เมื่ออายุมากขึ้นหลาย ๆ คนคงจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้า บริเวณที่เป็นจุดกวนใจอีกจุดหนึ่งเลยก็คือบริเวณขมับ เมื่อเราอายุมากขึ้นบริเวณขมับมีแนวโน้มที่จะยุบตัวลงสูญเสียแผ่นไขมันบริเวณนั้นรวมถึงคอลลาเจนและอิลาสตินก็ลดตัวลงไปด้วย ซึ่งรอยบุ๋มบริเวณขมับนี่แหละ ที่จะทำให้ตีนกาของเราดูเด่นขึ้นแล้วเปลี่ยนรูปทรงของใบหน้าเราให้ดูมีอายุมากขึ้น หลายคนจึงหันมาสนใจการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ขมับต้องรู้อะไรบ้างตามไปดูกันเลยค่ะ
สาเหตุที่ทำให้ขมับตอบ
- สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่มีขมับตอบก็คืออายุที่มากขึ้น มักพบในวัย 30-40 ขึ้นไป อายุที่มากขึ้นมีแนวโน้มที่จะทำให้เราสูญเสียไขมันบนใบหน้า ไขมันบริเวณขมับก็เป็นหนึ่งในนั้น พร้อมกับการสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินบนผิวหนังทำให้ผิวหนังเกิดการหย่อนคล้อย ซ้ำเติมปัญหาให้แย่ลงกว่าเดิม
- เกิดความเจ็บป่วยบางอย่าง โรคเรื้อรังบางอย่างที่ทำให้ร่างกายของเราผอมลง ก็ส่งผลให้สูญเสียไขมันบริเวณขมับได้เช่นเดียวกัน
- การออกกำลังกายอย่างหนัก จนทำให้ไขมันในร่างกายลดลงอย่างมากก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขมับตอบ
- กล้ามเนื้อบริเวณขมับฝ่อลีบ (Temporal muscle atopy) กล้ามเนื้อนี้วางตัวอยู่บริเวณขมับพอดี หากกล้ามเนื้อนี้ไม่ได้ทำงานก็จะเกิดการฝ่อลีบและมีขนาดเล็กลง ทำให้เกิดขมับตอบได้ สาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อนี้ฝ่อลีบมีได้ตั้งแต่ การเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ไม่มีเลือดมาเลี้ยงบริเวณกล้ามเนื้อนี้ หรือการจัดฟันในบางเคส
- ขมับตอบจากโครงสร้างของใบหน้าเราที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด
ใครบ้างที่มีแนวโน้มจะมีขมับตอบ
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะประสบกับปัญหาขมับตอบ คนที่มักจะมีปัญหาขมับตอบคือคนที่มีรูปร่างผอมหรือคนที่ออกกำลังกายอย่างหนักจนไขมันในร่างกายลดน้อยลงมาก ๆ ปกติบริเวณขมับจะมีแผ่นไขมันเติมเต็มอยู่ เมื่อเราสูญเสียไขมันบริเวณขมับหรือส่วนอื่น ๆ บนใบหน้าไป จะทำให้หน้าของเราเห็นส่วนของกระดูกกะโหลกได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าดูมีอายุ การใช้ฟิลเลอร์เติมเต็มเหมาะสมกับคนที่ประสบปัญหาแบบนี้มาก ๆ ค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์ขมับตอบไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน
ไม่ใช่ว่าเราเริ่มมีอายุที่มากขึ้นแล้วจะต้องไปฉีดฟิลเลอร์แก้ขมับตอบกันทุกคน การฉีดฟิลเลอร์ขมับอาจไม่เหมาะกับเรา เช่น คนที่มีรูปหน้ากลม การมีขมับตอบในกรณีนี้จะทำให้หน้าดูเล็กลงและมีมิติมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเติมเข้าไป เพราะฉะนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในตำแหน่งไหนก็ตามบนใบหน้าลองปรึกษาคุณหมอดูก่อนทุกครั้ง อย่าฉีดฟิลเลอร์เพียงเพราะเห็นคนอื่นฉีดกันก็เลยอยากฉีดบ้าง
ต้องรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ!
ขมับคือจุดอันตราย
บริเวณขมับมีหลอดเลือดมาเลี้ยงเยอะมากกว่าบริเวณอื่นบนใบหน้า ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ก็คือการฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่เส้นเลือดบริเวณขมับส่งผลทำให้เส้นเลือดบริเวณนั้นเกิดการอุดตัน เส้นเลือดสำคัญในบริเวณนี้คือเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตา หากโชคร้ายฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในเส้นเลือดนั้นร้ายแรงที่สุดคือทำให้เกิดตาบอด เกิดเนื้อตายได้ เพราะฉะนั้นเลือกฉีดกับคุณหมอที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานก็จะช่วยคัดกรองได้ในระดับนึง
ไปฉีดฟิลเลอร์แก้ขมับตอบอย่างเดียวอาจไม่ตอบโจทย์
ถ้าหากเราเป็นคนที่มีขมับตอบ มีความเป็นไปได้ว่าบริเวณอื่นของใบหน้าของเราก็จะตอบเหมือนกัน เช่น บริเวณแก้ม การเติมฟิลเลอร์เพียงจุดใดจุดหนึ่งอาจไม่ได้ช่วยส่งเสริมความสมดุลของใบหน้า เพราะฉะนั้นถ้าหากเราอยากได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดควรพิจารณาเติมฟิลเลอร์ในจุดอื่น ๆ ด้วย เพื่อทำให้ใบหน้าของเราสมดุลที่สุด
เติมฟิลเลอร์ขมับมากไปก็ไม่ดี
การเติมฟิลเลอร์ถือว่าเป็นศาสตร์และศิลป์ในการปั้นรูปใบหน้าของเราให้ได้ตามที่ต้องการ การเติมฟิลเลอร์ขมับมากเกินไปจะทำให้ได้ลุคที่ดูหน้าตาโกรธอยู่ตลอดเวลา เพราะฟิลเลอร์ขมับจะไปยกบริเวณคิ้วและหางตา โดยปกติแล้วฟิลเลอร์ขมับจะเติม 1-2 cc ต่อข้างเท่านั้น
เติมฟิลเลอร์ขมับทำให้เจ็บขากรรไกร?
เป็นผลข้างเคียงที่สามารถพบได้หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ขมับ กล้ามเนื้อขมับ (Temporal muscle) กับกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่เปิดปิดปากที่อยู่บริเวณกราม (Masseter muscle) ทำหน้าที่ร่วมกัน หลังจากฉีดฟิลเลอร์เข้าไปอาจทำให้เกิดอาการบวมซึ่งจะไปกดทับข้อต่อขากรรไกร ส่งผลทำให้การเปิดปิดปากลำบากมากขึ้น อาการเหล่านี้มักจะหายไปเองภายในวันสองวัน การประคบเย็นสามารถช่วยลดอาการนี้ได้
ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ขมับ
คนที่กำลังพิจารณาอยากแก้ปัญหาขมับตอบด้วยการฉีดฟิลเลอร์ สามารถคาดหวังผลลัพธ์อย่างไรได้บ้าง
เติมเต็มขมับตอบ
อย่างที่ได้กล่าวไปเมื่ออายุมากขึ้นเรามักจะสูญเสียไขมันบริเวณขมับไปทำให้เกิดช่องว่าง ส่งผลให้เห็นรอยบุ๋มบริเวณขมับทำให้ใบหน้าของเราเสียรูปทรง การเติมฟิลเลอร์หรือสารไฮยาลูรอนิก ช่วยเพิ่มวอลลุ่มบริเวณขมับ อย่างปลอดภัยและสลายตัวไปเองตามธรรมชาติ
ลดเลือนริ้วรอย
เมื่อเราทำการเพิ่มฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณขมับเพื่อทำให้ผิวข้างใต้มีความฟูมากขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังด้านนอกมีความตึงขึ้น ริ้วรอยรอบ ๆ บริเวณขมับและดวงตาดูลดเลือนลง
ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ
การเติมฟิลเลอร์ขมับใช้เวลาไม่นานเลย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องวางยาสลบ สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที อาจพบรอยบวมช้ำจากการฉีดเล็กน้อย แต่รอยเหล่านี้จะหายไปได้เอง สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีแต่อาจจะต้องรอประมาณ 1-2 สัปดาห์ฟิลเลอร์จึงจะเริ่มเข้าที่
ช่วยยกหางตา
ในบางกรณีการฉีดฟิลเลอร์ที่ขมับอาจช่วยยกบริเวณหางตาขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากการเติมฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณช่องว่างที่ขมับซึ่งอยู่ใกล้กับหางตา เมื่อพื้นที่ตรงนั้นมีปริมาณมากขึ้นก็จะทำให้รอยตีนกาบริเวณหางตาดูลดเลือนลงตามไปด้วย
ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานแต่ไม่ถาวร
การฉีดฟิลเลอร์ขมับตอบโดยใช้สารไฮยาลูรอนิก สามารถให้ผลลัพธ์อยู่ได้ 6 เดือนขึ้นไป จนถึงหลักปี ฟิลเลอร์จะสลายออกไปเองตามธรรมชาติ
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์ขมับตอบ
การฉีดสารต่าง ๆ เข้าไปในร่างกาย ไม่มีคำว่าปลอดภัย 100% การฉีดฟิลเลอร์ถือว่าค่อนข้างปลอดภัยเมื่อทำโดยหมอที่มีประสบการณ์และมีใบประกอบโรคศิลป์อย่างถูกต้องน่าเชื่อถือ แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถพบผลข้างเคียงได้บ้าง เช่น
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย
โดยทั่วไปแล้วผลข้างเคียงประเภทนี้จากการฉีดฟิลเลอร์ขมับมักจะหายได้เองภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์
- บวม
- แดง
- เจ็บปวด
- ช้ำ
- ผื่นขึ้น
- ระคายเคืองบริเวณที่ฉีด
ผลข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อย
ผลข้างเคียงที่พบได้ยากแต่ค่อนข้างอันตราย ถ้าหากมีอาการเหล่านี้ควรรีบกลับไปหาคุณหมอโดยด่วน
- เกิดการติดเชื้อ
- ฟิลเลอร์ไหลออกมาจากบริเวณที่ฉีด
- พบก้อนใกล้ ๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์ไหลไปบริเวณอื่นที่ไม่ใช่บริเวณขมับ
- เกิดเนื้อตาย
- หลอดเลือดได้รับความเสียหาย
- สูญเสียการมองเห็นเนื่องจากฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตา
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- ไม่แนะนำให้นอนตะแคงหรือกดนวดบริเวณขมับหลังจากฉีดฟิลเลอร์ขมับอย่างน้อย 2-3 วัน ให้พยายามนอนหงาย
- งดการออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลาอย่างน้อย48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- พยายามไม่สัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ขมับจนกระทั่งอาการเจ็บปวดอาการบวมหรืออาการไม่สบายตัวผ่านพ้นไปแล้ว
- ทำความสะอาดใบหน้าอย่างอ่อนโยนเป็นประจำ หรือด้วยอุปกรณ์ที่คุณหมอให้มาเพื่อป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน
ฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี
ฉีดฟิลเลอร์ขมับข้างละ 1-2 ซีซี เพราะคอมพลีทลุคก็อาจจะใช้ 2-4 ซีซีเลย ราคาของฟิลเลอร์ขมับที่พี่สาวหามาให้จากแอปโกวาบิดูได้จากตารางนี้เลยค่ะ
ยี่ห้อ | คุณสมบัติ | อยู่ได้กี่เดือน | ราคาต่อ 1 ซีซี |
---|---|---|---|
Juvederm Ultra Plus | เนื้อแน่น อุ้มน้ำสูง ฟู | 12 เดือน | 9,999 บาท |
Juvederm Voluma | เนื้อแข็ง เนียนละเอียด ขึ้นรูปได้ดี | 18-24 เดือน | 13,900 บาท |
Juvederm Volux | เนื้อแข็ง ขึ้นรูปได้ดี | 18-24 เดือน | 14,999 บาท |
Restylane Defyne | ยืดหยุ่นสูง ในส่วนของโมเลกุลมีขนาดใหญ่ มีการกระจายตัวสม่ำเสมอ | 6-12 เดือน | 10,990 บาท |
Neuramis Deep Classic | เนื้อเจลหนืดปานกลาง | 12 เดือน | 3,299 บาท |
e.p.t.q. S 500 lidocaine | ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง | 12 เดือน | 7,990 บาท |
ฟิลเลอร์สวิสกล่องสีม่วง (Belotero) | เหมาะสำหรับการเพิ่มมิติให้กับ 3 จุดสำคัญบนใบหน้า ได้แก่ บริเวณคาง แก้ม และขมับ | 18 เดือน | 13,900 บาท |
เมื่ออ่านบทความนี้จบแล้วใครที่คิดว่าการฉีดฟิลเลอร์ขมับเพื่อแก้ไขปัญหาขมับตอบคือคุณค่าที่เราคู่ควร ขั้นตอนต่อไปก็คือการหาคลินิกที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้เพื่อฉีดฟิลเลอร์ขมับให้เรา พี่สาวคัดมาให้แล้วคลินิกฉีดฟิลเลอร์ขมับที่กำลังมีโปรโมชั่นในแอปโกวาบิ ตามไปดูกันเลย
อ้างอิง
https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/fillers-for-temples#questions-to-ask