Onsen (ออนเซ็น) คืออะไร?
Onsen หรือ ออนเซ็น แปลว่า “น้ำพุร้อน” ที่เกิดมาจาก 2 คำมารวมกัน นั่นก็คือ “ออน (On)” ที่แปลว่า “ร้อน” กับคำว่า “เซน (Sen)” ที่แปลว่า “น้ำพุ” Onsen คือวัฒนธรรมการอาบน้ำแร่ของประเทศญี่ปุ่น โดยมีมาตั้งแต่สมัยก่อนจนกลายเป็นวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นถึงในปัจจุบัน การแช่ออนเซ็นถือเป็นกิจกรรมโปรดของชาวญี่ปุ่นที่ช่วยในการให้ความอบอุ่น (เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศเมืองหนาว) ช่วยส่งผลต่อสุขภาพให้ดีขึ้นจากแร่ธาตุต่างๆ ในน้ำพุร้อน ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยต่างๆ
โดย Onsen (ออนเซ็น) เกิดจากภูเขาที่ยังไม่ดับ ความร้อนจากภูเขาไฟจึงดันน้ำที่อยู่ใต้ดินออกมา แก๊ส และไอน้ำ จึงก่อให้เกิดน้ำพุร้อน โดยน้ำพุร้อนประกอบด้วยหลากหลายแร่ธาตุ (ขึ้นอยู่กับสถานที่และบ่อน้ำพุร้อน) ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน ธาตุเหล็ก คลอไรด์ โพแทสเซียม โซเดียม คลอรีน และอื่นๆ
ประโยชน์และ ประเภทของออนเซ็น
เนื่องจากภูเขาไฟในญี่ปุ่นยังไม่ดับอยู่หลายลูกจึงก่อให้เกิดน้ำพุร้อน หรือออนเซ็นเป็นจำนวนมาก แต่สถานที่แต่ละสถานที่ให้แร่ธาตุ กลิ่นของน้ำพุร้อน หรือแม้กระทั่งสีของน้ำ ประโยชน์สรรพคุณของแต่ละบ่อจึงแตกต่างกันไป โดยประเภทของออนเซ็นถูกแบ่งหลักๆ ได้แก่
- ออนเซ็นกำมะถัน (Sulphur Hot Springs) – เป็นน้ำพุร้อนที่มีกลิ่นฉุนหน่อยๆ อาจจะระคายผิวหน่อยๆ ถ้าผิวบอบบาง ช่วยในเรื่องความดันโลหิตสูง การแข็งตัวของหลอดเลือ โรคผิวหนังเรื้อรัง และอาการปวดข้อต่างๆ
- ออนเซ็นไร้สีไร้กลิ่น (Colourless,Odorless Hot Springs) – มีน้ำแร่ที่อ่อนโยนต่อผิว ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังและระบบประสาทต่างๆ
- ออนเซ็นโซดา (Alkaline Soda Hot Springs) – ช่วยขจัดไขมันส่วนเกินให้หลุดออกจากผิวหนัง ทำให้ผิวเนียนเรียบ เนื่องจากมีโซดาในการช่วย หลังจากแช่เสร็จแล้วน้ำแร่จะช่วยให้ผิวชุ่มชื่น รูขุมขนกระชับ
- ออนเซ็นซัลเฟต (Sulfate Hot Springs) – ช่วยรักษาบาดแผลและรอยฟกช้ำต่างๆ บรรเทาแผลไฟไหม้ โรคผิวหนังเรื้อรัง โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดแดงแข็ง
- ออนซ็นธาตุเหล็ก (Iron Hot Springs) – ออนเซ็นจะเหมือนสีสนิม อุดมด้วยธาตุเหล็ก ช่วยในเรื่องโลหิตจางและประจำเดือนมาไม่ปกติ เสริมธาตุเหล็กให้ร่างกาย
- ออนเซ็นไฮโดรเจนคาร์บอเนต (Hydrogen Carbonate Hot Springs) – หมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคไขข้อ และโรคความดันสูง โดยช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ปรับสมดุลในร่างกาย
- ออนเซ็นคลอไรด์ (Chloride Hot Springs) – ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เหมาะกับผู้ที่มือเท้าเย็นบ่อยๆ และผู้หญิงที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะภายใน เช่น มดลูก
- ออนเซ็นกรด (Acidic Springs) – ช่วยกระตุ้นการต้านเชื้อแบคทีเรีย รักษาบาดแผล รวมไปถึงโรคผิวหนังต่างๆ โรคน้ำกัดเท้า และโรคผิวหนังอักเสบ
- ออนเซ็นกรดบอริก (Boric Acid Springs) – ช่วยในเรื่องปัญหาเกี่ยวกับสายตา มีสรรพคุณในการยังยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย แถมยังทำให้ผิวขาวอีกด้วย
- ออนเซ็นแร่เรเดียม (Radium Springs) – ช่วยลดความดันเลือดและผลิตกรดยูริคในร่างกาย เหมาะกับผู้ที่เป็นดรคเกาต์ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบไหลเวียนเลือด โรคไขข้อ และโรคความดันโลหิตสูง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.siamsantajapantour.com/ประเภทของออนเซ็น/
ขั้นตอนการแช่ออนเซ็น (Onsen)
1. ชำระร่างกาย – ควรอาบน้ำ ชำระล้างสิ่งสกปรกโดยการฟอกสบู่ทั่วร่างกาย แล้วล้างให้สะอาดก่อนลงแช่ออนเซ็น
2. ปรับอุณหภูมิ – ก่อนลงแช่ ควรราดน้ำร้อนตามร่างกาย เริ่มจากมือ เท้า แขน ขา ตัว และศีรษะตามลำดับ เพื่อทำการปรับอุณหภูมิของร่างกาย
3. ลงแช่ทีละครึ่งตัว – เพื่อให้ร่างกายชินกับอุณหภูมิ ควรลงบ่ออย่างช้าๆ ทีละครึ่งตัว
4. ลงแช่ถึงระดับไหล่ – หลังจากร่างกายค่อยชินกับอุณหภูมิ หค่อยๆ ขยับตัวลงไปเรื่อยๆ จนถึงระดับไหล่
5. เช็ดตัว ก่อนเข้าห้องแต่งตัว – ก่อนจะเดินไปห้องแต่งตัว ควรเช็ดตัวให้แห้งเพื่อไม่ทำห้องแต่งตัวเปียก
6. ไม่ควรอาบน้ำทันที – ไม่ควรอาบน้ำทันที เพราะร่างกายอาจปรับอุณหภูมิไม่ทัน และเกิดอาการหน้ามืด เป็นลมได้ ควรนั่งสักแปปให้แร่ธาตุต่างๆ เข้าสู่ผิว หรือถ้าใครผิวแพ้ง่าย ล้างน้ำได้หลังจากนั่งพัก
7. ดื่มน้ำหลังแช่ออนเซ็น – ระหว่างแช่ออนเซ็น ร่างกายสูญเสียน้ำจากเหงื่อที่ออก ควรพักดื่มน้ำหลังใช้บริการ
กฎมารยาทของการเข้าใช้ Onsen
แต่ละโรงแรมหรือสถานที่ให้บริการของ Onsen ต่างมีเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นเราควรเคารพกฎเกณฑ์ของสถานที่ และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการคนอื่นๆ ค่ะ โดนหลักๆ กฎเกณฑ์ประกอบด้วย
- ไม่สวมเสื้อผ้า หรือชุดว่ายน้ำลงในบ่อ (ยกเว้นที่ที่อนุญาต)
- อย่าใส่ผ้าขนหนูลงบ่อ หรือลงไปซัก ควรเอาไว้บนศีรษะ
- อาบน้ำให้สะอาด ล้างสบู่ออกให้หมดก่อนลงบ่อ
- คนผมยาวควรมัดหรือเกล้าผมไว้ เพื่อไม่ให้ผมแช่ลงบ่อ
- คนที่มีรอยสักห้ามลงบ่อ (ยกเว้นที่ที่อนุญาต)
- ไม่ควรปรับลดระดับความร้อนของน้ำ
- ไม่นำอาหารหรือเครื่องดื่มไปรับประทาน
- ไม่ส่งเสียงดัง ไม่กระโดดลงบ่อ ไม่ว่ายน้ำหรือสาดน้ำ
- เช็ดตัวให้แห้งก่อนกลับไปตู้ล็อกเกอร์
- ห้ามนำอุปกรณ์โทรศัพท์เข้าไปในห้อง
ข้อควรระวังก่อนเข้าใช้
- ห้ามแช่หลังจากทานอาหาร ควรเว้นประมาณ 30-60 นาที
- หรือดื่มของมึนเมา เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำอาจทำให้หน้ามืดหรือหมดสติได้
- คนป่วย เช่นคนมีไข้ห้ามแช่ออนเซ็น
- ไม่ควรแช่ออนเซ็นเป็นเวลานาน หรือไม่ควรเกิน 3 ครั้งต่อวัน เพราะอาจเป็นอันตราย
- ห้ามแช่ออนเซ็นหลังการออกกำลังกาย ควรพักก่อน 30 นาที
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังเซ็นเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดอาการเส้นเลือดแตกได้
- ไม่ควรอาบน้ำหลังจากแช่ออนเซ็น เพราะแร่ธาตุในบ่อจะถูกล้างออกไปด้วย
เป็นไงบ้างคะกับข้อมูลที่ GoWabi นำมาฝากในวันนี้ หากเพื่อนๆ อยากแช่ออนเซ็น แต่ไม่มีโอกาสไปถึงประเทศญี่ปุ่น รู้หรือไม่?! ว่ากรุงเทพก็มีสถานที่แช่ออนเซ็นด้วยค่ะ หากสาว ๆ กำลังหาโปรโมชั่นร้านนวดร้านดัง รีวิวแน่น พร้อมบริการ ฝังเข็ม ครอบแก้ว นวด นวดแผนไทย นวดน้ำมัน นวดอโรม่า นวดเท้า ออนเซ็น เลือกหาโปรโมชั่นดีๆจาก GoWabi ได้เลยค่ะ!
อ่าน Blog ความสวยความงามเพิ่มเติม คลิก >>>>
ออนเซ็น แนะนำโดย GoWabi
Pañpuri Wellness
ปัญญ์ปุริ เวลเนส สถานที่บริการเต็มรูปแบบเกี่ยวกับ ออแกนิคสปาและทรีตเม้นท์เสริมสวยความงามใจกลางกรุงเทพ ด้วยการตกแต่งร้านด้วยกระจก ลูกค้าสามารถชมวิวทิวทัศใจกลางกรุงเทพฯ 360 องศา ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจที่จะตอบโจทย์ชีวิตคนทำงานในเมืองแบบสุดๆ ช่วยให้คุณสลัดความเครียดทิ้งไปและสัมผัสการพักผ่อนอย่างแท้จริง
ตั้งอยู่ที่ : Gaysorn Urban Retreat, ชั้น 12
เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 22:00 น.
Let’s Relax Onsen Thong Lor
เล็ทส์ รีแลกซ์ ออนเซ็น แอนด์ สปา (ทองหล่อ) มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผิวพรรณด้วยทรีตเมนต์หลากหลายสรรพคุณ ที่ถูกรังสรรค์สูตรเฉพาะมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เหมาะสมกับลูกค้าทุกสภาพผิวและทุกช่วงวัย มาพร้อมแพ็คเกจการนวดสปา นวดอโรม่า หลากหลายรูปแบบ
ตั้งอยู่ที่ : Grande Centre Point, สุขุมวิท 55 (เอกมัย)
เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 23:30 น.