เป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วกับคนเมืองที่ต้องเผชิญชะตากรรมกับฝุ่นละอองจิ๋ว PM2.5 อยู่เป็นประจำโดยเฉพาะในฤดูที่ลมไม่ค่อยพัด ฝนไม่ค่อยตกอย่างฤดูหนาว อากาศนิ่ง ๆ ที่เมื่อมองออกจากคอนโดในตอนเช้าเราอาจสงสัยได้ว่า เอ๊ะ….นั่นคือหมอกจาง ๆ หรือควันกันแน่นะ แต่ถ้าหากสูดเข้าไปแล้วละก็ ส่งผลเสียต่อสุขภาพปอดอย่างแน่นอน แล้วผิวของเราที่สัมผัสกับฝุ่นละอองโดยตรงล่ะ จะส่งผลเสียอย่างไรบ้าง?
PM2.5 ส่งผลเสียต่อผิวอย่างไรบ้าง
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า PM2.5 นั้นส่งผลโดยตรงกับระบบทางเดินหายใจและหัวใจ แต่สำหรับผลกระทบของ PM2.5 ต่อผิว แม้ว่าจะยังไม่มีงานวิจัยออกมามาก แต่วันนี้พี่สาวได้รวบรวมข้อมูลเท่าที่จะหามาได้มาให้อ่านกันค่ะ ก็ผิวนั้นเป็นอวัยวะที่สัมผัสกับ PM2.5 โดยตรงจึงไม่น่าแปลกที่ PM2.5 จะส่งผลต่อผิวของเราด้วย PM2.5 ส่งผลต่อผิวของเราดังนี้
1.ทำให้คนที่มีปัญหาผิวอยู่แล้วมีปัญหารุนแรงขึ้น
สำหรับคนที่มีปัญหาผิวอยู่แล้วเช่น โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง (allergic skin diseases) และโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis) มีอาการของโรครุนแรงขึ้น คนที่เป็นผื่นผิวหนังก็มีโอกาสที่ผื่นจะขึ้นมา ทำให้รบกวนการใช้ชีวิต เกิดอาการคัน แดง แสบผิว
2.ทำให้ผิวหนังเสื่อมก่อนวัยอันควร
PM2.5 จะเร่งกระบวนการเสื่อมของผิวโดยการทำให้ผิวหนังชั้นกำพร้าทำงานผิดปกติและกระตุ้นกระบวนการ Oxidative stress เกิดการหลั่งสารอนุมูลอิสระออกมาในปริมาณมาก ส่งผลให้ผิวหนังเกิดการอักเสบและเสื่อมก่อนวัยอันควรนั่นเอง นอกจากนั้น PM2.5 ยังทำลายคอลลาเจนของผิวหนังทำให้หน้าดูเหี่ยว ย่น ไม่เต่งตึงก่อนเวลาอันควร
วิธีการดูแลผิวหน้าเพื่อปกป้องอันตรายจาก PM2.5
แน่นอนว่ามันคงเป็นไปได้ยากที่จะหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับ PM2.5 เพราะมันปกคลุมอยู่ทั่วเมือง เพราะฉะนั้นการดูแลและปกป้องผิวให้แข็งแรงจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยต่อสู้กับ PM2.5 แล้วอะไรที่จะช่วยสร้างเกราะป้องกันเสริมให้กับผิวบ้าง?
1.สารต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระช่วยจับกับสารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเสื่อมของเซลล์ ช่วยชะลอให้กระบวนการเสื่อมของผิวเกิดขึ้นได้ช้าลง สารต้านอนุมูลอิสระสามารถหาได้จากครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี และกรดเฟอรูลิก(ferulic acid) จากงานวิจัยพบว่าการทาเซรั่มที่มีส่วนผสมเหล่านี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ช่วยลดการเกิดจุดด่างดำจากมลพิษได้
ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกมากมายที่ช่วยปกป้องผิวจากมลพิษต่าง ๆ ได้แก่
- วิตามินซี (vitamin C)
- วิตามินเอ (retino)l
- วิตามินอี (vitamin E)
- ไนอะซินาไมด์ (niacinamide)
- เรสเวอราทรอล (resveratrol)
- โคเอ็มไซม์คิวเท็น (CoQ10)
- โพลีฟีนอล(polyphenols)
- ฟลาโวนอยด์ (flavonoids)
- กรดเฟอรูลิก (ferulic acid)
- แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)
- กลูต้าไธโอน (glutathione)
2.มอยเจอร์ไรเซอร์
การไม่ละเลยการทามอยเจอร์ไรเซอร์สามารถช่วยได้เป็นอย่างมากเลยค่ะ เพราะการบำรุงผิวหน้าเป็นประจำช่วยให้ผิวหน้ามีความแข็งแรง ช่วยลดโอกาสของมลพิษที่จะเข้ามาทำร้ายผิวของเราได้ สารบำรุงผิวที่แนะนำให้สาว ๆ ใช้เพื่อปกป้องผิวได้แก่
เซราไมด์ (Ceramides) คือน้ำมันที่พบได้ในธรรมชาติ ช่วยเสริมสร้างปราการผิวให้แข็งแรง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid) สารธรรมชาติชนิดอยู่ที่พบได้ในร่างกาย มีโมเลกุลขนาดเล็กเมื่อทาลงบนผิวสามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวชั้นลึกที่สุดได้ ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
3.ครีมกันแดด
นอกจากฝุ่นแล้วสิ่งที่เราต้องเจอทุกวันก็คือแสงแดด แสงแดดจะเข้ามาซ้ำเติมปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ ทำให้เกิดริ้วรอย ความเหี่ยวย่น จุดด่างดำ ฝ้า หนักสุดก็คือทำให้มีโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
4.โพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์
บนผิวหนังของเราไม่ใช่แค่ของเราคนเดียว! บนผิวหนังจริง ๆ แล้วคือระบบนิเวศเป็นที่อยู่อาศัยของจุลชีพต่าง ๆ ซึ่งเป็นเจ้าถิ่น เมื่อจุลชีพเหล่านี้มีสุขภาพดี ระบบนิเวศเป็นปกติ ผิวหนังของเราก็จะมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย มลพิษนั้นส่งผลต่อสุขภาพของจุลชีพเหล่านี้ การรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของโพรไอโอติกส์และพรีไบโอติกส์ มีส่วนช่วยให้จุลชีพเจ้าถิ่นของเราสุขภาพดี ระบบนิเวศบนผิวหน้าก็ดี ส่งผลให้ผิวหน้าของเราแข็งแรงขึ้นจากภายใน

ซึ่งพรีไบโอติกส์สามารถหาได้ในอาหารจำพวก หัวหอม กระเทียม ถั่วเหลือง ถั่วแดง ไฟเบอร์ในผักและผลไม้ต่าง ๆ

ส่วนโพรไบโอติกส์สามารถหาได้ในอาหารจำพวก โยเกิร์ต กิมจิ ปลาร้า นัตโตะ มิโซะ ผักดอง น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล
5.ทำทรีตเมนต์หน้า
มีทรีตเมนต์หน้าหลายชนิดที่ช่วยฟื้นฟูการสร้างคอลลาเจนบนใบหน้า ส่งเสริมให้ผิวหน้าเกิดความแข็งแข็ง สร้างเกราะป้องกันเพื่อให้ผิวสามารถต่อสู้กับฝุ่นจิ๋วมรณะได้แก่
- Ultraformer III ผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในผิวหนังชั้นลึก ชั้น SMAS ทำให้เนื้อเยื้อถูกกระตุ้นสร้างคอลลาเจนขึ้นมา อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย UltraformerIII คืออะไร? ช่วยยกกระชับได้ยังไง คุ้มค่าหรือเปล่า
- Rejuran Healer จะเข้าไปช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมผิว ทำให้ผิวชั้นหนังแท้และหนังกำพร้ามีความหนาแน่นและยืดหยุ่นมากขึ้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำความรู้จักรีจูรันอ่านต่อที่นี่เลย หมอตอบเอง! Rejuran Healer คืออะไร ฟื้นฟูผิวให้หน้าฉ่ำได้จริงเหรอ
เรื่องฝุ่นจิ๋ว PM2.5 กับปัญหาผิวที่ไม่จิ๋วเลย นโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 จากทางภาครัฐในระยะสั้นดูไม่สดใสเอาซะเลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่พวกเราทำได้ก็คือการดูแลตัวเองไปก่อน ปกป้องผิวของเราให้แข็งแกร่ง ดูแลบำรุงผิวหน้าเป็นประจำ ก็จะช่วยชะลออายุของผิวที่เกิดจากฝุ่น PM2.5 ทำร้ายได้ค่ะ
หากใครสนใจบริการจาก คลินิกเสริมความงาม ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น บริการ ฉีดผิวขาววิตามินซี ฉีดโบท็อก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Pico laser ไฮฟู่ รักษาสิว เมโสหน้าใส ทรีทเม้นท์หน้า บำรุงผิว เลเซอรักแร้ บราซิลเลี่ยนแว็กซ์ แว็กซ์ขน แว็กซ์ขนขา เลือกดูโปรโมชั่นที่ GoWabi ได้เลยค่า!
อ้างอิง
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC8137329/
https://particleandfibretoxicology.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12989-020-00366-y