อยากแก้ปัญหาฟันเก ฟันห่าง ฟันกระต่าย ฟันซ้อนเรียงตัวไม่สวย เดี๋ยวนี้เขามีการจัดฟันแบบใส (Invisalign) แล้วนะ ทั้งเร็วและเจ็บตัวน้อยกว่าอีกด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อน อยากจะแก้ปัญหาเหล่านี้ก็ต้องจัดฟันแบบลวดเท่านั้น GoWabi พาทุกคนมาทำความรู้จักกับการจัดฟันแบบใส Invisalign กันว่าคืออะไร เหมาะกับใครบ้าง ขั้นตอนการทำเป็นยังไง การเตรียมตัวก่อนทำ การดูแลตัวเองหลังทำ ผลลัพธ์จะปังขนาดไหน ที่สำคัญราคาล่ะต้องแพงแน่ ๆ เลยใช่ไหม? อย่าเพิ่งตัดสินใจถ้ายังไม่ได้อ่านบทความนี้ ตามไปดูกันเลยค่าา
จัดฟันแบบใส Invisalign คืออะไร?
การจัดฟันแบบใสคือการใช้ที่จัดเรียงฟันลักษณะใสที่ได้จากพิมพ์แบบฟันของเราและนำไปวิเคราะห์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อวางแผนปรับเปลี่ยนการเรียงตัวของฟัน ในขณะที่ถ้าเทียบกับการดัดฟันแบบลวดจะใช้ลักษณะการดึงฟันให้เรียงตัวสวยงาม แต่การจัดฟันแบบใสจะใช้แบบพิมพ์ฟันเป็นชุดเซ็ตสำหรับเราโดยเฉพาะ ทันตแพทย์จะเปลี่ยนชุดพิมพ์ฟันไปเรื่อย ๆ เพื่อจัดเรียงฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการที่ละน้อย

จัดฟันแบบใส VS จัดฟันแบบลวด แบบไหนดีนะ?
ทั้งการจัดฟันแบบใสและการจัดฟันแบบลวดล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์อย่างเดียวกันก็คือช่วยแก้ปัญหาฟันเรียงตัวไม่สวยให้กลับมาสวยงามเป็นระเบียบและใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่มีสะดุด การจัดฟันแบบใสเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในประเทศไทยแตกต่างจากการจัดฟันแบบลวดที่นิยมทำมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ซึ่งทั้งสองแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปตามนี้เลย

- ลักษณะภายนอก แน่นอนว่านี่คือข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดของการจัดฟันแบบใสและการจัดฟันแบบลวด ที่จัดฟันแบบใสทำมาจากพอลิเมอร์แบบบางใสปราศจาก BPA (Bisphenol A) ซึ่งมีความปลอดภัยต่อร่างกายมนุษย์และมีลักษณะที่ใสสามารถมองทะลุผ่านได้เลย ส่วนการจัดฟันแบบลวดสามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าคน ๆ นี้กำลังจัดฟันอยู่นะ
- ความสะดวก เราสามารถนำที่จัดฟันแบบใสออกจากปากได้เองเมื่อจำเป็น แต่อย่างไรก็ตามผู้จัดฟันแบบใสควรใส่อุปกรณ์อย่างน้อยวันละ 20-22 ชั่วโมง ในขณะที่การจัดฟันแบบลวดอุปกรณ์จะถูกติดตั้งอยู่กับฟันของเราตลอดเวลา
- ระยะเวลา การจัดฟันแบบใสใช้ระยะเวลาในการรักษาเพียง 6-24 เดือน ในขณะที่การจัดฟันแบบลวดใช้เวลารักษาอย่างน้อย 24 เดือนหรือ 2 ปี
- ราคา การจัดฟันแบบใสมีราคาเริ่มต้นแพงกว่าการจัดฟันแบบลวด
ใครเหมาะกับการจัดฟันแบบใส?
เป็นอีกข้อดีหนึ่งของการจัดฟันแบบใสก็เพราะว่าการจัดฟันแบบใสนั้นเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการจัดฟันไม่ว่าจะเป็น
- วัยรุ่น เหมาะกับการจัดฟันแบบใสอย่างมาก มีวัยรุ่นหลาย ๆ คนประสบปัญหาในเรื่องของความมั่นใจเมื่อต้องใส่ลวดจัดฟัน การจัดฟันแบบใสจึงตอบโจทย์กับวัยรุ่นมาก ๆ และด้วยเหตุผลในเรื่องของระยะเวลาที่สั้นกว่าในการจัดฟัน ทำให้น้อง ๆ มีเวลาไปใช้ชีวิต เตรียมสอบอ่านหนังสือ และยิ้มได้อย่างมั่นใจกว่าเดิม
- ผู้ใหญ่ การจัดฟันแบบใสเหมาะสำหรับวัยผู้ใหญ่ที่ต้องการรักษาบุคคลิกภาพให้ดูดีอยู่เสมอ เวลากินอาหารเสร็จก็ไม่ต้องมานั่งกังวลกับการแคะเศษอาหารออกจากลวด
จัดฟันแบบใสมีกี่แบบ ราคาล่ะแพงไหม?
การจัดฟันแบบใสด้วยอุปกรณ์จัดฟัน Invisalign® มีหลายประเภทเพื่อให้เหมาะกับสภาพฟันของแต่ละคน ตัวอย่างอุปกรณ์ มีดังนี้
- Invisalign-i7 ใช้เครื่องมือ 7 ชุด สำหรับฟันซ้อนเกหรือฟันห่างเพียง 1-2 ซี่ หรือเคยจัดฟันมาแล้วแต่ไม่ใส่รีเทนเนอร์ ใช้เวลาทำประมาณ 2-3 เดือน
- Invisalign-Lite ใช้เครื่องมือ 8-14 ชุด สำหรับฟันห่าง ซ้อนเก ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ใช้เวลาทำประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ราคาจัดฟันใส invisalign-Lite ประมาณ 60,000 บาท
- Invisalign Go ใช้เครื่องมือ 20 ชุด สำหรับฟันซ้อนหรือเกระดับที่ไม่มากนัก ใช้เวลาทำประมาณ 3-6 เดือน ราคาจัดฟันใส invisalign Go ประมาณ 69,000 บาท
- Invisalign Moderate ใช้เครื่องมือ 15-26 ชุด สำหรับแก้ปัญหาความผิดปกติของฟันระดับปานกลางถึงมาก ใช้เวลาทำประมาณ 1-2 ปี ราคาจัดฟันใส invisalign Moderate ประมาณ 150,000 บาท
- Invisalign-Full ใช้เครื่องมือ 27 ชุดขึ้นไป สำหรับแก้ไขความผิดปกติของฟันได้ทุกรูปแบบ รวมทั้งผู้ที่ยังไม่เคยจัดฟันมาก่อน ระยะเวลาที่ทำประมาณ 1-2 ปี ราคาจัดฟันใส invisalign-Full ประมาณ 180,000 บาท
*ราคาที่แสดงเป็นราคาที่ได้จากการค้นหาจากแอปพลิเคชั่น GoWabi เบื้องต้น ณ วันที่ทำการเขียนบทความเท่านั้น ซึ่งแต่ละคลินิกทันตกรรมจะมีราคาแตกต่างกันไปเพราะต้นทุนที่ไม่เท่ากันและราคาอาจเปลี่ยนแปลงไปตามโปรโมชั่นที่ร้านจัดในแต่ละช่วงเวลา
พูดถึงโปรโมชั่นก็ต้องไม่พลาดราคา จัดฟันใส Invisalign เด็ด ๆ ที่หาได้จากแอปพลิเคชั่น GoWabi ที่นี่ที่เดียว คลิกเลย

ข้อดีและข้อเสียของการจัดฟันแบบใส
ข้อดีของการจัดฟันแบบใส
- วัสดุมีลักษณะใส จึงดูเหมือนไม่ได้จัดฟันอยู่
- ดูแลความสะอาดได้ง่าย
- ไม่ค่อยมีปัญหาในการพูด ออกเสียง การเคี้ยวอาหาร
- สามารถลดอาการเหงือกบวมแดง หรือเจ็บระคายเคืองในปากเนื่องมาจากเหล็กจัดฟันหรือตะขอเหล็กเกี่ยวเนื้อเยื่อในช่องปาก
- ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อยเหมือนการจัดฟันแบบอื่น
ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส
- เครื่องมือจัดฟันแบบใส เป็นแบบใส่ครอบลงไปที่ตัวฟันโดยตรง จึงไม่ค่อยทำให้รู้สึกรำคาญหรือระคายเคืองเหงือกระหว่างวัน แต่อาจรู้สึกไม่สะดวกเพราะต้องถอดเครื่องมือออกขณะรับประทานอาหาร
- อาจรู้สึกเจ็บตึงบ้างหลังใส่เครื่องมือชุดใหม่ 1-2 วันแรก แต่จะเจ็บน้อยกว่าการจัดฟันแบบโลหะ
เคสรีวิวการจัดฟันแบบใส


เตรียมตัวก่อนจัดฟันแบบใสยังไงดี
- กรณีที่ผ่านการตรวจประเมินจากทันตแพทย์แล้ว ควรเคลียร์ช่องปากโดยตรวจฟันผุ อุดฟันให้ครบทุกซี่ รักษารากฟันหากมีฟันผุ ขูดหินปูน และผ่าฟันคุดให้เรียบร้อย
- หากมีโรคประจำตัว หรือ มีการแพ้ยา ควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบก่อนรับบริการ
การดูแลตัวเองหลังจัดฟันแบบใส

- ปฎิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ล้างอุปกรณ์จัดฟันใสด้วยน้ำสะอาดทุกวันก่อนนอน แต่ห้ามใช้น้ำร้อนในการทำความสะอาด เพราะอาจทำให้อุปกรณ์จัดฟันใสเสียหาย
- ทำความสะอาดอุปกรณ์จัดฟันใสด้วยแปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม อาจใช้สบู่เหลวแบบไม่ผสมน้ำหอมร่วมด้วย เพื่อกำจัดเศษอาหาร หรือสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น ควรแยกแปรงสีฟันที่ใช้สำหรับแปรงฟัน กับแปรงสีฟันที่ทำความสะอาดอุปกรณ์จัดฟันใสเป็นคนละอัน
- หลังใช้แปรงขัดอุปกรณ์จัดฟันใสแล้ว ควรล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
- ถอดอุปกรณ์จัดฟันใสออกทุกครั้งเวลารับประทานอาหาร เพื่อป้องกันการสะสมของคราบอาหาร และสิ่งสกปรก
- ระหว่างใส่อุปกรณ์จัดฟันใส ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มประเภทอื่นนอกจากน้ำเปล่า เพื่อป้องกันอุปกรณ์จัดฟันใสเปลี่ยนสี
- ควรเก็บอุปกรณ์จัดฟันใสไว้ในกล่องเก็บอุปกรณ์ทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้งาน
- ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดฟันปลอม และน้ำยาบ้วนปากกับอุปกรณ์จัดฟันใส
เลือกคลินิกทันตกรรมเพื่อการจัดฟันแบบใสยังไงดี
จะเห็นได้ว่าการจัดฟันแบบใส Invisalign มีหลายแบบหลายราคามาก ๆ และจำเป็นต้องทำการประเมินสภาพฟันกับทันตแพทย์ก่อนเสมอ หากจะต้องเลือกคลินิกทันตกรรมเพื่อการจัดฟันแบบใสอย่าเลือกที่ราคาเพียงอย่างเดียว ลองพิจารณาจากทำเล ความสะดวกสบายในการเดินทางไปจัดฟันแบบใส และที่สำคัญคือตัวหมอฟันที่ทำการจัดฟันให้เรา เพราะเราต้องเจอคุณหมออีกหลายครั้งกว่าจะจัดฟันเสร็จ การลองเข้าไปปรึกษาเบื้องต้นถือเป็นการสกรีนด้วยตนเองที่ดีมาก ๆ ค่ะ
อ้างอิง
https://www.mapledentalhealth.com/blog/invisalign-101-guide/