สวัสดีค่ะสาวๆ เวลาที่ขนยาวออกมากวนใจสาวๆ มีวิธีจัดการกับมันอย่างไรกันบ้าง!? ทางที่ดี ได้ผลที่สุดก็คงจะเป็นการเลเซอร์ เพราะเดี๋ยวนี้เค้าหาทำได้ง่ายแถมไม่เจ็บเหมือนการแว็กซ์ด้วยนะ เคยคิดกันมั้ยว่าจะทำ เลเซอร์ขนแบบไหน ถ้าสาวๆ ยังไม่รู้หรือยังตัดสินใจไม่ได้ วันนี้ GoWabi มีข้อมูลดีๆ มาฝากสาวๆ ช่วยให้สาวๆ ตัดสินใจเลือกทำเลเซอร์ได้ง่ายขึ้น มาดูกันว่าการทำ IPL , Q-Switch , Diode Laser เลือกทำเลเซอร์แบบไหนดี !?

IPL
การทำ IPL (Intensive Pulse Light) เป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหาผิวและการกำจัดขนที่ได้รับความนิยมมากๆ ในหมู่สาวๆ การรักษาของ IPL จะใช้คลื่นแสงคลื่นแสงหลากหลายความถี่ มีประโยชน์ทั้งในด้านการลบริ้วรอย จุดด่างดำ และการกำจัดขน โดยวิธีการรักษาของ IPL จะคล้ายกับการทำเลเซอร์ โดยจะใช้แสงที่มีความถี่คลื่นหลากหลายช่วงคลื่นเหมือนลักษณะของแฟลชถ่ายรูป ยิงไปที่บริเวณผิวหนังที่ต้องการหรือผิวหนังที่มีปัญหา สาวๆ รู้มั้ยว่า IPL สามารถกระจายตัวได้มากกว่าแสงเลเซอร์ และซึมเข้าไปยังชั้นผิวหนังได้ดี
IPL Step
- ขั้นแรก ก่อนการทำเลเซอร์ คุณหมอจะเช็ดทำความสะอาดผิดหนังโดยใช้เจลเย็นหรือยาชาชนิดทาตามบริเวณที่จะทำการเลเซอร์ก่อนการทำเลเซอร์ประมาณ ครึ่งชัวโมง หรือ หรือหนึ่งชั่วโมง พร้อมทั้งให้สาวๆได้สวมแว่นตาสำหรับป้องกันแสง IPL
- ขั้นต่อมา การทำเลเซอร์จะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่รักษา คุณหมอจะทำการวางอุปกรณ์สำหรับการทำเลเซอร์ ไว้ที่จุดที่ต้องการ จากนั้นจะทำการเลเซอร์ ระหว่างที่ทำสาวๆ จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่พอทนได้นะจ๊ะ
- ขั้นสุดท้าย ภายหลังการทำเลเซอร์เสร็จเรียบร้อย สาวๆ สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ แต่บริเวณที่ทำเลเซอร์มาจะมีรอยแดงและอาจจะรู้สึกระคายเคือง หรือแสบๆ เหมือนถูกแดดเผาไปอีกประมาณ 2-3 ชั่วโมงหลังการทำ หรือสาวๆ บางรายอาจมีอาการบวมเล็กน้อย แต่จะหายไปหลัง 2-3 วัน
ข้อดี ของการทำ IPL คือ เป็นวิธีที่รักษาปัญหาผิวรวมถึงกำจัดขนที่สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย และการรักษาแต่ละครั้งจะใช้เวลาน้อยกว่าวิธีอื่น นอกจากนี้ยังช่วยขจัดริ้วรอย จุดด่างดำ และกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสาวๆ รู้มั้ยว่าแสง IPL ไม่ทำลายผิวหนังชั้นนอก ทำให้เสี่ยงได้รับผลข้างเคียงน้อยกว่าวิธีอื่น
ข้อเสีย ของการทำ IPL อาจใข้ไม่ได้ผลกับบริเวณที่ผิวหนังไม่สม่ำเสมอ สาวๆ ที่มีผิวคล้ำหรือขนสีอ่อน รวมถึงแผลเป็นคีลอยด์ เป็นต้น อาจต้องทำการรักษาหลายครั้งถึงจะได้ผลตามต้องการ
หากสาวๆ ต้องการทำ IPL เพื่อรักษาปัญหาผิวต้องทำซ้ำประมาณ 3-6 ครั้ง แต่ถ้าสาวๆ เลือกเป็นการกำจัดขน ต้องทำซ้ำ 6-12 ครั้ง และในแต่ละครั้งสาวๆ จะต้องเว้นช่วงเวลาพักผิว ประมาณ 1 เดือน

Q-Switch
การทำ Q-Switch คือ การลบรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำ ด้วยการใข้คลื่นแสง ช่วยลดการสร้างเม็ดสีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ผิวที่สร้างใหม่จะมีความกระจ่างใส อ่อนวัย มีความนุ่มและเรียบเนียน ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง หลักการทำงานของ Q-Switch จะเป็นการปล่อยพลังงานแสงออกมาเพื่อทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัว หลังจากนั้นเม็ดเลือดขาวจะดูดซึม หรือย่อยสลายเม็ดสีที่ผิดปกติ และจะถูกกำจัดโดยการขับเป็นของเสียออกจากร่างกายโดยไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ
Q-Switch Step
ก่อนการทำ คุณหมอจะทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 30-60 นาที จากนั้นจะทำการยิงเลเซอร์ประมาณ 10-30 นาที ในระหว่างนั้นสาวๆ จะมีอาการแสบร้อนบ้างเล็กน้อย หรืออาจมีผิวแดงบ้าง หลังการทำอาจจะเป็นสะกิดเล็กน้อย หรือเป็นรอยดำในบริเวณที่ทำ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะสาวๆ รอยเหล่านั้นจะหลุดออกและหายไปหมดจดภายใน 1-2 สัปดาห์
ข้อดึ ของการทำ Q-Switch คือ เป็นการรักษาที่ได้ผลดีในบริเวณผิวที่มีฝ้า กระ ปานดำ จุดด่างดำที่บริเวณโหนกแก้ม รวมถึงรอยสักตามร่างกาย หรือลบรอยคล้ำที่บริเวณปาก ลบปานดำ รอยสิว รอยแผลเป็น และช่วยกระชับรูขุมขน โดยสาวๆ สามารถทำได้ทุกสภาพผิว แต่ไม่แนะนำให้สาวๆ ที่เป็นสิวอักเสบทำ เพราะอาจทำให้สิวลามเยอะขึ้นได้
ข้อเสีย ของการทำ Q-Switch คือ ขณะทำสาวๆ อาจจะรู้สึกเจ็บเหมือนโดนเข็มจิ้มเบาๆ แต่คุณหมอจะให้ยาชาเพื่อลดอาการเจ็บ หรือสำหรับสาวๆ บางคนอาจมีอาการแสบร้อนในบริเวณที่ทำได้
การทำ Q-Switch ครั้งแรกจะได้ผลเพียง 80% แต่ถ้าสาวๆ อยากได้ผลลัพธ์ที่ได้ประสิทธิภาพที่ชัดเจนต้องทำประมาณ 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งควรจะเว้นความห่างพักผิวประมาณ 3-6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับคุณหมอที่วางแผนการรักษา

Diode Laser
วิธี Diode เป็นเลเซอร์ที่มีหลากหลายความยาวคลื่น ในแต่ละความยาวก็จะใช้ในจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เลเซอร์ Diode ทำงานด้วยการพุ่งเข้าไปจับเมลานินที่อยู่ในเส้นขน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เส้นขนจะที่ถูกทำลายและหลุดร่วงออกมาโดยไม่ทำร้ายผิวหนังโดยรอบ ไม่ว่าสาวๆ ผิวแบบไหนก็สามารถทำ Diode ได้ เนื่องจากเลเซอร์ชนิดนี้ค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิว และยังมีความยาวคลื่นที่ซึมผ่านผิวหนังได้ลึก และไม่ทำปฎิกิริยากับเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง
Diode Step
ในขั้นตอนแรกของการทำ Diode จะต้องทำการเล็มหรือโกนขนออกก่อน จากนั้นจะทาเจลเย็นเพื่อช่วยลดการอักเสบระคายเคือง ก่อนจะเริ่มทำเลเซอร์ทีละส่วนจนครบทุกบริเวณที่ต้องการ สาวๆ จะรู้สึกเย็นตลอดเวลา เนื่องจากที่หัวเลเซอร์จะมีระบบทำความเย็นไปพร้อมๆ กับการยิง สาวๆ จะไม่รู้สึกแสบหรือร้อน หรืออาจมีบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าทนไม่ไหวก็สามารถแจ้งผู้เชี่ยวชาญได้เลย
ข้อดี ของการทำ Diode คือ แสงสามารถผ่านผิวลงไปได้ลึก ทำให้กำจัดขนได้ทั้งเส้นใหญ่และเส้นเล็ก และชะลอการเกิดเส้นขนใหม่ได้ดี แถมยังปลอดภัยกับทุกสภาพผิว ไม่เจ็บขณะทำ และหลังการทำ ผิวจะมีความเรียบเนียนมากขึ้น ช่วยกระชับรูขุมขนได้ดี
ข้อเสีย ชองการทำ Diode คือเส้นขนจะค่อยๆ หลุดร่วงไปในช่วง 1-2 สัปดาห์ภายหลังการทำเลเซอร์ หลังจากนั้นจะมีขนขึ้นมาบ้าง
การทำ Diode ควรทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง 5-6 ครั้ง โดยแต่ละครั้งสาวๆ ควรพักเว้นระยะห่าง 1 เดือน เมื่อทำครบ 5-6 ครั้งแล้ว สาวๆ จะไม่มีขนมากวนใจอีกต่อไป แต่ก็อาจมีบ้างเล็กๆ น้อยๆ ในสาวๆ บางราย
ได้อ่านข้อมูลพวกนี้แล้ว พอจะช่วยให้สาวๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกันบ้างหรือเปล่าจะ เลเซอร์แบบไหน ดีกว่ากัน ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้หรือไม่มั่นใจ แนะนำให้สาวๆ เข้าคลินิคแล้วขอคำแนะนำจากคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญที่ให้การดูแลได้เลย ถ้าอยากได้โปรราคาโดนๆ ดีลดีๆ ในการจองบริการ GoWabi ก็มีมาเสริฟให้สาวๆ อีกเช่นเคย เข้าชมเว็บไซต์ที่นี่ เพื่อไปดูโปรดีๆ กันได้เลย
หากสาวๆสนใจบริการจาก คลินิกเสริมความงาม ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น บริการ ฉีดวิตามินผิว ฉีดโบท็อก ฉีดฟิลเลอร์ เลเซอร์หลุมสิว ไฮฟู่ รักษาสิว ฉีดเมโส เลเซอร์กำจัดขน บราซิลเลี่ยนแว็กซ์ แว็กซ์ขน แว็กซ์ขนขา เลือกดูโปรโมชั่นที่ GoWabi ได้เลยค่า!