บทความนี้มีหัวข้ออะไรบ้าง

31/01/2025

ทำความเข้าใจ มะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร ลดความเสี่ยงอย่างไรดี

แชร์บทความนี้

มะเร็งปากมดลูก ข่าวร้ายที่ไม่มีใครอยากได้ยิน ในอีกแง่มุมหนึ่ง การทำความรู้จักกับมะเร็งปากมดลูกก็เป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยทำให้เรารู้จักโรคนี้และตระหนักได้ว่าเรามีความเสี่ยงหรือเปล่า เราสามารถดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลจากมะเร็งปากมดลูกได้บ้าง มะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร และเราจะลดความเสี่ยงอย่างไรดี วันนี้มาหาคำตอบกันค่ะ

มะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร?

ตอบอย่างตรงไปตรงมาเลยก็คือ มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อ HPV (Human papillomavirus) เชื้อไวรัส HPV มีเป็นร้อยสายพันธุ์ HPV สายพันธุ์ที่เป็นตัวที่มีความเสี่ยงทำให้โรคพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูกก็คือ HPV สายพันธุ์ 16 และ HPV สายพันธุ์ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุกว่า 70% ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก

ในช่วงชีวิตของคนเรา ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ ก็มีโอกาสติดเชื้อ HPV ได้ ณ จุดใดจุดหนึ่งของชีวิต โดยส่วนมากแล้วร่างกายสามารถกำจัดเชื้อ HPV ออกไปได้ภายใน 1-2 ปี การติดเชื้อระยะสั้น ๆ นี้ไม่ได้ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก แต่! HPV ตัวที่น่ากลัวก็คือ สายพันธุ์ความเสี่ยงสูงที่อยู่ในร่างกายได้นานหลายปี ตัวนี้แหละที่จะพัฒนาทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ทำให้เซลล์ปากมดลูกเกิดการเปลี่ยนแปลง ถ้าหากไม่ได้รักษาตั้งแต่ระยะแรกที่สามารถตรวจพบได้ ก็อาจะทำให้โรคดำเนินต่อไปจนกลายเป็นมะเร็งปากมดลูกในที่สุด

กังวลว่าตัวเองจะมีอาการของมะเร็งปากมดลูกหรือเปล่า แนะนำบทความนี้เลยค่ะ รู้ทันก่อนสาย! มะเร็งปากมดลูกอาการเป็นอย่างไร มีกี่ระยะ

ใครที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกบ้าง?

ชื่อของโรคก็ค่อนข้างตรงตัวอยู่แล้วว่ามะเร็งปากมดลูก กลุ่มเสี่ยงก็คือผู้หญิงที่มีปากมดลูกนั่นเอง นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกที่เป็นปัจจัยเสี่ยง ใครบ้างที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ 

กลุ่มเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก

ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุไม่เกิน 18 ปี

ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน จึงมีโอกาสในการสัมผัสเชื้อ HPV ได้มากกว่า

ผู้หญิงอายุต่ำกว่า 45 ปี มะเร็งปากมดลูก มักจะพบในผู้หญิงอายุต่ำกว่า 45 ปี

ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ ในกรณีที่เรามีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอไม่ว่าจะเป็น จากการติดเชื้อ HIV หรือจากการได้รับยาบางชนิดที่มีผลกดภูมิคุ้มกัน จะส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อ HPV ได้อย่างที่ควรจะเป็น

ผู้ที่สูบบุหรี่หรือได้รับบุหรี่มือสอง จะมีความเสี่ยงที่ทำให้การติดเชื้อ HPV พัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคตได้

สาเหตุจากระบบสืบพันธุ์ การรับประทานยาคุมนานกว่า 5 ปี และการให้กำเนิดบุตรจำนวนมากกว่า 3 คน เป็นอีกความเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น ซึ่งสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเพราะอะไร

ความอ้วน ภาวะอ้วนจะทำให้การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีโอกาสเจอเซลล์ผิดปกติยากขึ้น จึงทำให้เชื้ออยู่ในร่างกายได้นานโดยไม่ถูกตรวจพบและทำให้โรคมีโอกาสพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่า

ไม่ได้รับวัคซีน HPV ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันมีโอกาสเสี่ยงน้อยกว่าในการเป็นมะเร็งปากมดลูก

ผลกระทบของมะเร็งปากมดลูกต่อชีวิตของเรา

การติดเชื้อ HPV (Human Papillomavirus) สามารถส่งผลกระทบทั้งทางด้านสุขภาพ จิตใจ และการใช้ชีวิตของผู้ติดเชื้อได้ดังนี้

ผลกระทบด้านสุขภาพ

  1. มะเร็ง การติดเชื้อ HPV บางสายพันธุ์สามารถนำไปสู่การเกิดมะเร็ง เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องปากและลำคอ มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งอวัยวะเพศ
  2. หูด HPV สายพันธุ์อื่น ๆ อาจทำให้เกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศหรือส่วนอื่นของร่างกาย ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายและเกิดอาการคัน
  3. ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ การติดเชื้อ HPV อาจนำไปสู่การติดเชื้อในบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและไม่สบาย ต้องเสียเงินเสียเวลาในการไปรักษาตัวเองอีกด้วย

ผลกระทบทางด้านจิตใจ

  1. ความกังวลและความเครียด การรู้ว่าตนเองติดเชื้อ HPV อาจทำให้ผู้ติดเชื้อรู้สึกกังวลและเครียดเกี่ยวกับสุขภาพและความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
  2. ความรู้สึกไม่สบายใจในความสัมพันธ์ ผู้ติดเชื้ออาจรู้สึกอายหรือลำบากใจในการเปิดเผยสถานะการติดเชื้อกับคู่รักหรือคู่ครอง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ส่วนตัว
  3. ภาวะซึมเศร้า บางครั้งการติดเชื้อ HPV อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือความรู้สึกไร้ค่า เนื่องจากการต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

ผลกระทบต่อการใช้ชีวิต

  1. การรักษาพยาบาล การต้องเข้ารับการตรวจและรักษาต่าง ๆ เช่น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือการรักษาหูด อาจทำให้ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่าย
  2. ความไม่สะดวกในชีวิตประจำวัน หูดที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การทำกิจกรรมทางเพศ หรือการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย
  3. การลดคุณภาพชีวิต การต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการติดเชื้อ HPV อาจทำให้คุณภาพชีวิตลดลง เนื่องจากการต้องจัดการกับอาการเจ็บป่วยและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ

ลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกอย่างไรดี

ฉีดวัคซีน HPV

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการฉีดวัคซีน HPV ก็คือก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก สำหรับคนที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนแล้ว การฉีดวัคซีน HPV จะมีประสิทธิภาพไม่เต็มที่เนื่องจากเราอาจได้รับเชื้อ HPV เข้าสู่ร่างกายไปแล้ว

อายุที่น้อยที่สุดที่สามารถได้รับวัคซีน HPV สามารถรับได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี ไปจนถึงอายุ 26 ปี สำหรับผู้ที่อายุ 27 – 45 ปี หากอยากฉีดวัคซีน HPV ก็สามารถทำได้นะคะ เพียงเข้าไปคุยสอบถามคุณหมอถึงความกังวลใจ คุณหมอจะอธิบายถึงประสิทธิภาพของวัคซีน HPV ในเคสของเราว่าฉีดไปจะป้องกันได้ดีไหม คุ้มค่าหรือเปล่า เรื่องนี้เราต้องตัดสินใจเองค่ะ

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ

การฉีดวัคซีน HPV ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้ทุกสายพันธุ์ ถึงจะฉีดวัคซีนแล้ว การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยอยู่ดี สำหรับผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป และเคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว ควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ

ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์

ถึงแม้เราจะมีคู่นอนเพียงคนเดียว แต่เราจะมั่นใจได้แค่ไหนว่าคู่นอนของเรามีเราเพียงคนเดียว! ถุงยางอนามัยมีความสำคัญมากในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ต้องบอกก่อนว่าถุงยางอนามัยป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้แค่เฉพาะบริเวณที่สวมถุงยางอยู่ แต่บริเวณที่ถุงยางสวมไม่ถึง หากตรงนั้นมีเชื้ออยู่ เราก็มีโอกาสติดเชื้อ HPV ได้ค่ะ

สำหรับคำถามที่ว่าโรคมะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร คงได้คำตอบกันไปแล้วนะคะ ก็คือการติดเชื้อ HPV (Human papillomavirus) สายพันธุ์ร้ายแรงมานานในระยะเวลาหนึ่งจนทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกนั่นเอง ใครที่รู้ตัวว่าเสี่ยงอยากให้ไปตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำค่ะ GoWabi ชี้เป้าโรงพยาบาลตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกราคาไม่แรง คุณภาพแรงมากกกก ตามลิงก์นี้มาเลยค่ะ GoWabi Deals มะเร็งปากมดลูก

อ้างอิง

National Cancer Institute, Cervical Cancer Causes, Risk Factors, and Prevention

, https://www.cancer.gov/types/cervical/causes-risk-prevention

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ปังแน่! 7 ยาย้อมผมสีแดง เลือกแบรนด์ไหนดี?

ปังแน่! 7 ยาย้อมผมสีแดง เลือกแบรนด์ไหนดี?

ใครกำลังอยากเปลี่ยนลุคให้แซ่บขึ้นแต่ยังคงความสวยคลาสสิกในแบบที่โดดเด่นสุด ๆ บอกเลยว่าการ ย้อมผมสีแดง คือคำตอบ! เพราะผมสีแดงมีทั้งความแพง ความเซ็กซี่ และยังช่วยขับผิวให้หน้าดูสว่างขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น แดงไวน์, แดงเบอร์กันดี, แดงสด, แดงอมส้ม หรือ แดงช็อกกิ้งพิงก์ ก็เรียกได้ว่าเป็นเฉดที่ปังตลอดกาล วันนี้เรารวมมาให้แล้วกับ 7 แบรนด์ยาย้อมผมสีแดง ที่เพื่อน ๆ ควรลอง พร้อมอธิบายแบบชัด ๆ ว่าแต่ละแบรนด์ให้สีแดงแบบไหน เหมาะกับใคร และแดงออกมายังไง มาดูกันเลย!

10 สีผมเบอริน่าหน้าสว่างสำหรับคนผิวสองสี ทำแล้วออร่าพุ่ง

10 สีผมเบอริน่าหน้าสว่างสำหรับคนผิวสองสี ทำแล้วออร่าพุ่ง

เพื่อน ๆ ที่มีผิวสองสีแล้วอยากทำสีผมให้ดูหน้าไบรท์ ขับผิวให้ดูมีออร่ามากขึ้น ฟังทางนี้! จริง ๆ แล้วโทนสีผมที่เหมาะกับผิวสองสีมีหลายเฉดมาก แต่ต้องเลือกให้แมทช์กับอันเดอร์โทนผิวถึงจะเกิดแบบไม่โป๊ะ และถ้ายิ่งใช้แบรนด์ที่ราคาเป็นมิตร คุณภาพแน่น อย่าง Berina ก็ยิ่งคุ้ม เพราะสีติดชัด ติดทน และมีเฉดให้เลือกเยอะมากกกก วันนี้เรารวมมาให้แล้วกับ 10 สีผมเบอริน่า หน้าสว่าง ผิวสองสี ที่ลองแล้วปังแน่นอน พร้อมไอเดียทรงผมที่ทำให้สีดูสวยยิ่งขึ้นด้วยนะ

ผมสวยไม่โป๊ะ! 7 สีผมน้ำตาลหม่นปิดหงอกสวย ๆ ที่ต้องลอง

ผมสวยไม่โป๊ะ! 7 สีผมน้ำตาลหม่นปิดหงอกสวย ๆ ที่ต้องลอง

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาทางออกเรื่องผมหงอก แต่ยังอยากให้ลุคโดยรวมดูละมุน ดูแพง และดูไม่โป๊ะ สีโทนน้ำตาลหม่นคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์สุด ๆ ในปีนี้ เพราะไม่เพียงแต่จะปิดผมหงอกได้เนียนกริบ แต่ยังช่วยให้ใบหน้าดูซอฟต์ สุภาพ และทันสมัย โดยเฉพาะเฉด “น้ำตาลหม่นสีผมปิดหงอกสวย ๆ” ที่กำลังมาแรงทั้งในหมู่สาวทำงาน และสายบิวตี้ที่อยากดูดีแบบเป็นธรรมชาติ วันนี้พี่สาวรวมมาให้ 7 เฉดที่ต้องลอง พร้อมแนะนำแบรนด์สีย้อมผมเด็ด ๆ ให้ไปตำตามกันได้เลย

Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.