7 สิ่งที่ต้องรู้! ก่อนเติมเต็มความสวยด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา

ปัญหาที่สาว ๆ หลาย ๆ คนกำลังเผชิญเมื่ออายุมากขึ้น ชีวิตดูเหมือนจะโหดร้ายกับเราตามไปด้วย ปัญหาใต้ตาดำ ใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาลึกโบ๋เริ่มปรากฎให้เห็นเด่นชัดขึ้น ปัญหาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้หน้าของเราดูมีอายุมากขึ้นมาก ๆ หลายคนจึงสนใจการแก้ไขปัญหาในจุดนี้โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และมันก็เวิร์คมากจริง ๆ ค่ะ ไม่ว่าเราจะไปคลินิกเสริมความงามที่ไหนก็จะมีบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้เห็นอยู่เสมอ ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ใครเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบ้าง และเรื่องอื่น ๆ ที่คนอยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องรู้ ตามไปหาคำตอบกันเลย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในปัจจุบันก็คือการนำสารประเภท Hyaluronic acid ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายและสามารถถูกย่อยสลายได้โดยธรรมชาติมีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดริ้วรอยและถุงใต้ตาที่เกิดขึ้นเนื่องจากการสูญเสียไขมันในบริเวณนี้  การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นกระบวนการไม่ต้องใช้เวลานานและมีผลทันที โดยผลของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถรักษาได้นานถึง 6-12 เดือนขึ้นอยู่กับปริมาณและประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ที่ใช้ 

ฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?

รอยคล้ำใต้ตา หากเราลองเซิร์ซในกูเกิ้ลจะพบวิธีการดูแลใต้ตาคล้ำตั้งแต่การทาครีม สูตรลับต่าง ๆ ไปจนถึงการฉีดฟิลเลอร์ซึ่งดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็วที่สุด แต่ว่าก็ต้องให้คุณหมอประเมินอีกทีค่ะว่ารอยคล้ำใต้ตาของเรานั้นเกิดมาจากสาเหตุอะไร ถ้ารอยคล้ำใต้ตาเกิดมาจากการสูญเสียวอลลุ่มจากอายุที่มากขึ้นหรือผิวหนังหย่อนคล้อย การฉีดสารเติมเต็มใต้ตาสามารถช่วยได้ค่ะ แต่ถ้าหากเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสีผิวโดยตรง เช่น โดนแดดหรือสีผิวคล้ำโดยกำเนิดอยู่แล้ว ในกรณีนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจจะไม่สามารถช่วยได้ค่ะ

ตาลึก ตาโบ๋ เป็นเป้าหมายหลักของการฉีดฟิลเลอร์เลยก็ว่าได้ การเติมเต็มช่องว่างต่าง ๆ เป็นหน้าที่หลักของฟิลเลอร์อยู่แล้ว หากปัญหาที่เรากังวลอยู่คือตาลึก ตาโหลแล้วทำให้หน้าดูแก่ ฟิลเลอร์ใต้ตาตอบโจทย์มาก ๆ

ริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา ริ้วรอยจาง ๆ ใต้ตาทำให้หน้าดูมีอายุขึ้นจนน่าตกใจ การฉีดฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้

ปัญหาถุงใต้ตา สำหรับปัญหาถุงใต้ตาฟิลเลอร์อาจช่วยได้เล็กน้อย โดยเฉพาะถุงใต้ตาที่เกิดจากการสะสมของไขมันโดยมักจะมาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น การผ่าตัดถุงใต้ตาจะให้ผลลัพธ์ชัดเจนกว่า

ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ก่อนฉีดต้องรู้อะไรบ้าง

ก่อนฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณใต้ดวงตา พี่สาวชวนมาทำความเข้าใจกับบริเวณใต้ตาให้มากขึ้นกันก่อนว่ามีอะไรที่เราควรรู้บ้าง

ผิวหนังใต้ดวงตามีความบอบบางและเป็นแหล่งรวมหลอดเลือดจำนวนเยอะมาก ๆ เมื่อจิ้มเข็มเข้าไปในผิวหนังที่มีความบอบบางทำให้มีโอกาสที่จะเกิดความช้ำได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น ๆ

แล้วอย่างงี้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วจะเข้าไปในเส้นเลือดได้ไหม?

มีโอกาสเกิดขึ้นได้ค่อนข้างน้อย หากเกิดขึ้นตัวฟิลเลอร์จะเข้าไปอุดตันในหลอดเลือด ส่งผลทำให้ตาบอดได้ ซึ่งหากเราเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับคุณหมอที่มีประสบการณ์และคลินิกที่น่าเชื่อถือก็จะช่วยลดโอกาสในการเกิดได้ค่ะ

สรุปก็คือบริเวณรอบดวงตามีความบอบบาง หลังฉีดฟิลเลอร์มักจะพบอาการบวม ช้ำได้เป็นเรื่องปกติ และความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ก็คือการฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือดบริเวณใต้ตาอาจทำให้ตาบอดได้ ซึ่งมีโอกาสเกิดได้น้อย พวกเราสามารถลดโอกาสเสี่ยงได้โดยการเลือกคลินิกและเลือกหมอที่ดีมีประสบการณ์ มีความน่าเชื่อถือ

ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์ที่ฉีดใต้ตาโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีโมเลกุลขนาดเล็ก ฉีดแล้วไม่ฟูจนเกินไปโดยยี่ห้อและรุ่นที่เหมาะกับการนำมาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้แก่

ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่cc

ขึ้นอยู่กับปัญหาของเรา ปริมาณ cc ที่เราต้องการใช้แบบเป๊ะ ๆ ต้องให้คุณหมอเป็นคนประเมินเท่านั้น แต่โดยทั่วไปแล้วถ้าปัญหาริ้วรอย ใต้ตาไม่หนักมากอาจใช่ข้างละ 1-2 cc แต่ถ้าปัญหาหนักมากอาจใช้ถึงข้างละ  3-4 cc เลยทีเดียว

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

𝗦𝗮𝗺𝗽𝗲𝗿 𝗖𝗹𝗶𝗻𝗶𝗰 ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้ 1 CC ยี่ห้อ HA soft บริเวณใต้ตาเป็นบริเวณที่ต้องให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด ถ้าหากใช้ปริมาณ CC เยอะเกินไป เวลายิ้มจะทำให้ใต้ตาดูบวมเป็นก้อน ไม่เป็นธรรมชาติ การใช้ในปริมาณ 1 เป็นปริมาณที่เหมาะสม ทำให้ใต้ตาอิ่มฟู สดใส ดูเด็ก pic.twitter.com/ewKvJHRjc6

— GoWabi (@GoWabi) April 27, 2023

𝗖𝗵𝗲𝗿𝗰𝗵𝗮𝗿𝗺 𝗖𝗹𝗶𝗻𝗶𝗰
เคสนี้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1 CC ยี่ห้อ Restylane
ช่วยเติมเต็มใต้ตาเป็นแอ่งลึก ปรับใบหน้าโดยรวมให้ดูสมดุลได้สัดส่วนมากขึ้น และยังช่วยปัญหาแก้ริ้วรอยหางตาให้ดูตื้นขึ้น ใต้ตากลับมาเต่งตึง เปล่งปลั่ง ใบหน้าโดยรวมดูหวานขึ้น และเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ pic.twitter.com/pvLurJ95hz

— GoWabi (@GoWabi) April 27, 2023

ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน

เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปปริมาณมากในคราวเดียว ใช้เทคนิคไม่ถูกต้อง ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เลือกฟิลเลอร์รุ่นที่ไม่เหมาะสมกับการฉีดใต้ตา ถ้าหากพบก้อนบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ 2-3 วันอาจเกิดการบวมหลังฉีดซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวล แต่ถ้าหากเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนแล้วยังเป็นก้อนอยู่ ควรกลับไปปรึกษาคุณหมอเพราะหากฉีดฟิลเลอร์ด้วย Hyaluronic acid จะมีสารที่สามารถสลายก้อนนี้ได้ค่ะ สารตัวนี้ชื่อว่า Hyaluronidase

ในทางกลับกันหากเราฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยสารอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้ มันจะไปเกาะกับเนื้อเยื่อข้างเคียงกลายเป็นพังผืด อาจจะต้องทำการขูดออก ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นเลย เพราะอย่างที่ทราบกันดีกว่าบริเวณใต้ตามีความบอบบาง มีเส้นเลือดมาเลี้ยงเยอะ เกิดความเสียหายได้เยอะมาก ต้องไปขูดกับโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ที่มีอุปกรณ์และเครื่องมือพร้อมเท่านั้น

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดูแลตัวเองอย่างไร

หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรดูแลตัวเองอย่างระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง โดยปกติแล้วผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีอาการบวมและแดงบริเวณที่ฉีดเป็นระยะเวลาไม่กี่วัน ดังนั้นหลังการทำฟิลเลอร์ใต้ตาควรดูแลตัวเองโดย

1. ไม่ควรสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
2. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
3. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือการบริหารกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
4. รับประทานอาหารที่มีปริมาณน้ำเพียงพอและหลีกเลี่ยงอาหารเค็ม
5. รับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามิน C เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
6. รับประทานอาหารที่มีโปรตีนเพียงพอเพื่อช่วยในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อและการสร้างคอลลาเจน
7. ถ้ามีอาการบวมหรือปวดมาก ควรพบแพทย์เพื่อให้คำแนะนำในการรักษาต่อไป

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมีความปลอดภัยสูงหากใช้ฟิลเลอร์แท้และรับการฉีดโดยคุณหมอที่มีประสบการณ์ แต่สิ่งที่พี่สาวอยากให้มือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานำไปพิจารณาเป็นอย่างแรกเลยก็คือ การเลือกคลินิกที่มีคุณภาพ เพราะคลินิกที่มีคุณภาพจะสามารถคัดกรองเรื่องความเสี่ยงต่าง ๆ ออกไปได้ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ของปลอม ความสะอาดของอุปกรณ์ การรับผิดชอบหากเกิดข้อผิดพลาด เป็นต้น แต่ถ้าใครยังไม่มีไอเดียว่าจะไปฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหน นี่เลย พี่สาวคัดมาให้แล้ว คลินิกเสริมความงามฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จากแอปโกวาบิ ตามไปเลยย