือกทานอาหารที่มีค่า GI Index ต่ำ
แล้ว GI Index มันคืออะไรเหรอคะคุณพรี่!? GI Index หรือชื่อเต็ม ๆ คือ Glycemic Index แปลเป็นไทยว่า ค่าดัชนีน้ำตาล เป็นค่าที่เอาไว้บอกว่าอาหารชนิดนั้น ๆ สามารถถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้เร็วแค่ไหน ค่า GI Index จะถูกใช้ในผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลและผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
ผู้ที่มีปัญหาสิวควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีค่า GI index สูง (70 ขึ้นไป) เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะทำให้ระดับน้ำตาลในร่างกายขึ้นสูงในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ร่างกายต้องหลั่งอินซูลินออกมาเป็นปริมาณมาก ส่งผลให้ต่อมไขมันในรูขุมขนผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นและเกิดสิวตามมานั่นเอง
ควรหลีกเลี่ยง
อาหารที่มีค่า GI Index สูง (มากกว่า 70) ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแปรรูปต่าง ๆ เช่น
- ขนมปังขัดสี เช่น ขนมปังขาว
- เครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาล
- ข้าวขาวต่าง ๆ เช่น ข้าวหอมมะลิ
- ขนมหวานต่าง ๆ เช่น เค้ก โดนัท คุ้กกี้ ครัวซองค์ มัฟฟิน
- อาหารที่ทำจากแป้ง เช่น ลาซานญ่า สปาเก็ตตี้ มะกะโรนี
ควรหันมาทาน
อาหารที่มีค่า GI Index ต่ำ (น้อยกว่า 55) ที่ผู้มีปัญหาสิวทานอาหารประเภทนี้ทดแทนอาหารที่มีค่า GI index สูง ต้องกินอะไรแล้วสิวหาย ตามมาดูกัน
- ผัก เช่น บล็อกโคลี่ กะหล่ำดอก แครอท ผักโขม มะเขือเทศ
- ผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล เบอร์รี่ ส้ม มะนาว
- ถั่ว เช่น อัลมอนด์ แมคคาเดเมีย วอลนัท พิชตาชิโอ
- ธัญพืช เช่น ควินัว ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เล่ย์
- เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อปลาทูน่า ปลาแซลมอน
พอจะได้ไอเดียไหมคะ หลักการก็คือพยายามทดแทนอาหารที่เราทานในทุก ๆ วันด้วยอาหารที่มี GI Index ต่ำ ๆ นอกจากจะช่วยลดสิวแล้ว อาหารจำพวกนี้ยังช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วยนะ
2.ลดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนม
นม เครื่องดื่มประจำบ้านที่แทบทุกคนจะต้องมีติดบ้านเอาไว้ เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่าย จากงานวิจัยอย่างน้อยจำนวน 2 ชิ้น พบว่า นมเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราเกิดสิว แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของนมและสิวต้องการการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป พูดง่าย ๆ ก็คือนมอาจจะเป็นสาเหตุทำให้เราเกิดสิวได้นั่นเอง ใครสะดวกที่จะลองตัดนมออกจากมื้ออาหารและหาโปรตีนทดแทนจากแหล่งอื่น ๆ ได้ จะลองวิธีนี้ดูก็ไม่เสียหายอะไรค่ะ
3.ลดความเครียด
ความเครียดในชีวิตประจำวันส่งผลต่อผิวสวย ๆ ของเราอย่างมาก ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในช่วงที่เราเกิดความเครียดจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันที่รูขุมขนผลิตไขมันออกมามากขึ้น เกิดการหมักหมมของเซลล์ที่ตายแล้วบนใบหน้า ทำให้เกิดสิวตามมา
สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้เบื้องต้นก็คือ หาสาเหตุของความเครียดนั้นให้เจอ และกำจัดสาเหตุนั้นออกไปหากเป็นไปได้ หากทำไม่ได้ให้ลองหาเวลาส่วนตัวเพื่อพักผ่อนให้มากขึ้น ใส่ใจกับชั่วโมงการนอนที่มีคุณภาพ ออกกำลังกายบ้าง นั่งสมาธิและโยคะก็ช่วยลดความเครียดได้อย่างดีเลยทีเดียว
4.ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกกำลังกายอาจไม่ได้ช่วยกำจัดสิวโดยตรง การออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว เพื่อน ๆ อาจจะเริ่มต้นออกกำลังกายวันละเล็กน้อย เริ่มต้นที่ 15-20 นาที แล้วค่อย ๆ เพิ่มความหนักหน่วงเข้าไปค่ะ ทำแบบนี้จะได้มีกำลังใจในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เมื่อสุขภาพภายนอกดีแล้วจะส่งผลให้สุขภาพภายในค่อย ๆ ดีขึ้น สภาพผิวก็จะดีขึ้นตามมาด้วย
ยังไม่รู้จะเริ่มต้นออกกำลังกายยังไง ลองออกกำลังกายง่าย ๆ ตามนี้ดูได้เลย
ไอเดียออกกำลังกาย อยู่บ้านยังไงให้ไม่อ้วน!? EP1: 9 ท่าคาร์ดิโอเสกหุ่นสวย
ไอเดียออกกำลังกาย อยู่บ้านยังไงให้ไม่อ้วน!? EP2: 7 ท่าฟิตหุ่นบนเตียง แบบฉบับสาวขี้เกียจ
ไอเดียออกกำลังกาย อยู่บ้านยังไงให้ไม่อ้วน!? EP3: 8 ท่าโยคะพื้นฐาน ฉบับสาวมือใหม่
5.ใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล (Apple cider vinegar)
น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลได้มาจากการหมักแอปเปิ้ล มีฤทธิ์ในการต้านแบคทีเรียและเชื้อรา ในน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลประกอบไปด้วยกรดตัวหนึ่งที่ชื่อว่า กรดซิตริก ซึ่งสามารถฆ่าแบคทีเรียตัวการที่ทำให้เกิดสิว (P. acnes) ได้ นอกจากนั้น กรดแลคติก ที่พบในแอปเปิ้ลไซเดอร์มีฤทธิ์ช่วยลบเลือนรอยแผลเป็นจากสิวได้อีกด้วย
ใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลอย่างไร?
ก่อนจะทาอะไรสักอย่างลงบนหน้า อย่าลืมทดสอบการแพ้โดยการทาผลิตภัณฑ์นั้นลงบริเวณกราม ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วสังเกตว่ามีอาการแสบ ผิวหนังบวม ร้อน แดง หรือไม่ หากเทสแล้วไม่แพ้ ก็ตามมาดูสูตรน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลกันเลยจ้า
- ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล 1 ส่วน ต่อน้ำสะอาด 3 ส่วน (สามารถใช้น้ำมากกว่านี้ได้ในกรณีที่มีผิวบอบบาง)
- ล้างหน้าให้สะอาดด้วยครีมล้างหน้า
- ชุบสำลีลงในส่วนผสมที่เราทำในขั้นตอนที่ 1 ทาเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า
- ทิ้งไว้ 5-20 วินาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
- ทำซ้ำได้วันละ 1-2 ครั้ง
6.ทานอาหารเสริมซิงค์ (zinc)
ซิงค์เป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยในการผลิตฮอร์โมน ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเป็นปกติ การทานอาหารเสริมซิงค์ช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดจากสิว ผู้ใหญ่ที่ต้องการรับประทานซิงค์เป็นอาหารเสริมควรได้รับในปริมาณไม่เกิน 40 มิลลิกรัมต่อวันนอกจากจะช่วยในเรื่องของรอยดำจากสิวแล้ว ซิงค์ยังเป็นหนึ่งในวิตามินบำรุงผม ป้องกันผมร่วง บำรุงผมให้แข็งแรง ดูสุขภาพดี อีกด้วย
7.ใช้ชาเขียวลดสิว
ชาเขียว เมื่อเอามาทานก็ได้ประโยชน์ช่วยให้สุขภาพดี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เมื่อเอามาทาสิวก็ช่วยลดสิวได้อีก ใช้งานได้หลากลายจริง ๆ การที่ชาเขียวสามารถลดการเกิดสิวได้นั่นก็เป็นเพราะว่าสารโพลีฟีนอล (Polyphenol) ในชาเขียวมีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียและลดการอักเสบที่เกิดจากสิวได้นั่นเอง
แล้วเราจะเอาชาเขียวมาใช้ลดสิวได้อย่างไรบ้าง?
- แช่ซองชาเขียวลงไปในน้ำเดือด ทิ้งไว้ประมาณ 3-4 นาที
- ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น
- จุ่มสำลีลงไปในน้ำชาเขียวหรือจะนำน้ำชาเขียวไปใส่ขวดสเปรย์เอาไว้ก็ได้
- ทาให้ทั่วใบหน้า ปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติและล้างออกด้วยน้ำสะอาด
8.ใช้ว่านหางจระเข้เติมความชุ่มชื้น
ถึงเป็นสิวหน้ามันมากยังไง แต่ผิวก็ยังต้องการความชุ่มชื้นอยู่ดี ซึ่งว่านหางจระเข้ตอบโจทย์เติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้เป็นอย่างดี ไม่ได้มีดีแค่การเติมความชุ่มชื้นเท่านั้นว่านหางจระเข้ช่วยลดผื่น ลดรอยถลอก ลดรอยแดงและลดอาการอักเสบบนผิวหนังได้ดี
นอกจากนั้นว่านหางจระเข้มีส่วนประกอบของกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) และซัลเฟอร์ (Sulfur) สารทั้งสองเป็นส่วนประกอบในยารักษาสิวที่หาได้ทั่วไป ซึ่งมีส่วนช่วยในการยับยั้งการเกิดสิว
เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อครีมหรือเจลว่านหางจระเข้ได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วไป แต่หากที่บ้านของใครปลูกว่านหางจระเข้จะลองทำเองก็ได้นะ ทำได้ตามวิธีนี้เลย
- ตัดว่านหางจระเข้ ปอกเปลือกและทำความสะอาดให้เรียบร้อย
- ตักเจลว่านหางจระเข้ออกด้วยช้อน
- นำไปทาลงบนผิวหน้า สามารถทำได้ 1-2 ครั้งต่อวันหรือบ่อยครั้งตามต้องการ
9.ทานอาหารเสริมจากน้ำมันปลา
น้ำมันจากปลาประกอบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า (Omega-3) เป็นไขมันชนิดดี ช่วยลดการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ กรดไขมันโอเมก้าสามารถพบได้ในอาหารจำพวก ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน วอลนัท เมล็ดเชีย และอาหารเสริมจากน้ำมันปลา
10.ขัดผิวเป็นประจำ
การขัดผิวเป็นกระบวนการที่จำเป็นต่อการรักษาสิว เพราะทุกครั้งที่เราขัดผิวจะเป็นการนำเอาผิวหนังที่ตายแล้วชั้นนอกออกไป และช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน นอกจากนี้หลังจากขัดผิวแล้ว หากเราจะใส่ยาหรือมาส์กหน้าต่าง ๆ ยาที่ช่วยรักษาสิวก็จะซึมเข้าสู่ผิวหนังของเราได้ดียิ่งขึ้น
บทความแนะนำ มาส์กหน้าทุกวันดีไหม
ในตลาดมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการขัดผิวสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเยอะแยะมากมาย แต่รู้หรือไม่ จริง ๆ แล้วเราก็สามารถทำที่ขัดผิวง่าย ๆ ด้วยวัตถุดิบไม่กี่อย่างดังนี้
- ใช้เกลือหรือน้ำตาล นำมาผสมกับน้ำมันมะพร้าว
- ถูผิวหน้าเบา ๆ
- สามารถทำได้บ่อยที่สุดวันละครั้ง
แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเห็นผล?
อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห็นผล แต่อย่างไรก็ตามหากเกิดอาการเหล่านี้ให้รีบหยุดการรักษาแบบธรรมชาติและรีบไปปรึกษาคุณหมอด้านผิวหนังทันที อาการเหล่านี้ได้แก่
- ลองทุกวิธีเป็นเวลา 4 สัปดาห์แล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล
- เกิดอาการแสบ ร้อน ผื่นแดง บนใบหน้า
- กลับมาเป็นสิวซ้ำอีก (อาจมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัย)
- มีสิวอักเสบที่อยู่ในชั้นผิวหนังที่ลึกเกินไป ก่อให้เกิดความเจ็บปวด
- การเป็นสิวทำให้ความมั่นใจลดลง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
10 วิธีรักษาสิวให้หายขาดแบบธรรมชาติ เป็นวิธีการรักษาสิวที่ช่วยเสริมการรักษาสิวหลักให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีในบทความนี้จะว่าทำตามง่ายก็ง่าย จะว่าทำตามยากก็ยาก เช่น การลดอาหารจำพวกแป้งที่มีค่า GI Index สูง ๆ คนติดแป้งติดของหวานเนี่ยมีร้องแน่ ๆ อย่างน้อยก็เราคนนึงแหละ😂 แต่วิธีนี้มีงานวิจัยยืนยันว่าช่วยได้จริง ๆ ก็ต้องลองดูกันสักตั้ง เพื่อน ๆ ลองวิธีไหนแล้วเวิร์คบ้างคะ มาแชร์ให้ฟังบ้างน้า
หากสาวๆสนใจบริการจาก คลินิกเสริมความงาม ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น บริการ ฉีดวิตามินผิว ฉีดโบท็อก ฉีดฟิลเลอร์ เลเซอร์หลุมสิว ไฮฟู่ รักษาสิว ฉีดเมโส เลเซอร์กำจัดขน เลือกดูโปรโมชั่นที่ GoWabi ได้เลยค่า!
อ้างอิง